บช.น.ปรับแผนจราจรหลังผ่อนปรนระยะ 2.ใช้ถนนมากขึ้น

วันที่ 20 พฤษภาคม พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หลังรัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2 มีสถานประกอบการหลายแห่งได้เปิดให้บริการโดยเฉพาะในส่วนของห้างสรรพสินค้า เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา

 ในส่วนของตำรวจจราจรนครบาลได้รับการมอบหมายและกำชับมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจโทดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการประชุมกำชับทั้ง 88 สถานีตำรวจและกองบังคับการตำรวจจราจร มีการเตรียมความพร้อมในประการแรกได้จัดกำลังดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนเต็มอัตรา เน้นในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนสัปดาห์ที่จะมีการผ่อนคลาย โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้าสถานประกอบการที่ประชาชนจะเดินทางเข้ามา มาตรการต่อมาบริเวณจุดทางแยกสำคัญที่ต่อเนื่องกับห้างสรรพสินค้าและทางแยกที่อยู่บริเวณใจกลางเมืองภายในวงแหวนรัชดา 113ตารางกิโลเมตรของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีผลกระทบกับปัญหาการจราจร
 พลตำรวจตรีจิรสันต์ กล่าวว่า จากการปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่า  ขณะนี้ประชาชนใช้รถประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ฉะนั้นตำรวจจราจรยังสามารถที่จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้ ไม่มีปัญหาการจราจรติดต่อเนื่องไปในทางแยกหรือเส้นอื่น เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าแก้ไขปัญหาบริเวณทางแยก สามารถระบายรถได้ทันที ไม่กระทบต่อเนื่อง 
 "อย่างไรก็ตามได้คาดการณ์ว่าใน 1-2 สัปดาห์นี้ ประชาชนเริ่มจะมีความมั่นใจและจะออกมาใช้มากขึ้น เมื่อออกมาใช้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ก็อาจจะกระทบกับปัญหาการจราจรในช่วงเร่งด่วนเช้าและเย็น ประกอบกับขณะนี้ยังมีการผ่อนผันให้รถบรรทุกวิ่งนอกเวลาเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา04.00-23.00 น. จึงมีรถบรรทุกเข้ามาวิ่งอีกส่วนหนึ่งจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ทำให้ปริมาณรถของรถบรรทุกและรถส่วนบุคคลอาจมีผลกระทบบ้าง อย่างไรก็ตามได้มีการประเมินผลอยู่ทุกวัน การผ่อนผันรถบรรทุกก็ยังพอไปได้จนถึงสิ้นเดือนนี้ หลังจากครบกำหนดแล้วทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีการประชุมวิเคราะห์ เพื่อดูว่าจะให้ผ่อนผันต่อได้หรือไม่"
 

พลตำรวจตรีจิรสันต์ กล่าวอีกด้วยว่า สถานประกอบการที่ต้องลงไปดูเป็นพิเศษมี 2 จุดหลักที่อาจมีผลกระทบ คือ บริเวณห้างสรรพสินค้า เนื่องจากประชาชนเริ่มออกไปใช้บริการจำนวนมากและสถานีขนส่ง ขณะนี้สถานีขนส่งสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ สายตะวันออก เริ่มเปิดให้บริการแล้ว ส่วนสายใต้จะเริ่มเปิดช่วงต้นเดือนมิถุนายน ตลอดไปจนถึงสถานีรถไฟ ซึ่งก็ได้ให้ความสำคัญ รวมถึงเส้นทางการเข้าออกเมืองทุกเส้นทางได้ลงไปดูตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะประชาชนเริ่มกลับมาทำงาน ส่วนช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ได้เน้นย้ำในส่วนของเส้นทางเข้าออกอีกส่วนหนึ่งด้วย
 พลตำรวจตรีจิรสันต์ กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนเริ่มออกมาแล้วประมาณ 70-80 % ในช่วงเร่งด่วนเช้าและเย็นมีปริมาณการจราจรค่อนข้างหนาแน่นในเส้นทางเข้าออกเมืองและวงแหวนรัชดา ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเพื่อรองรับเรื่องการเร่งระบายรถ อาจจะมีกระทบบ้างเล็กน้อยคือมีปริมาณรถหนาแน่นแต่ไม่กระทบต่อเนื่องไปเส้นทางอื่น โดยได้ให้ทุกพื้นที่เตรียมความพร้อมเต็มกำลังอัตราที่ผ่านมาใช้กำลังส่วนหนึ่งไปช่วยด่านคัดกรองโควิด-19 และด่านเคอร์ฟิว เพราะฉะนั้นกำลังตำรวจจราจรจะหย่อนกำลังไป

  "แต่ตอนนี้ได้ดึงกำลังในส่วนของด่านคัดกรองกรุงเทพมหานครได้ยกเลิกไปแล้ว ส่วนด่านเคอร์ฟิวลดปริมาณลง ตำรวจจราจรได้มาเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหามากขึ้นทั้งบริเวณทางแยกสำคัญ หน้าห้างสรรพสินค้า ตลาด หรือจุดที่มีปัญหา ทางตำรวจจราจรจะเข้าไปแก้ไข และได้จัดชุดปฏิบัติการในการช่วยเหลือน้ำท่วมไว้ด้วย เนื่องจากเข้าฤดูฝนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ได้เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดรวมถึงประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการระบายน้ำได้มีการประสานไว้หมดแล้ว"