คอลัมนิสต์

ยาแรงปราบผีน้อยเร่ร่อน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยาแรงปราบผีน้อยเร่ร่อน บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563

 

 

          ไม่น่าเชื่อว่าระยะเวลาเพียงไม่ถึง 3 เดือนสถานการณ์ไวรัสร้ายโควิด-19 ที่ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมือง ณ เมืองอู๋ฮั่น ประเทศจีน จะลุกลามแพร่ระบาดออกไปอย่างรวดเร็วได้ถึงขนาดนี้ วันนี้ทั่วโลกต่างหวาดผวาไปกับภัยร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนล้มหายตายจากเหมือนผักปลาไม่เว้นวัน แม้ประเทศเหล่านั้นจะมีมาตรการคัดกรองที่เข้มข้นเพียงใดแต่ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งมัจจุราชตัวพ่อให้สงบลงไปได้

 

อ่านข่าว...  ผีน้อยอัดคลิปด่าเดือดสุดหยาบ เป็นผีน้อยแล้วหนักหัวใคร

 

          ขณะที่ผู้คนทั่วโลกกำลังหาทางต่อสู้เพื่อป้องกันเจ้าโควิด-19 อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ทำไมนะ “ประเทศไทย” กลับต้องมาประสบพบเจอพฤติกรรมกากๆ ของผู้คนในประเทศบางคนที่ขาดจิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม โดยเฉพาะบรรดา “ผีน้อย” (เเรงงานไทยข้ามชาติที่ไปทำงานเเบบผิดกฎหมายในต่างเเดน) บางคนที่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแต่ยังทำตัวโชว์โง่ละเลยมาตรการกักกันตัวเอง 14 วันด้วยการออกไปลั้นลาโพสต์ภาพตนเองตามสถานที่ต่างๆ อย่างมีความสุข


          ภาพญิงสาวคนหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กในทำนองว่า บินกลับจากสนามบินอินชอนประเทศเกาหลีใต้และมานั่งกินหม่าล่าร้านดังในตัวเมืองเชียงใหม่ จากนั้นเติมความสุขแบบรัวๆ ด้วยการไปเที่ยวผับ หรือภาพสาวไทยกลับจากเมืองแทกูแต่ดันโผล่ไปเที่ยวภูเก็ตโดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่อาจตามมา ส่งผลให้ผู้คนในประเทศวิตกกังวลและวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของสองสาวมหาภัยอย่างเผ็ดร้อน พร้อมถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง

 

          มาถึงตรงนี้คงต้องตั้งคำถามกลับไปยังผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่า เราจะจัดการกับคนเหล่านี้อย่างไร..เฮ้อนี่มันแค่ผีน้อยกองกอยสาวไม่กี่ตัวก็ทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนกันได้ขนาดนี้ แต่อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีบรรดาผีน้อยนับหมื่นชีวิตทยอยเดินทางกลับไทย และเมื่อถึงเวลานั้นรัฐบาลจะมีมาตรการรับมืออย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมอันตรายซ้ำซากเยี่ยงนี้อีก..แค่คิดก็เสียววาบไปกับสถานการณ์ “จับปูใส่กระด้ง” ที่จะมาถึงในอีกไม่ช้า...วันนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นกันได้อีก ดังนั้นรัฐบาลจะละเลย หรือวางเฉยไปในสิ่งที่เกิดไม่ได้อีกแล้ว




          การทำตัวเป็น “ระเบิดเวลา” ของบรรดาผีน้อยที่พาตัวไปวิบวับวิบวับตามสถานที่ต่างๆ อย่างไม่ยี่หระต่อสังคมส่วนรวมถือเป็นความหละหลวมอย่างร้ายแรงของทางการไทยหรือไม่ ตรงนี้คงทิ้งเป็นคำถามไว้ให้ตอบ แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่าหากเรายังละเลยเพิกเฉยกับสิ่งที่เป็นอยู่เชื่อว่า “ประเทศไทย” อาจหนีไม่พ้นวิกฤติร้ายของการแพร่ระบาดภายในประเทศอย่างแน่นอน ทั้งนี้รัฐบาลในฐานะผู้บริหารประเทศควรใช้บทเรียนดังกล่าวเข้าไปจัดระเบียบใหม่ทั้งระบบ เพราะหากยังไม่สะสางความอลหม่านจะตามมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการใช้ยาเเรง และกฎหมายที่เข้มข้นอย่างไม่อ่อนข้ออาจเป็นหนทางเดียวที่ทำให้คนในชาติรอดพ้นจากมหันตภัยไวรัสทมิฬไปได้.....ถึงเวลาปราบผีน้อยเร่ร่อนกันแล้ว

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ