เบื้องหลัง "บัญชีนายกฯ" พลังประชารัฐ-เพื่อไทย

 

                 อีกไม่กี่วันจะได้เห็นหน้าเห็นตากันแล้วสำหรับรายชื่อบุคคลที่จะอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคต่างๆ ช้าที่สุดไม่เกิน 8 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันรับสมัคร ส.ส.วันสุดท้าย

                 ย้ำกันอีกครั้งว่าตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญให้พรรคที่ส่งผู้สมัคร ส.ส. ส่งบัญชีรายชื่อบุคคลที่พรรคจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯได้ไม่เกินสามรายชื่อ และพรรคไหนจะไม่ส่งก็ได้ แต่ถ้าจะส่งต้องส่งรายชื่อให้ กกต.ก่อนที่จะมีการปิดรับสมัคร ส.ส.

                 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อถึงเวลาโหวตในสภา (ครั้งนี้คือที่ประชุมรัฐสภา คือ ส.ว.มาร่วมโหวตด้วย) พรรคไหนจะเสนอชื่อให้ที่ประชุมโหวตก็ได้

                 พรรคที่จะเสนอบุคคลในบัญชีให้ที่ประชุมเลือกเป็นนายกฯได้จะต้องเป็นพรรคที่มี ส.ส.ไม่น้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ของ ส.สทั้งหมด คือ ไม่น้อยกว่า 25 คน และต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่า 50 คน กรณีผู้รับรองนี้อาจจะเป็น ส.ส.พรรคอื่นรับรองด้วยก็ได้

 

 

 

                 มีบางคนออกมาตีความว่า ในจำนวนไม่เกิน 3 รายชื่อที่พรรคเสนอนั้น เมื่อถึงเวลาโหวตจะต้องเลือกจากอันดับหนึ่งก่อน แต่หลายคนออกมาแสดงความเห็นแย้ง เพราะไม่มีบทบัญญัติส่วนไหนในรัฐธรรมนูญกำหนดไว้เช่นนั้น

                 เข้าไปดูรายละเอียดรายชื่อนายกฯของพรรคต่างๆ พรรคที่อยู่ในความสนใจมากที่สุดน่าจะเป็น “พรรคพลังประชารัฐ”

                 มีประเด็นคำถามเกี่ยวกับบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ คือ

                 1.พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคนี้ด้วยหรือไม่ ?

                 ณ ตอนนี้ก็ต้องบอกว่า 99.99 เปอร์เซ็นต์ “บิ๊กตู่” อยู่ในบัญชีนายกฯพลังประชารัฐแน่

                 2.พรรคพลังประชารัฐจะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว หรือจะเสนอชื่อคนอื่นด้วย โดยเฉพาะจะมีชื่อ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯใน ครม.บิ๊กตู่ ที่พยายามเก็บเนื้อเก็บตัวรักษาระยะห่างกับพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่

                 จากข้อมูลล่าสุด ก็ต้องบอกว่า 99.99 เปอร์เซ็นต์ สมคิด จะอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐด้วย โดยพรรคนี้จะเสนอรายชื่อครบทั้งสามรายชื่อ คือ พล.อ.ประยุทธ์ สมคิด และ อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้เป็นหัวหน้าพรรค

 

 

                 สำหรับเหตุผลที่พรรคพลังประชารัฐจะเสนอบัญชีรายชื่อนายกฯครบ 3 รายชื่อนั้น แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐให้เหตุผลว่า เพราะพรรคต้องการโชว์ภาพความเป็นทีมทำงาน โดยเฉพาะตอนนี้มีบางคนปล่อยข่าวว่ารองนายกฯสมคิด จะเลิกเล่นการเมืองแล้ว การใส่ชื่อสมคิดไว้ด้วยเพื่อแสดงให้เห็นว่าสมคิดจะทำงานอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ต่อไป

 

(อ่านต่อ...พปชร. มีชื่อ สมคิด แคนดิเดต นายกฯ)

 

                 ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตกันว่า หากสมคิดอยู่ในบัญชีนายกฯด้วย อาจทำให้ทาง คสช.เกิดการหวาดระแวงสมคิดนั้น แหล่งข่าวเชื่อว่ากรณีนี้จะไม่เป็นปัญหา สมคิดรู้ดีว่าจะจัดการอย่างไรเพราะเคยมีประสบการณ์เมื่อครั้งที่อยู่กับรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร แล้วถูกหวาดระแวงและถูกย้ายจากกระทรวงคลังไปอยู่กระทรวงพาณิชย์

                 แต่อีกประเด็นที่แหล่งข่าวพรรคพลังประชารัฐตั้งข้อสังเกตไว้ขำๆ แต่ก็น่าสนใจ สำหรับเหตุผลที่เสนอชื่อนายกฯไปครบ 3 รายชื่อ คือ อาจจะมีการมองข้ามชอตไปหลังมีรัฐบาลที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ หาก พล.อ.ประยุทธ์ เจอแรงกดดันจากฝ่ายการเมืองมากๆ ซึ่งสภาพที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเจอจากการเป็นนายกฯหลังการเลือกตั้งจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตอนที่เป็นนายกฯขณะเป็นหัวหน้า คสช.ที่มีอำนาจตามมาตรา 44 อยู่ในมือ

                 “หาก พล.อ.ประยุทธ์ ถอดใจลาออก ก็ยังมีคนในพรรคเป็นตัวสำรองอยู่ หากเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเพียงคนเดียวก็ต้องไปเลือกนายกฯจากพรรคอื่น” แหล่งข่าวกล่าว

                 อีกพรรคที่น่าสนใจ คือ พรรคเพื่อไทย ตอนนี้เหมือนมีความตั้งใจปั่นกระแส “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ขึ้นมา ด้านหนึ่งเพื่อดึงคะแนนเสียงให้พรรค อีกด้านหนึ่งมีการวิเคราะห์กันว่าอาจเป็นเพราะ “เจ้าของพรรคตัวจริง” หวาดระแวง “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่มี “ความเขี้ยว” ทางการเมืองมากกว่าชัชชาติ อาจจะเกรงว่าจะซ้ำรอย “สมัคร สุนทรเวช” ที่คุมไม่ได้

 

(อ่านต่อ..."ชัชชาติ" แซง "คุณหญิงหน่อย" ??)

 

 

                 อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์กันว่า ลักษณะของ “ชัชชาติ” ก็ใกล้เคียงกับ “สมคิด” คือ ไม่พร้อมที่จะเปิดหน้า ปะ ฉะ ดะ

                 จนถึงล่าสุด แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า พรรคจะเสนอบัญชีรายชื่อนายกฯครบทั้ง 3 ชื่อ ได้แก่ คุณหญิงสุดารัตน์ ชัชชาติ และ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค

                 แม้ในการส่งรายชื่อจะต้องเขียนชื่อใครไว้ก่อนหลัง แต่พรรคเพื่อไทยจะไม่ถือว่าใครเป็นอันดับหนึ่ง สอง สาม นั่นคือ เมื่อถึงเวลาเลือกนายกฯทาพรรคจะพิจารณากันอีกครั้งว่าจะเสนอชื่อใครไปชิงตำแหน่ง

                 เป็นสไตล์ของพรรคเพื่อไทย ที่จะไม่เปิดไพ่หมดหน้าตัก ต้องกั๊กไว้ดูทางหนีทีไล่จนนาทีสุดท้าย

                 สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ค่อนข้างชัดเจนว่าคงจะส่งชื่อเดียว คือ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรค เพื่อความชัดเจน และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำเพียงหนึ่งเดียว แม้บางคนในพรรคต้องการให้ส่งชื่อ “ชวน หลีกภัย” ไปด้วยเพื่อช่วยดึงคะแนนให้พรรค แต่ดูจากท่าทีของชวน ที่ปฏิเสธแข็งขันมาตลอด ก็น่าจะจบ

                 พรรคอื่นๆที่จะเสนอบัญชีนายกฯก็เช่นกัน มีแนวโน้มจะส่งหัวหน้าพรรคแค่เพียงชื่อเดียว ไม่ว่าจะเป็นภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคอนาคตใหม่ และ พรรคเสรีรวมไทย

 

 

                 นี่แค่โค้งแรกของการเลือกตั้งเท่านั้น...

 

====================

โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์