ประชาสัมพันธ์

สธ.แจง "วัคซีนโควิด-19" นอร์เวย์คนละตัวกับไทย หลังพบผู้รับวัคซีนดับแล้ว 23 ราย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันไทยสั่งซื้อวัคซีนโควิดคนละตัวกับนอร์เวย์ หลังมีรายงานว่าผู้ที่รับวัคซีนไปนั้นเสียชีวิตแล้ว 23 ราย อย่างไรก็ตามจะนำข้อมูลมาใช้วางแผนดูแลการรับวัคซีนให้มีความปลอดภัยต่อไป

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ปฏิบัติหน้าที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีนอร์เวย์พบผู้เสียชีวิตหลังรับวัคซีนโควิด 19 จำนวน 23 ราย ว่า นอร์เวย์ได้ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา ซึ่งเป็นวัคซีนคนละตัวกับที่ไทยตั้งเป้านำมาฉีดคนไทย อย่างไรก็ตาม แพทย์ของนอร์เวย์แนะนำว่าต้องประเมินความเสี่ยงก่อนการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว โดยต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล และยังไม่สรุปว่าการฉีดวัคซีนนี้ทำให้เสียชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ทั้งนี้ ประเทศไทยจะนำข้อมูลมาใช้วางแผนดูแลการรับวัคซีนของคนไทยให้มีความปลอดภัยต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
หมอยง แนะท่าการฉีดวัคซีน โควิด-19 ในผู้ใหญ่ - เด็กโต พร้อมเตือนกรณีแพ้แบบเฉียบพลัน

พร้อมกันนี้ยังรายงานสถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย ว่า ขณะนี้พบการติดเชื้อในผู้สูงอายุจำนวนมากหลายราย โดยติดเชื้อจากในครอบครัวโดยคนหนุ่มสาวที่ไม่มีอาการ ทำให้มีความเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ เช่น กรณีเขตทวีวัฒนา กทม. มีการติดเชื้อใน 2 ครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุติดเชื้อทั้งอายุ 91 ปี 71 ปี และ 73 ปี หรือกรณี จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีการติดเชื้อ 11 ราย ก็พบการติดเชื้อในเด็กอายุ 1 ปี 3 ปี และผู้สูงอายุ 55 ปี 57 ปี และ 77 ปี ดังนั้น ต้องยกระดับค้นหาเชิงรุกในชุมชน โดยเฉพาะจังหวัดที่ยังพบผู้ติดเชื้อ เช่น พื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ต้องกำกับติดตามกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้ครบ 14 วัน ช่วยลดเสี่ยงแพร่เชื้อต่อในชุมชน และลดเสี่ยงการติดเชื้อในผู้สูงอายุได้ขอความร่วมมือลูกหลาน ที่อยู่หรือไปเยี่ยมผู้สูงอายุ ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค

นพ.โสภณ กล่าวว่า ภาพรวมมีรายงานการติดเชื้อระลอกใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 61 จังหวัด โดย จ.พัทลุงเป็นจังหวัดใหม่พบการติดเชื้อ มาจากการคัดกรองเชิงรุกในแรงงานต่างด้าว พบผู้ติดเชื้อ 3 ราย นอกจากนี้ ยังมีการคัดกรองเชิงรุกใน จ.ตรัง พบผู้ติดเชื้อเป็นแรงงานต่างด้าว 2 ราย เป็นคนงานในโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราโดยคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่มือไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล และทำการตรวจโควิด 19 เนื่องจากเป็นกลุ่มเป้าหมายในการตรวจ จึงพบเชื้อวันที่ 14 มกราคม ส่วนอีกรายเป็นพนักงานในโรงงานเดียวกันได้รับการตรวจด้วยก็พบเชื้อ โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10 ราย กำลังเฝ้าระวังติดตามอาการ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ