สุทธิชัย หยุ่น

สุทธิชัย หยุ่น + ประหลาดไหม... เนวินชู "ชวน หลีกภัย" ต่อรองทักษิณ + อยู่ดีๆ ก็มีชื่อ "ชวน หลีกภัย" ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นหนึ่งในทางเลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ไม่ได้มาจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่มาจากกลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งอ้างว่ามี 37 ส.ส.ในมุ้งของตัวเอง คนที่เป็นโฆษกของเพื่อนเนวินกลุ่มนี้ คือ "บุญจง วงศ์ไตรรัตน์" ส.ส.นครราชสีมา บอกว่าเวลานี้เหลือ 2 สูตรของการตั้งรัฐบาล สูตรที่ 1 คือ พรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม แต่กลุ่มของเพื่อนเนวินอ้างว่า ต้องไม่ให้คนในกลุ่มของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันการเกิดวิกฤติการเมืองอีกครั้ง พูดง่ายคือ กลุ่มเพื่อนเนวินเห็นว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ไม่ควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป อีกสูตรในความเห็นของ นายบุญจง บอกว่า เป็นการร่วมกันระหว่างร่วมรัฐบาลเดิมเปลี่ยนไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ มีอดีต ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนเข้าร่วม และที่น่าแปลกใจ คือ นายบุญจง เสนอให้ "นายชวน หลีกภัย" เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ซึ่งโดยตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านคนสำคัญ น่าสนใจว่า ทำไมกลุ่มเพื่อนเนวิน จึงมุ่งไปที่นายชวน ไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ อาจจะอ้างได้ว่า เพื่อไม่ให้เป็นการแข่งขันกันในระดับหัวหน้าพรรค แต่เอาผู้อาวุโสที่ไม่มีภาพของการเผชิญหน้า หรือความขัดแย้ง แต่ว่าเอาเข้าจริงๆ ถ้าดูเบื้องหลังให้ลึกนั้น กลุ่มเพื่อนเนวิน อาจจะกำลังใช้นายชวน และประชาธิปัตย์เป็นข้อต่อรองกับพรรคเพื่อไทย เพราะว่า ส.ส.37 คน กลุ่มนี้ ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ทำให้ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ซึ่งขณะนี้อยู่ต่างประเทศต้องโทรศัพท์มาต่อรองกันวุ่นวาย พยายามดันให้กลุ่มนี้เข้าพรรคเพื่อไทย เพื่อตั้งรัฐบาล เอาคนของเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ข่าวอีกกระแสหนึ่งบอกว่า กลุ่มเพื่อนเนวินก็แตะ 2-3 ขั้ว พร้อมๆ กัน แปลว่า ขณะที่ออกว่าน่าจะจับมือกับประชาธิปัตย์นั้น ก็ต้องการจะได้ที่นั่งในรัฐบาลใหม่ ถ้าพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลเก่าร่วมกันจัดตั้งอีกครั้งหนึ่ง ข่าวบอกว่า สมาชิกสังกัดกลุ่มเพื่อนเนวิน 37 คนนี้ ได้ยื่นเงื่อนไขขอเก้าอี้รัฐมนตรี 7 ที่นั่ง รัฐมนตรีว่าการ 3 และรัฐมนตรีช่วย 4 ที่นั่ง โดยขอกระทรวงหลักๆ ด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงคมนาคม ฉะนั้น ข่าวที่ปล่อยออกมาช่วงนี้อย่าเพิ่งเชื่อเป็นการต่อรอง เป็นการสร้างคะแนนนิยมและเป็นการพยายามให้สังคมเห็นว่า กลุ่มนี้มีความหวังดี ต้องการนายกรัฐมนตรีที่ไม่สร้างวิกฤติอีกรอบหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันก็อาจจะพลิกได้ เพราะถ้าหากได้เก้าอี้ตามที่ร้องขอจากกลุ่มเพื่อไทย ก็อาจจะพลิกสถานการณ์ แล้วอ้างถึงความจำเป็นที่ต้องมีรัฐบาลต่อไปก็ได้ แต่ ณ วันนี้ เดิมทีที่มีการบอกว่า ในวันที่ 8 ธันวาคม จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี อาจจะไม่เกิดขึ้น เพราะมีประเด็นปัญหากฎหมายมากมายที่ต้องตีความ และ ส.ว.40 คนก็ได้ยื่นให้ตีความแล้วว่า นายกรัฐมนตรี ประธานสภา ซึ่งรักษาการขณะนี้ เมื่อเป็น ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ซึ่งถูกยุบ จะมีสิทธิทำหน้าที่นี้ได้หรือไม่ เพราะว่ามีการตีความกันด้านหนึ่งว่า ส.ส.สัดส่วน ไม่น่าจะสามารถโอนไปอยู่พรรคใหม่ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีประเด็นเรื่องพรรคเก่าโอนไปอยู่พรรคใหม่ ที่ไม่มี ส.ส.และไม่เคยส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งจะถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ฉะนั้น ณ ขณะนี้ฝุ่นยังตลบ ยังไม่มีอะไรที่สามารถยืนยันได้ว่าจะเป็นเส้นทางไหน เพราะต่างฝ่ายต่างวิ่งกันวุ่น จากนี้ไป 2-3 วันจะมีข่าวลือ ข่าวปล่อย เกิดขึ้นมากมาย ทำใจให้นิ่งประเมินจากความเป็นจริง และอย่าเชื่อใครที่บอกว่าทำเพื่อชาติขณะนี้ โดยเฉพาะนักการเมืองที่เราได้ยิน เช้า สาย บ่าย ค่ำ ทุกวี่วันขณะนี้