กรณีศึกษาเหตุการณ์โคราช

          สังคมไทยต้องพบกับความเศร้าสลดอีกครั้งหลังเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิด เมื่อ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี สังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ คลุ้มคลั่งบุกปล้นอาวุธปืนสงครามไปกราดยิงไม่เลือกหน้า ทั้งทหาร ตำรวจ ชาวบ้าน เด็กนักเรียน ผู้หญิง ก่อนขับรถฮัมวี่หนีเข้าไปในห้างเทอร์มินอล 21 นครราชสีมา ยิงถังแก๊สวางเพลิงในห้าง จนไฟลุกท่วมรุนแรง และกราดยิงผู้คนไปทั่ว ทำให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บกว่า 50 ราย เจ้าหน้าที่ได้มีการสนธิกำลังเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนภายในห้างที่ตกอยู่ในอาการหวาดวิตก วิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด จากช่วงเย็นของวันเสาร์ล่วงเลยไปค่อนคืน จะเห็นฝูงชนถูกนำตัวออกมาจากห้างเป็นระยะๆ กระทั่งผ่านไปกว่า 17 ชั่วโมง เสียงปืนที่ดังเป็นระยะๆ ค่อยๆ เบาบางลง ท่ามกลางข่าวเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้และคนร้ายเสียชีวิตในช่วงสายวันรุ่งขึ้น

อ่านข่าว...  เปิด แผนผัง ห้างเทอร์มินอล21 โคราช

          หลายคนตั้งคำถามเกิดอะไรขึ้นในสังคมไทยที่ทำให้คนที่มีความรู้มีความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน ถึงขนาดฟิวส์ขาดกระทำการรุนแรงใช้อาวุธปืนยิงใส่คู่กรณีรวมถึงเจ้านายถึงแก่ชีวิตอย่างไร้สติหลังการเจรจาปัญหาการซื้อขายที่ดินไม่สำเร็จ จากนั้นก็กลับเข้ากรมปล้นคลังอาวุธยิงทหารเวรเสียชีวิต นำอาวุธสงครามพร้อมเครื่องกระสุนออกมาจำนวนมากใส่รถฮัมวี่ตะบันขับออกมาไล่ยิงดะตลอดเส้นทางอย่างไม่ปรานีปราศรัย เห็นได้ถึงการกระทำของคนร้ายในครั้งนี้มีจิตใจโหดเหี้ยม ยิงแม้กระทั่งเด็กนักเรียนที่ไม่รู้อิโน่อิเหน่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันคนร้ายยังโพสต์ข้อความและภาพลงในเฟซบุ๊ก นอกจากจะระบายความรู้สึกคับข้องใจถึงปัญหาส่วนตัวแล้วก็ยังพูดถึงพฤติกรรมการกระทำอย่างอุกอาจ ขณะที่ทีท่าที่สื่อสารออกมาก็รับรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างปกติ

          หากประเมินเบื้องต้นการกระทำของคนร้ายหากมุ่งปมไปเรื่องของความคับแค้นใจ นักจิตวิทยาได้วิเคราะห์ความคับแค้นใจที่นำไปสู่ความก้าวร้าวนั้นสาเหตุมาจาก 1.การถูกรังแกและวันหนึ่งเมื่อทนไม่ไหวก็ต้องระเบิดออกมา สติก็อาจจะหลุดลอยและควบคุมอารมณ์ไม่ได้ 2.ความน้อยเนื้อต่ำใจ การตกเป็นเบี้ยล่างที่ไม่มีทางต่อสู้และไม่มีทางก้าวพ้นจากการตกเป็นเบี้ยล่างหรืออำนาจมืด 3.ความอยุติธรรม เช่น การถูกคดโกง การปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม การถูกเลือกปฏิบัติ การวิ่งเต้นเส้นสาย 4.การถูกหยามหมิ่นน้ำใจและศักดิ์ศรี โดยเฉพาะลูกผู้ชายที่ว่า “ฆ่าได้หยามไม่ได้” สาเหตุต่างๆ เหล่านี้หากได้รับการกระตุ้น หรือยั่วยุ ตอกลิ่มลงไปกลางแผลแล้วก็มีแนวโน้มจะเกิดความรุนแรงได้ง่ายขึ้นกว่าคนปกติ

          เหตุการณ์กราดยิงโหดเหี้ยมอย่างนี้เราเคยเห็นแต่ข่าวคราวในต่างประเทศ และไม่เคยคาดคิดว่าความรุนแรงในรูปแบบนี้จะเกิดขึ้นบ้านเรา แต่เมื่อมีตัวอย่างให้เห็นแล้วก็ไม่อยากคาดเดาว่าจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่ เป็นเรื่องที่สังคมไทยต้องถอดบทเรียนเหตุการณ์ร้ายนี้โดยเริ่มจากตัวเราที่จะไม่สร้างปัญหาให้สังคมและสอดส่องดูแลคนใกล้ตัว ขณะเดียวกันภาครัฐก็ต้องเพิ่มมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะให้แก่ประชาชน การควบคุมอาวุธปืนทั้งในเมือง ในศูนย์การค้า และในชุมชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย หรือเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในรูปแบบอื่นๆ เยียวยาผู้ที่สูญเสียและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างรวดเร็ว และดำเนินการการฟื้นฟูขวัญกำลังใจของประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้ในเร็ววัน