ข่าว

ปคม.คุมตัว 5 หมอ 1 นักวิทย์ และ 4 นายหน้ารับจ้าง"ขบวนการอุ้มบุญข้ามชาติ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จาก ปปง. เรียกตัวผู้ต้องหาคดีอุ้มบุญชุดที่สองจำนวน 10 คน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ก.ค. ที่ บก.ปคม. (กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา ผกก.2 บก.ปคม. พร้อม ร.ต.อ.จักรภพ เชื้อสาย รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จาก ปปง. เรียกตัวผู้ต้องหาคดีอุ้มบุญชุดที่สองจำนวน 10 คน ประกอบด้วย 
 

-แพทย์เฉพาะทางสูตินารีแพทย์ รับจ้างทำหน้าที่ผสมเทียม ด้วยการนำน้ำเชื่ออสุจิฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกของหญิงรับจ้างตั้งครรภ์ จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายแพทย์  ช. / นายแพทย์ ว. / นายแพทย์ พ. / นายแพทย์ ศ. / แพทย์หญิง ว.  โดยแพทย์ 2 รายแรกเป็นแพทย์ประจำ รพ.ของรัฐ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นอกนั้นเป็นแพทย์ รพ.เอกชน 

ปคม.คุมตัว 5 หมอ 1 นักวิทย์ และ 4 นายหน้ารับจ้าง"ขบวนการอุ้มบุญข้ามชาติ"

-นักวิทยศาสตร์หญิง 1 ราย ทำหน้าที่ผสมไข่ของพริตตี้สาวหน้าตาดีที่ยอมขายให้แก๊งอุ้มบุญ นำไปผสมกับเชื้ออสุจิ ชายหนุ่มหน้าตาดีที่ขายน้ำเชื่อฯ ให้แก๊งอุ้มบุญ ก่อนส่งให้หมอสูติฯ ผู้ต้องหา นำไปฝังในมดลูกหญิงรับจ้างตั้งครรภ์

-นายหน้า(เอเย่นต์)ทำหน้าที่ติดต่อจัดหาผู้หญิงรับจ้างตั้งครรภ์ มาเป็นแม่อุ้มบุญ ทั้งหมดเป็นหญิง 4 ราย

ปคม.คุมตัว 5 หมอ 1 นักวิทย์ และ 4 นายหน้ารับจ้าง"ขบวนการอุ้มบุญข้ามชาติ"

โดยผู้ต้องหาทั้ง 10 รายร่วมกระทำความผิดรับจ้างขบวนการ"อุ้มบุญข้ามชาติ"แก๊งของนายจ้าว หราน ที่ถูก พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก. นำกำลังคอมมานโด 904 บุกจับกุมไปเมื่อ 13 ก.พ. ที่ผ่านมาพร้อมพวก  

รวมผู้ต้องหาในขบวนการนี้ทั้งสิ้น 23 รายจับกุมได้ทั้งสิ้น 21 ราย มีผู้ต้องหาชาวจีนหลบหนี 1 ราย กับปู้ต้องหาหญิงไทยที่ติดคุกอยู่ประเทศจีน 1 ราย  


ในวันนี้ พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม.ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 10 ราย พร้อมสำนวนการสอบสวนอีกตั้งใหญ่ นอกเหนือจากที่ส่งมอบให้อัยการไปก่อนหน้าแล้วกว่า 1 หมื่นแผ่น

จนเวลา 10.45 น. พนักงานสอบสวนพาผู้ต้องหาทั้ง 10 ราย ขึ้นรถตู้ 2 คันเดินทางไปมอบให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการ ถนนรัชดาฯ ซึ่งอัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาทั้งหมดตามฐานความผิด "สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า ร่วมกันซื้อ เสนอซื้อ ขาย นำเข้า หรือส่งออก ซึ่ง อสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาอาศัยเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ หรือ พ.ร.บ.อุ้มบุญ มีผลบังคับใช้เมื่อปี พ.ศ.2558 

โดยคดีนี้ศาล ได้มีการสืบพยานบุคคลที่เห็นการกระทำแพทย์ผู้ต้องหาในคดีไว้ล่วงหน้าส่วนหนึ่งแล้ว


สำหรับขบวนการอุ้มบุญข้ามชาติ ของนาย "จ้าว หราน" นี้ ปปง.ตรวจสอบพบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินประเภทบ้าน ที่ดิน และยานพาหนะรวมกว่า 100 ล้านบาท ให้บอร์ด ปปง.พิจารณาให้ตกเป็นของแผ่นดินตามขั้นตอนกฏหมาย


สำหรับความผิดทางวินัยของแพทย์ทั้ง 5 รายที่ถูกดำเนินคดีทั้ง 5 รายในวันนี้ ทางแพทยสภาได้ติดต่อขอข้อมูลมายัง บก.ปคม. เพื่อนำไปตรวจสอบ อยู่ระหว่างการพิจารณาด้านวินัยและจรรยาบรรณ 

ส่วนบรรดาผู้หญิงที่รับจ้างทำหน้าที่ตั้งครรภ์ บ้างก็เรียกว่า"อุ้มบุญ" บ้างก็เรียก"อุ้มบาป"มีความผิด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาอาศัยเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ด้วย แต่ให้ความร่วมมือในการสืบสวนสอบสวนจึงพิจารณากันไว้เป็นพยาน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากตำรวจ บก.ปคม.ทลายแก๊ง นาย จ้าง หราน ไปเรียบร้อยแล้ว ได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อเอาผิดขบวนการอุ้มบุญแก๊งอื่นต่อทันที ที่ขณะนี้มีข้อมูลในมือตำรวจ ปคม.แล้ว 2 แก๊งด้วยกัน
สำหรับหญิงที่สมัครใจมารับจ้างอุ้มบุญ ในคดีต่อจากนี้ไป ทาง บก.ปคม.พิจารณาดำนินคดีด้วยนอกจากผิดกฎหมายแล้วยังผิดศีลธรรม และจะเกิดปัญหาสังคมได้เมื่อเด็กที่คลอดมาแล้วไม่สมประกอบหรือไม่เป็นที่ประสงค์ของผู้ว่าจ้างให้ตั้งครรภ์แทน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ