ข่าว

สรส. ออกแถลงการณ์ ไม่ไว้วางใจต่อกระบวนการฟื้นฟูการบินไทยของรัฐบาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สรส.ออกแถลงการณ์ ไม่ไว้วางใจต่อกระบวนการในการฟื้นฟูของรัฐบาล ตั้งคณะทำงานฟื้นฟูการบินไทยวางจังหวะก้าวในการขับเคลื่อนคู่ขนานกับรัฐบาล

สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(สรส.) ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ ๑ มติเอกฉันท์องค์กรสมาชิก สรส. แต่งตั้งคณะทำงานฟื้นฟูการบินไทย ใจความว่า
ตามที่รัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติในการฟื้นฟูบริษัทการบินไทย โดยผ่านกระบวนการล้มละลายอันเนื่องมาจากความล้มเหลวในการฟื้นฟูการบินไทยตามแผนที่ฝ่ายบริหารได้จัดทำขึ้นและได้เสนอผ่านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)สังกัดกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่และผ่านณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและได้ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไปก่อนหน้านี้กว่า๒ปี ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ทุกฝ่ายมีการรับรู้ในการดำเนินการทำแผน มีการรายงานทุกครั้งในการประชุม คนร. ยกเว้น สหภาพแรงงานและพนักงานที่ไม่มีส่วนรับรู้แต่ประการใด จนในที่สุดกระบวนการฟื้นฟูตามแผนเดิมที่ผู้บริหาร สคร. คนร. และ ครม. รับรู้และมีส่วนร่วมนั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
แต่ปราศจากผู้รับผิดชอบ จนในที่สุดต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลายและจะค้ำประกันเงินกู้ให้การบินไทยฟื้นฟูอีกเป็นจำนวน ๕๔,๐๐๐ ล้านบาท จนสังคมต้องก่นด่าผ่านสื่อออนไลน์รวมทั้งสื่อมวลชนต่างพร้อมใจกันเสนอข่าวและเป็นช่วงในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ และรัฐบาลต้องออก พ.ร.ก.กู้เงิน ๑.๙ ล้านล้านบาทเพื่อเยียวยาประชาชนและยังไม่ทันเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ยังไม่ยื่นต่อศาลล้มละลาย ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะทำงานในการฟื้นฟู กระทรวงการคลังก็ได้ขายหุ้นบริษัทการบินไทยออกไปทันทีจำนวน ๖๙ ล้านหุ้นๆ ละ ๔.๐๓ บาท จำนวนเงิน ๒๗๘ ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน ๓.๑๗ เปอร์เซ็นต์ ทั้ง ๆ ที่การบินไทยมีหนี้สินสูงถึง ๒๔๖,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งการขายหุ้นออกไปจำนวนดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้สถานะหนี้ของการบินไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากแต่ประการใด แต่การขายหุ้นออกไปจนกระทรวงการคลังถือหุ้นน้อยว่าร้อยละ ๕๑ ทำให้บริษัทการบินไทยพ้นสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจและทำให้การตรวจสอบ การมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูจากพนักงานการบินไทยสิ้นสุดลงตามนัยของกฎหมายเพราะจะทำให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยสิ้นสภาพไปด้วย จากนี้ไปการดำเนินการก็ปราศจากการมีส่วนร่วมและการตรวจสอบจากคนการบินไทย จากที่กล่าวมาคงกล่าวได้ว่านี่คือ “ขบวนการปล้นการบินไทย สายการบินแห่งชาติ” “คือขบวนการล้มสหภาพแรงงาน”
ซึ่งได้พยายามทำมาก่อนหน้านี้และมาบรรลุในสถานการณ์ไวรัสโควิด-๑๙ และการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และที่สำคัญ “คนที่พยายามทำลายการบินไทย สายการบินแห่งชาติ ตั้งแต่ต้นนับแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๔ ก็ยังเป็นเสนาบดีในรัฐบาลชุดนี้” ทั้งที่จริงแล้ว เมื่อมีเหตุที่ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูโดยผ่านกระบวนการโดยศาลล้มละลายทุกอย่างต้องหยุดเพื่อรอคำสั่งของศาลว่าให้ดำเนินการอย่างไร แต่กรณีนี้เร่งรีบในการขายหุ้น เร่งรีบแย่งชิงในการเสนอคนของตนเองเข้าไปเป็นคณะทำงานและคณะกรรมการในการตรวจสอบของรัฐมนตรีและพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง...ซึ่งชี้ให้เห็นถึงเงื่อนงำที่ไม่น่าไว้วางใจ
 

สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) มีนโยบายที่แจ่มชัดในการต่อต้านการแปรูปรัฐวิสาหกิจ ต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ มีองค์กรสมาชิกที่เป็นสหภาพแรงงานทั้งรัฐวิสาหกิจ เอกชนและลูกจ้างภาครัฐ จำนวน ๔๔ แห่ง และมีสาขาภูมิภาค ๙ สาขาและศูนย์ประสานงาน สรส. ประจำจังหวัดเกือบทุกจังหวัดได้สื่อสารและหารือกันเป็นระยะในสถานการณ์ที่ผ่านมาและให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดและรัฐวิสาหกิจเป็นกำลังอันสำคัญในการเป็นเครื่องมือของรัฐบาล

แต่สำหรับเรื่องการบินไทยกับการตัดสินใจของรัฐบาลในครั้งนี้ ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก สรส. จึงได้เชิญประธานสหภาพแรงงานองค์กรสมาชิกทุกแห่งที่ปรึกษาและ“คนการบินไทย” มาร่วมประชุมหารือเมื่อวันที่ 
๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ซึ่งที่ประชุมได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง แต่เป็นทิศทางเดียวกันคือ “ไม่ไว้วางใจต่อกระบวนการในการฟื้นฟูของรัฐบาล” เพราะการฟื้นฟูนั้น ไม่ได้เริ่มที่การค้นหาความจริงและการทำความจริง
ให้ปรากฏ เพราะทราบกันดีว่าปัญหาที่แท้จริงของการล้มละลายของบริษัทการบินไทย สายการบินแห่งชาติ คือ
การทุจริตของนักการเมืองและผู้บริหาร ทั้งทุจริตเชิงนโยบายและการบริหารงานในการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่นการจัดซื้อเครื่องบิน การเปลี่ยนเครื่องยนต์ การให้ผู้แทนจำหน่ายบัตรโดยสาร การตั้งบริษัทลูกเพื่อแข่งขันในสายการบินต้นทุนต่ำ เป็นต้น แต่สุดท้ายมาจบลงที่การลดเงินเดือน ใส่ร้ายพนักงานที่ตั้งใจทำงานและยุบสหภาพแรงงาน คือเงื่อนงำที่ไม่อาจไว้วางใจและยอมรับได้
ที่ประชุมจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะต่อสู้ร่วมกันจนถึงที่สุด เพื่อให้บริษัทการบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติ ที่เป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติต่อไป และได้มีการตั้ง “คณะทำงานฟื้นฟูการบินไทย” 
 โดยคณะทำงานประกอบด้วยประธานสหภาพแรงงานองค์กรสมาชิกของ สรส. และ “คนการบินไทย” ที่ยังมีจิตใจต่อสู้ โดยมีเลขาธิการ สรส. เป็นประธานคณะทำงานและจะเชิญภาคี แนวร่วม พันธมิตร ทั้งที่เป็นองค์กรภาคประชาชน องค์การแรงงาน นักวิชาการ ที่ยังคงรัก หวงแหนการบินไทย สายการบินแห่งชาติ และวางจังหวะก้าวในการขับเคลื่อนคู่ขนานกับรัฐบาล และจะแถลงให้ทราบการดำเนินงานเป็นระยะต่อไป ขอให้องค์กรสมาชิกติดตามและร่วมกันขับเคลื่อนตาม มติ สรส. และคณะทำงานต่อไป

สรส. ออกแถลงการณ์ ไม่ไว้วางใจต่อกระบวนการฟื้นฟูการบินไทยของรัฐบาล

“ร่วมปกป้องการบินไทยให้เป็นสายการบินแห่งชาติเพื่อความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ”

 สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)
 

สรส. ออกแถลงการณ์ ไม่ไว้วางใจต่อกระบวนการฟื้นฟูการบินไทยของรัฐบาล

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ