ข่าว

มัลลิกาฟ้องอัจฉริยะเฟซบุ๊กไลฟ์กล่าวหาเอี่ยวกักตุนหน้ากาก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"มัลลิกา" ส่งทนายแจ้ง ปอท. เอาผิด "อัจฉริยะ" ไลฟ์สดกล่าวหาเอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย ปชป.ไฟเขียวตรวจสอบ ขณะที่ "จุรินทร์" ระงับใบลาออกอธิบดีค้าภายใน

          เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 มีนาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา ได้รับมอบอำนาจจาก นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าพบ พ.ต.ท.นิติธร เดชระพีร์ รอง ผกก.(สอบสวน)​ กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กรณีไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊กชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาดพิงว่ามีหญิงสาวซึ่งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีในรัฐบาล มีส่วนรู้เห็นการส่งออกหน้ากากอนามัยไปยังต่างประเทศ

 

 

 

          นายนิติธร เปิดเผยว่า นายอัจฉริยะ มีการไลฟ์สดกล่าวหาพาดพิงนางมัลลิกาหลายครั้ง ว่ามีความเชื่อมโยงกับการส่งออกหน้ากากอนามัย จึงนำหลักฐานมามอบให้ บก.ปอท. เพื่อเอาผิดฐาน “นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด” ถึงแม้นายอัจฉริยะจะพูดโดยไม่ได้ระบุชื่อตัวบุคคล แต่มีการเปิดเผยทั้งตำแหน่งและกระทรวง ซึ่งก็ชัดเจนว่าหมายถึงใคร

          “อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเมื่อมีการพาดพิงบุคคล พรรคก็ต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวน ถ้าผลออกมาว่านางมัลลิกาไม่เกี่ยวข้อง คนเปิดเผยข้อมูลก็ต้องรับผิดชอบ หากคุณมัลลิกาผิด ทางทนายความก็จะถอนตัว โดยผมยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับนายอัจฉริยะ ถือเป็นเรื่องที่ดีช่วยกันตรวจสอบ แต่การพูดอะไรก็ต้องมีขอบเขต ทั้งนี้ไม่ทราบเหตุผลที่นายอัจฉริยะออกมาเปิดเผยข้อมูล แม้ว่าจะมีการอ้างว่ามีหลักฐานก็ดำเนินการไป แต่ทางเราก็ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายปกป้องตัวเอง” นายนิติธร กล่าว

          ขณะที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในหลักความซื่อสัตย์สุจริต เมื่อมีการกล่าวหา ทางพรรคก็สนับสนุนให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ดำเนินการให้ถึงที่สุด ทำความจริงให้ปรากฏว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งพรรคก็มีการตรวจสอบภายในอยู่ โดยข้อบังคับพรรคระบุไว้ชัดว่า บุคคลที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่รักษาชื่อเสียง นำความเสื่อมเสียมาสู่พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่มีการปกป้อง ซึ่งความผิดร้ายแรงสูงสุดคือการพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค อย่างไรก็ตามจะต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่ถูกกล่าวหา ซึ่งจะต้องฟังข้อเท็จจริง

          สำหรับกรณีคลิปเสียงระบุว่าคนของพรรคประชาธิปัตย์โทรศัพท์ไปหานายอัจฉริยะที่ออกมาเปิดข้อมูล นายราเมศยืนยันว่า ไม่มีคนของพรรคประชาธิปัตย์โทรศัพท์ไปหานายอัจฉริยะในลักษณะของการข่มขู่แต่อย่างใด ย้ำว่าพรรคพร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ข้อมูลดังกล่าวเป็นการตรวจสอบของนายอัจฉริยะ ไม่ได้ออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์เพราะความขัดแย้งภายใน
          นายราเมศ กล่าวด้วยว่า ส่วนจะดำเนินการตามมาตรฐานพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่าหากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกกล่าวหา จะให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที เหมือนในสมัยหัวหน้าพรรคคนก่อนหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้จะพิจารณาจากข้อเท็จจริงเป็นหลัก และเมื่อถึงเวลาจะเป็นคำตอบว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ส่วนจะให้ออกจากตำแหน่งตามมาตรฐานพรรคหรือไม่ ต้องรอให้นางมัลลิกาที่ถูกกล่าวหา ชี้แจงในวันที่ 18 มีนาคม นี้

          วันเดียวกัน มีรายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้ระงับใบลาออกของนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ที่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งย้ายให้ไปปฏิบัติงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางสอบสวนเกี่ยวกับปมกักตุนและส่งออกหน้ากากอนามัย

          ด้านนายวิชัย กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่านายจุรินทร์ได้ออกมาย้ำว่าไม่ต้องการให้ตนลาออกและจะไม่เซ็นอนุมัติให้ลาออก จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดตามใดๆ จากทีมงานนายจุรินทร์ และยังไม่ขอแสดงความเห็นใดๆ ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามช่วงนี้อยู่ในช่วงลาพักร้อน ซึ่งได้ยื่นไว้ถึงวันที่ 23 เมษายน คงต้องขอใช้สิทธิ์พักร้อนไประยะหนึ่งก่อน แต่หากได้รับการติดต่อจากรองนายกฯ ก็พร้อมเข้ามารายงานตัวและชี้แจงประเด็นต่างๆ

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายวิชัยได้ยื่นใบลาออกต่อปลัดกระทรวงพาณิชย์แล้ว โดยจะมีผลในวันที่ 23 เมษายน นี้ หลังจากมีคำสั่งจากสำนักนายกรัฐมนตรีให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกฯ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อให้มีการตรวจสอบความชัดเจน ถูกต้อง โปร่งใสและเป็นธรรม กรณีหน้ากากอนามัยที่กำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้

 

 

 

          วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.05 น. นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า นายวิชัยได้แจ้งปลัดกระทรวงพาณิชย์ว่าขอลาพักร้อนถึงวันที่ 23 เมษายน และหลังจากนั้นจะขอลาออก ซึ่งตอนนี้หนังสืออยู่ที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และได้รับแจ้งว่าอนุมัติให้ลาพักร้อนได้ โดยขณะนี้รองอธิบดีกรมการค้าภายในจะขึ้นมารักษาการแทน โดยได้พูดคุยกับนายวิชัย ไม่อยากเห็นท่านลาออก ด้วยความเห็นใจและด้วยความเข้าใจว่าที่ผ่านมาท่านทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังสามารถ และทุ่มเทในการทำงาน ในช่วงที่ทำงานด้วยกันท่านก็ตั้งใจทำงานทุกอย่างทุกด้าน โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยที่เกิดในช่วงวิกฤติ และการผลิตมีจำกัด ผลิตได้วันละกว่าล้านชิ้น ซึ่งทุกคนมีความต้องการทำให้พอ ซึ่งอธิบดีก็บริหารจัดการให้ตรงกับความต้องการของประชาชน 60 ล้านคน เราก็กระจายให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เห็นว่าอธิบดีทำได้ดีและทุ่มเทเต็มที่ ก็ขอแสดงความเห็นใจท่านด้วย

          เมื่อถามว่า ก่อนที่จะมีการออกคำสั่ง นายกฯ ได้มีการแจ้งมาก่อนหรือไม่ ในฐานะที่ รมว.พาณิชย์เป็นผู้บังคับบัญชา นายจุรินทร์บอกว่า แจ้งให้ทราบภายหลัง และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้คุยกับนายกฯ ถึงเรื่องดังกล่าว ส่วนจะมีผลกระทบกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะเป็นเรื่องของอนาคต แต่หากจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงที่จะทำหน้าที่ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยขณะนี้รอตัวแทนจากตำรวจและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ

          เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ มีส่วนเกี่ยวข้องในการกักตุนหน้ากากอนามัย นายจุรินทร์ ตอบว่า เท่าที่ทราบเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาทแล้ว และวันนี้ก็ไปแจ้งความดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งในประเด็นดังกล่าวผู้ที่เกี่ยวข้องจะมาชี้แจงอีกครั้ง

          นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา ศุลกากรมีการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ ส่งออกหน้ากากอนามัย ที่เขตท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งศุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่า ได้รับแจ้งจากปลัดกระทรวงพาณิชย์ว่ามีตำรวจประสานงานมาว่า นายกฯ สั่งให้ไปดำเนินการโดยประสานมายังกระทรวงพาณิชย์ให้ส่งตัวแทนไปตรวจสอบ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ส่งผู้แทนจากกรมการค้าภายใน และกรมศุลกากรไปตรวจสอบ พร้อมกับผู้ส่งออกที่เป็นเจ้าของหน้ากากอนามัยดังกล่าว เพื่อไปพิสูจน์ว่ามีใบอนุญาตในการส่งออก เมื่อมีการส่งออกจริงแล้ว ของที่อยู่ข้างในเป็นหน้ากากอนามัยที่ได้รับอนุญาตตรงตามสเปก มีลิขสิทธิ์ มีมาตรฐานให้ส่งออกได้ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการสั่งให้ไปเปิดตู้แล้วตรวจสอบ ซึ่งการเปิดตู้ครั้งนี้ทำให้นายกฯ ตนเอง และประชาชนที่มีข้อสงสัยจะได้คลายข้อสงสัย ทั้งนี้ที่มีข่าวปรากฏออกไปว่าหน้ากากในตู้ไม่ได้มาตรฐานนั้น ไม่โทษสื่อ เพราะอาจจะเกิดความสับสนได้

          นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า จะขอความเห็นจาก ครม.ว่าควรจะมีการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ 1 ชุด ที่มีผู้ว่าและรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพาณิชย์จังหวัด ดำเนินการในเรื่องของการกักตุนสินค้าและขายเกินราคา ขณะที่ในส่วนกลางเป็นหน้าที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ซึ่งจะมีหน้าที่ดำเนินการจับกุม หากมีการกักตุนสินค้าและขายเกินราคา

          ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. กล่าวว่า สำหรับมาตรการจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา สามารถจับกุมได้ 82 ราย ผู้ต้องหา 85 คน ยึดของกลาง 170,821 ชิ้น มูลค่า 2,376,037 บาท จับกุมผู้โพสต์หรือส่งต่อข่าวปลอม 7 ราย ผู้ต้องหา 10 คน ส่วนกรณีของกลางที่เป็นหน้ากากอนามัยนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ศึกษาแนวทางที่ไม่ให้ของกลางเสื่อมสภาพโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งตามกฎหมายของกลางต้องรอคำสั่งศาลในการแจ้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

          พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีแนวทางในการนำของกลางมาใช้ 3 แนวทาง คือ การให้ผู้ต้องหายินยอมมอบของกลางให้ตกเป็นของหลวง และจะใช้ในการพิจารณาบรรเทาโทษในชั้นศาล ช่องทางต่อมา คือการเร่งขั้นตอนในการทำสำนวนคดีก่อนส่งฟ้องให้รวดเร็วมากขึ้น แต่ตามระเบียบการของตำรวจ เรื่องของกลางคดีลักษณะที่ 15 ข้อ 418 กรณีถ้าของกลางนั้นเป็นของกลางที่อาจจะเสียหาย เน่าเสีย หรือเสื่อมสภาพ ให้พิจารณาตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่งทาง บก.ปคบ. แนะนำประสานผู้ต้องหาว่าของกลางเหล่านั้นยังใช้ประโยชน์ได้ยินยอมยกให้เป็นของหลวง ก็จะดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ส่งคืนทางกระทรวงพาณิชย์ ศูนย์โควิด-19 ของรัฐบาล หรือกระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินการแจกจ่ายให้แก่ผู้มีความจำเป็นต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ