มังกรขยับ ‘ทักษิณ’ ปิดจุดอ่อนลุย ‘สส.อีสาน’ สยบแรงกระเพื่อม
เศรษฐา 2 เอฟเฟกต์ ทักษิณเอาอยู่ อีสานป่วนเร็วจบเร็ว นายใหญ่รู้จักทุกมุ้งทุกก๊วน สส.ส่วนใหญ่เป็นเสาไฟฟ้าสีแดง ไม่ใช่บ้านใหญ่
สยบเกมป่วน ทักษิณ มังกรขยับกายปิดจุดอ่อน สส.อีสาน เศรษฐาไปนอนค้างร้อยเอ็ด-มหาสารคาม ตามด้วยนายใหญ่ไปโคราช
อีสานฐานที่มั่นหลัก ทักษิณเอาอยู่ ป่วนเร็วจบเร็ว นายใหญ่รู้จักทุกมุ้งทุกก๊วน สส.ส่วนใหญ่เป็นประเภทเสาไฟฟ้าสีแดง ไม่ใช่บ้านใหญ่
บรรยากาศคุกรุ่นสื่อโซเชียล หลังปรับ ครม.เศรษฐา 2 มีข่าวว่า สส.เพื่อไทย เสียงเจี๊ยวจ๊าวประมาณว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล แต่พลันที่นายใหญ่ขยับกาย ออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ทุกอย่างก็เงียบกริบ
วันที่ 1 พ.ค. 2567 ทักษิณ ชินวัตร ไปปรากฏตัวที่ จ.ภูเก็ต มีภาพไปย่ำราตรีบางลา และไปเที่ยวที่สวนน้ำอันดามันดา โดยมี สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมบุตรชาย พสุ ลิปตพัลลภ ให้การต้อนรับ
การเดินทางไปภูเก็ตของทักษิณ ล้วนแฝงนัยยะทางการเมือง ไม่ต่างจากการเดินทางไปบ้านเกิด เชียงใหม่
ที่สำคัญ ปลายเดือน พ.ค.นี้ ทักษิณจะเดินทางไปนครราชสีมา เยี่ยมเยียนสุวัจน์บ้าง และหนีไม่พ้นต้องไปเยียวยาใจ กำนันป้อ วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล พ่อรัฐมนตรีสุดาวรรณ ที่ต้องโยกจากท่องเที่ยวฯ ไปวัฒนธรรม
ด้านพรรคเพื่อไทยก็รู้ว่า หลังปรับ ครม.ทุกครั้งจะต้องมีปฏิกิริยาเชิงลบ จึงชิงจัดอีเวนท์ ‘10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อ ให้เต็ม 10’ ในวันศุกร์ที่ 3 พ.ค. 2567
เนื่องจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้ารับตำแหน่งและเริ่มบริหารราชการแผ่นดิน จากวันที่ 1 ก.ย. 2567 จนถึงวันนี้นับเป็นเวลา 242 วัน เกือบ 9 เดือน
ภายในงาน จะมีการเปิดวิสัยทัศน์เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
รวมทั้งเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. ในนามของพรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่ง ซึ่งคาดว่า จะเป็นนายก อบจ. หรือว่าผู้สมัครนายก อบจ. ที่มาจากภาคเหนือ และภาคอีสาน
เปิดตัวรัฐมนตรีป้ายแดง
นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า ยังเปิดเกมรุกภาคอีสานปิดจุดอ่อน หลังปรับ ครม.เศรษฐา 2 โดยเน้นไปที่ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.มหาสารคาม
วันที่ 5-6 พ.ค. 2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจราชการ พร้อมกับจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ผู้ที่อยู่รอดจากเกมเก้าอี้ดนตรี
เฉพาะสนามร้อยเอ็ด เพื่อไทยสูญเสียที่นั่ง สส.ให้พรรคอื่นถึง 3 ที่นั่งจากทั้งหมด 8 ที่นั่ง ดังนั้น เพื่อไทย จึงมี สส.ร้อยเอ็ด เพียง 5 คน คือฉลาด ขามช่วง,นรากร นาเมืองรักษ์,จิราพร สินธุไพร, กิตติ สมทรัพย์ และชญาภา สินธุไพร
กระแสดราม่า สส.น้ำ จิราพร สส.ร้อยเอ็ด 2 สมัย ข้ามหัว สส.อาวุโส 8 สมัยอย่าง ฉลาด ขามช่วง เป็นรัฐมนตรี ก็คนพูดถึงบ้าง แต่ไม่ได้เกิดแรงกระเพื่อมใดๆ
สนามมหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ไม่ชนะยกจังหวัด ต้องเสีย 1 ที่นั่งให้ภูมิใจไทย ส่วน 5 คนที่เหลืออยู่ประกอบด้วย กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์,ไชยวัฒนา ติณรัตน์, สรรพภัญญู ศิริไปล์,จิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ และรัฐ คลังแสง
เมื่อสุทิน คลังแสง ได้นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม ทำให้ สส.อาวุโสบางรายไม่แฮปปี้ จึงมีข่าวปล่อยทำนองว่า สส.รุ่นลายครามคนนั้นดอดไปพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่สนามกอล์ฟ ทบ.
อีสานป่วนเร็วจบเร็ว
นักวิเคราะห์หน้าจอบางสำนัก วิเคราะห์ว่า ปรับ ครม.เศรษฐา 2 เที่ยวนี้ จะเกิดแรงกระเพื่อมในกลุ่ม สส.อีสาน อย่างรุนแรง
เมื่อ ไชยา พรหมา ถูกเขี่ยพ้น รมช.เกษตรและสหกรณ์ และยกให้พรรคพลังประชารัฐดูแลกระทรวงเกษตรฯเบ็ดเสร็จ
มิหนำซ้ำ สุทิน คลังแสง เกือบหลุดเก้าอี้ รมว.กลาโหม แต่โชคดีที่ได้ต่ออายุไปอีก เพราะมีภารกิจสำคัญต้องเดินหน้าต่อให้จบ
ปัจจุบัน มีรัฐมนตรีที่มาจากโควตาอีสาน 6 คนคือ เกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย, ประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดีอี, สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม, สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม และ จิราพร สินธุไพร รมต.สำนักนายกฯ
หากเปรียบเทียบกับจำนวน สส.อีสาน ที่มี สส.เขตมากกว่า 70 คน รวมบัญชีรายชื่อ ก็เฉียดร้อยคน ควรได้โควตารัฐมนตรี 7-8 คน
เมื่อนายใหญ่ชิงรุกใหญ่ นายกฯเศรษฐา ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด-มหาสารคาม และปิดท้ายทักษิณไปเยือนโคราช แรงกระเพื่อมในโซเชียลก็เงียบกริบ