ข่าว

'ออสซี่-กีวี'ปิดประเทศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์สั่งปิดประเทศ ไม่ให้ต่างชาติเข้าสกัดโควิด-19 ด้านสหรัฐระงับวีซ่าทั่วโลก ผวา 9 ชั่วโมงติดเชื้อเพิ่มกว่า 2,000 คน "จีน" ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มครั้งแรก เวียดนามปิดเมืองหลวงรับมือระบาด

          นับเป็นความสำเร็จที่ประเทศจีนสามารถควบคุมการระบาดภายในประเทศของไวรัสร้ายโควิด-19 ได้อยู่หมัด เมื่อคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งจีนแถลงการณ์ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 19 มีนาคม นอกจากไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีน ยังเป็นครั้งแรกที่ไม่พบผู้ติดเชื้อในมณฑลหูเป่ยซึ่งเป็นศูนย์กลางระบาดเชื้อโควิด-19

 

 

 

จีนชี้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศเป็น0

          เมื่อวันที่ 19 มีนาคม สำนักข่าวซินหัว ประเทศจีน รายงานว่า นครอู่ฮั่น ศูนย์กลางการแพร่ระบาดไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในวันพุธ(18มี.ค.) ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนของเมืองแห่งนี้​ โดยคณะกรรมการสุขภาพของมณฑลหูเป่ย ซึ่งมีนครอู่ฮั่นเป็นเมืองเอก ระบุว่า วันที่ 18 มีนาคม หูเป่ยมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 8 ราย แต่จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันในอู่ฮั่นและหูเป่ยประจำวันพุธ ยังคงที่อยู่ที่ 50,005 ราย และ 67,800 ราย นอกจากนี้ หูเป่ยยังไม่มีผู้ป่วยต้องสงสัยว่าติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งลดลงเป็นศูนย์และบ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดระดับสูงนั้นยับยั้งได้เป็นที่เรียบร้อย

          ก่อนหน้านี้ มณฑลหูเป่ยรายงานอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เลขหลักเดียว ซึ่งล้วนมาจากนครอู่ฮั่น เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ติดต่อกันนับตั้งแต่วันพุธที่แล้ว (11 มี.ค.) ตรงข้ามกับ 1 เดือนก่อนที่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่วันละหลายพันราย ขณะที่เมื่อวันพุธ (18 มี.ค.) หูเป่ยยังมีผู้ป่วยที่หายดีและออกจากโรงพยาบาลจำนวน 795 ราย ลดงานดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลเหลือเพียง 6,636 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มี 1,809 ราย มีอาการขั้นรุนแรง และ 465 รายอยู่ภาวะวิกฤติ

          ขณะเดียวกันที่พบผู้ป่วยรายใหม่เป็นศูนย์ในอู่ฮั่น ทางจีนแผ่นดินใหญ่จึงลดอัตราการเพิ่มขึ้นของการแพร่เชื้อภายในประเทศให้เหลือศูนย์ได้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และตอนนี้จีนกำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่ใหญ่กว่า นั่นคือผู้ป่วยติดเชื้อจากต่างประเทศ ซึ่งในวันพุธเพียงวันเดียวเพิ่มขึ้นถึง 34 ราย

ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ‘ปิดประเทศ’

          ล่าสุด ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ประกาศปิดพรมแดนห้ามผู้ที่ไม่มีถิ่นพำนัก (non-residents) เดินทางเข้าประเทศ ซึ่งถือเป็นมาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยนายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน แห่งออสเตรเลีย ประกาศห้ามผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองและไม่มีถิ่นพำนักถาวรในออสเตรเลียเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่เวลา 21.00 น. ของวันที่ 20 มีนาคม
          ทั้งนี้มาตรการเดียวกันนี้ได้ถูกประกาศใช้โดยนายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ ซึ่งยอมรับว่า “นี่เป็นมาตรการที่ไม่ปกติ” และ “ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์แดนกีวีที่รัฐบาลใช้อำนาจสั่งปิดพรมแดน” โดยคำสั่งดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 19 มีนาคม ทั้งนี้ออสเตรเลียมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 642 ราย ส่วนนิวซีแลนด์พบผู้ป่วยเพียง 28 ราย

สหรัฐระงับวีซ่าทั่วโลกสกัดระบาด

          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ได้ทวิตข้อความในวันที่ 18 มีนาคม ระบุว่า จะระงับการให้บริการวีซ่าแก่ทุกประเทศ เนื่องมาจากการระบาดไวรัสโควิด-19 โดยจะกลับมาให้บริการอีกครั้งและเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถระบุวันที่ชัดเจน

          ด้านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำกรุงโตเกียว ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ระบุว่า สถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมดจะหยุดให้บริการวีซ่าเป็นการชั่วคราว รวมถึงการรับนัดหมายเกี่ยวกับวีซ่าด้วย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม ส่วนงานเอกสารและนิติกรยังเปิดให้บริการปกติ

          นอกจากนี้พบว่า 2 ส.ส.อเมริกัน คือ นายมาริโอ้ ดิแอซ บาลาร์ต พรรครีพับลิกัน และนายเบน แม็กอดัมส์ พรรคเดโมแครต เป็นส.ส.ชุดแรกที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเมื่อคืนวันที่ 14 มีนาคม ส.ส.มาริโอ้ มีอาการไข้ขึ้นและปวดศีรษะ หลังจากนั้นไม่นาน ตรวจพบว่าเขาติดเชื้อ และเขาได้แจ้งผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “ได้ทราบผลการตรวจออกมาเป็นบวก” ซึ่งหลังจากนี้น่าจะมี ส.ส.รายอื่นทยอยไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 เช่นกัน

9 ชั่วโมงติดเชื้อเพิ่มกว่า 2,000

          ขณะเดียวกันมีรายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ในสหรัฐ อยู่ที่ 9,077 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 2,000 รายภายในระยะเวลาเพียง 9 ชั่วโมง ขณะที่ยอดรวมของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 145 รายสอดคล้องกับข้อมูลล่าสุดจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ระบุว่า ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐสูงกว่า 9,000 โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลข ณ เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (18 มี.ค.)


อิตาลีตายพุ่งวันเดียว475

          ด้านสถานการณ์แพร่ระบาดในประเทศอิตาลีพบผู้เสียชีวิตในวันเดียวสูงที่สุดนับตั้งแต่พบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศ โดยมีผู้เสียชีวิตใน 24 ชั่วโมงถึง 475 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมในอิตาลีอยู่ที่ 2,928 รายแล้ว ขณะที่จำนวนผู้ได้รับการยืนยันว่าติดไวรัสโคโรนาในอิตาลีขณะนี้อยู่ที่ 35,713 คน โดยมีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาหายแล้วมากกว่า 4,000 คน

          องค์การอนามัยโลก หรือฮู ระบุว่า ผู้ติดเชื้อทั่วโลกขณะนี้พุ่งทะลุ 2 แสนรายแล้ว โดยในจำนวนนี้ 80% เกิดขึ้นในยุโรปและพื้นที่เวสเทิร์นแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของเอเชียด้วย โดยผู้เสียชีวิตทั่วโลกอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าวันนี้อยู่ที่ 8,732 ราย โดยพบผู้เสียชีวิตมากที่สุดนอกประเทศจีนที่อิตาลี 2,978 อิหร่าน 1,135 ส่วนที่พบผู้เสียชีวิตเกิน 100 คน ได้แก่ สเปน 623 และฝรั่งเศส 148

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 214,894 คน โดยอิตาลีรั้งที่สองที่ 35,713 คน อิหร่าน 17,316 คน สเปน 13,910 คน เยอรมนี 12,327 คน และที่พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 1,000 คน ได้แก่ ฝรั่งเศส 9,052 คน เกาหลีใต้ 8,413 คน สหรัฐ 7,769 คน สวิตเซอร์แลนด์ 3,028 คน อังกฤษ 2,642 คน เนเธอร์แลนด์ 2,056 คน ออสเตรีย 1,646 คน นอร์เวย์ 1,550 คน เบลเยียม 1,486 คน สวีเดน 1,279 คน และเดนมาร์ก 1,115 คน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้วอยู่ที่ 83,313 คน

 

 

 

เตือนแอฟริการับสถานการณ์

ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แอฟริกาภูมิภาคโซนใต้ทะเลทรายซาฮารา มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในแอฟริการายแรกเป็นนักการเมืองชื่อดังของประเทศบูร์กินาฟาโซ ขณะที่นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการฮู ออกมาเตือนให้บรรดาประเทศในแอฟริกา เตรียมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เลวร้าย โดยระบุว่า ตื่นเถิดชาวแอฟริกา เราได้เห็นแล้วในหลายๆ ประเทศว่าไวรัสแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างไรจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ทั้งนี้ล่าสุดในแอฟริกามีรายงานผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 600 ราย

เวียดนามสั่งปิดเมืองหลวง

          วันเดียวกัน รัฐบาลเวียดนามมีคำสั่งให้ประชาชนในกรุงฮานอย เมืองหลวงของประเทศเก็บตัวอยู่ในบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปจนถึงอย่างน้อยช่วงสิ้นเดือนมีนาคม โดยประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเวียดนามพบผู้ติดเชื้อในประเทศมากที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด โดยล่าสุดมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 10 รายรวมแล้วยอดติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่ 76 ราย เป็นยอดผู้ติดเชื้อในกรุงฮานอยจำนวน 20 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศในภูมิภาคยุโรป และล่าสุดรัฐบาลเวียดนามสั่งการให้ปิดเมืองหลวง โรงเรียนปิดการเรียนการสอนไปจนถึงวันที่ 5 เมษายน ปิดโรงหนัง สถานบันเทิงต่างๆ นอกจากนี้ยังประกาศเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก หลีกเลี่ยงการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะ พร้อมทั้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

ลาวปิด“มหาวิทยาลัย-โรงเรียน”

          ด้านนางแสงเดือน หล้าจันทะบูน รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการและกีฬา สั่งปิดสถานศึกษาทั่วประเทศ ทั้งโรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย ทั้งของรัฐและเอกชน ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม-21 เมษายน เพื่อสกัดการระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเอกสารดังกล่าวระบุด้วยว่า ให้สถานศึกษาแต่ละแห่ง จัดการเรียนการสอนในรูปแบบตามที่เห็นสมควร แทนการเดินทางไปเรียนระหว่างคำสั่งดังกล่าว

ช็อกบังกลาเทศกว่า2.5หมื่นรวมตัว

          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวบังกลาเทศจำนวนนับหมื่นคนฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของรัฐบาล ที่ห้ามชุมนุมในที่สาธารณะเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ โดยไปรวมตัวกันที่โล่งกว้างในเมืองไรปุระ ในเขตลักษมิปุระ ทางใต้ของประเทศเมื่อวันพุธที่ (18 มี.ค.) เพื่อร่วมกันสวดมนต์ขับไล่เชื้อโควิด-19 ออกจากประเทศ ทั้งนี้ภาพถ่ายของการรวมตัวถูกแชร์อย่างกว้างขวางบนสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้หลายคนตำหนิการรวมตัวของคนจำนวนมากในครั้งนี้ ทั้งที่ทางการได้สั่งปิดโรงเรียนต่างๆ และขอให้ชาวบ้านหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันของคนกลุ่มใหญ่ ในความพยายามสกัดกั้นการแพร่ระบาด

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ