สาวโพสต์เตือนเป็นอุทาหรณ์ ไปทำสีผมร้านดัง ย่านรามคำแหง แต่ผลที่ได้หัวเป็นแผลเหวอะ
เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่เป็นอุทาหรณ์ผ่านทางเฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า Lapaz Cho โดยเธอได้เขียนบรรยายเนื้อหาเอาไว้เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ระบุวาส อุทาหรณ์ฟอกสีผม น้ำยากัดหัว เจ็บทั้งแผลเจ็บทั้งใจ มันเจ็บมากๆ เรื่องแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น เพียงเพราะความสะเพร่าของช่างทำผม ทำให้คนทั้งคน ต้องทนทุกข์ทรมานขนาดนี้ เราไม่ควรต้องมาเจอเเบบนี้จริงๆนะ และคุณก็แก้ปัญหาทุกอย่างด้วยการ ปิดร้านหนี แค่นี้หรอ เราไม่ถามหาจรรยาบรรณจากคนอย่างคุณหรอก เราอยากถามหาความเป็นคน จากพวกคุณมากกว่า สักวันกฏเเห่งกรรมมันคงทำหน้าที่ของมัน ไม่มีคำว่าอภัยอยู่ในจิตใจเราแล้วล่ะ ภาวนาจิตขอให้กรรมมันตามทันคนอย่างพวกคุณในเร็ววัน กล้าปิดร้านหนีก็ขอให้หนีทั้งชีวิต หนีกรรมให้พ้นแล้วกัน คนเลว2020
เรื่องเกิดจากตัวเราได้ไปทำสีผมที่ร้านย่านรามคำแหง นัดแนะกับช่าง (เจ้าของร้าน) เรียบร้อยก็เดินทางเข้าไป ช่วง 11 โมงของวันที่ 5 ก.พ.2563 ที่ผ่านมา พอไปถึงร้านช่างก็สอบถามและทำการตกลงกับเราก่อนว่าสีจะประมาณนี้นะพอเสร็จ ช่างก็แบ่งผมเป็นช่อๆและเริ่มลงน้ำยากัดสีผม (น้ำยาเขาผสมข้างในเราไม่เห็นยี่ห้อ) ปกติเป็นคนนิสัยไว้ใจคนเลยไม่ได้ขอดูยี่ห้อ แต่น้ำยาจะมีสีออกฟ้าๆคะ
พอช่างลงน้ำยากัดเรียบร้อย เขาก็เอาแร็ปใสๆมาพันผมเราตั้งแต่โคนลงไปถึงปลายผม ค่อยเอาผ้าขนหนูมาห่อหัวเรา จากนั้นก็เข็นเครื่องอบไอน้ำมาครอบ+เปิดเครื่องทำงานปกติ ตอนนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ของช่างดังขึ้นเขาก็รับสายแล้วเปิดโฟนคุย สักพักช่างก็เดินไปหลังร้าน เราก็ไม่ได้สนใจ ตัวเราก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไป สักพักนึง คือร้อนจี้ดดดที่แถวๆท้ายทอยเลยค่ะ ร้อน ร้อนมาก มากๆๆๆๆๆๆ ซึ่งตัวเราก็ตกใจกรี้ดดดออกมาดังเลยค่ะ เอาหัวออกจากเครื่องอบทันที พร้อมตะโกนสุดเสียง ไม่มีใครออกมา คำถามในใจช่างหายไปไหนอะ
เราลุกจากเก้าอี้วิ่งเข้าไปด้านหลัง ได้ยินเสียงช่างเปิดโฟนเสียงดังในห้องน้ำ เรานี้ทุบๆๆ เรียก ก็ไม่ออกมา เราร้อนมาก ดึงทุกอย่างที่พันหัวเราออก วิ่งไปหาพัดลมคะ เอาเท้าเปิด เอาหัวลงจ่อที่พัดลมในขณะนั้นเราเองก็ทำอะไรไม่ถูกจริงๆคะ ตกใจมาก เเสบ ปวด ร้อน จะว่าโง่ก็ได้คะ ที่ไม่เอาน้ำล้าง (เราตกใจจริงๆ) สักแปบช่างเดินออกมา พร้อมวางสายโทรศัพท์ แล้วมาถามเราคำแรก เป็นอะไรร้อนหรอค่ะ?
เอิ่มม.....ไม่รู้จะตอบคำไหนดีจริงๆนะ เขาก็ให้เรานั่งที่เก้าอี้แล้วดูแผลให้เรา บอกเราว่าไม่เป็นไรนะ นิดเดียวๆ
(ตัวเราก็เชื่อเนาะ เพราะเราไม่มองไม่เห็น และตัวเราเคยถูกน้ำราดเป็ดย่างเดือดๆราดแขนขามาแล้ว เจ็บกว่านี้เลยคิดว่านี่คงไม่เป็นไร อย่างที่ช่างบอก)
ช่างให้เรานั่ง เขาวิ่งไปเอาอะไรสักอย่างมาทาที่แผลเรา เราถามว่าคืออะไรคะพี่ บอกเราว่าทรีตเม้นท์ล้างสารพิษค่ะ เราก็งง น้ำร้อนลวกพี่เอาทรีตเม้นต์ใส่ทำใมคะ พี่เอาออกไปเอาอะไรที่ดีกว่านี้มาทาให้หน่อย เขาเอาออกแล้วไปหักว่านหางจระเข้มาถูๆ และวิ่งไปเอายาสีฟัน??!! โอ้ยยข่อยจะตายก็ตรงนี้อะไรก็ไม่รู้ของเขาคะ
และให้เราทำผมต่อไปและปลอบเราตลอดว่า ไม่เป็นไรเลย และปกติไม่เคยมีเเบบนี้ พี่ไม่ได้ตั้งใจ พูดเเบบนี้เรื่อยๆจนเสร็จสิ้นการทำสี พอเสร็จจะกลับ ช่างบอกเราว่า พี่ลดให้เรา500บาทแล้วกันนะ เราจะได้เอาไปหาหมอ ส่วนที่เหลือ 1 พันบาทเราก็โอนให้พี่เเล้วกัน เรานี่กราบคะ น้ำใจสุดๆ!!!
พอกลับมาแถวพัฒนาการ แวะเข้ารพ.ดังย่านนั้นเลยคะ คุณหมอถามว่าไปโดนอะไร เลยเล่าทุกอย่างให้ฟัง แกก็คิดว่าน้ำร้อนลวกเหมือนที่เราคิดเช่นกัน พอหาเสร็จก็ทักกลับไปบอกช่าง ว่าหนูมาหาหมอนะ แผลเป็นขนาดไหน เสี่ยงติดเชื้อด้วย ต้องดูเเลใกล้ชิดจากหมอ ช่างตอบมาว่าพี่ก็ไม่สบายใจ งั้นพี่โอนเงินค่าทำผม 1 พันคืนให้เราก็แล้วกันนะคะ
(จากนั้นเราก็เดินทางทุกวันล้างแผลสลับพบหมอทุกวัน)
เวลาผ่านไป1อาทิตย์ แผลเริ่มลาม ใหญ่มากขึ้น แต่ยังไม่ติดเชื้อ หมอเลยบอกไม่ไหวแล้ว ขอโกนผมแล้วขูดเนื้อเเผลเราออกทั้งหมด ฮืออ โกนก็โกนคะ แล้ววันที่แสนสาหัสในชีวิตก็มาถึง ความเจ็บคงให้ระดับร้อยระดับพันคะ พยาบาล 5 คนช่วยกันจับเรา กดหลังจับมือ ล็อคหัวเราไว้ น้ำตาอาบลงที่หมอน ใจคือพังมากคะ
โกนผมและขูดเนื้อแผลของเรา ขูดกันสดๆ และใช้ผ้าก๊อตชุบน้ำเกลือถูๆๆๆ เอาเนื้อที่อยู่ด้านบนออกให้หมด เพื่อสร้างเนื้อผิวชั้นใหม่ ทำแบบนี้ทุกวันคะ แต่วันหลังๆไม่ร้องไห้แล้วคะ เหมือนจะชิน แต่จิตใจคือกลัวพยาบาลไปเลยคะตอนนี้ กลับไปคุยกับช่างบอกเขาว่า อยากขอให้เขารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล เขาบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ และตัวเขาก็เสียเหมือนกัน เขาทำสีให้เขาก็มีต้นทุน เราอึ้งเลยค่ะ เขาก็บอกว่า แล้วพี่ก็ยกค่าทำผมให้ไปหมดแล้ว ถ้าจะให้ช่วย พี่จะให้ 2000 บาท แล้วน้องจบเลยนะ พระเจ้าคะ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ เราเลยบอกว่าหนูไม่คิดฟ้อง ไม่เอาค่าเสียหายและค่าทำขวัญอะไรเลยนะพี่ แค่ขอให้ช่วยเหลือกันในค่ารักษาเท่านั้นเอง เถียงกันหลายรอบคะ จนสรุปเขาบอกจะจ่ายตามบิลที่เราไปหาหมอ ส่งให้เขา ณ ตอนนี้ล่าสุด เขาบอกจะจ่ายสิ้นเดือน รวบรวมบิลส่งให้ ปัจจุบันเขาไม่อ่านไลน์โทรไปก็ไม่รับสายทั้งที่โทรติด เศร้าใจมากค่ะ
ทั้งนี้อยากฝากเรื่องราวนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับเพื่อนๆทุกคนที่คิดจะทำสีผมและช่างทุกๆคนนะคะ อยากให้ช่วยดูแลลูกค้าให้ดีที่สุดคะ เราเป็นลูกค้าเราอยากสวยเราไม่ได้อยากตายค่ะ ขอให้เราเป็นเคสสุดท้ายที่เจอเหตุการณ์แบบนี้
ตอนนี้เราทำงานไม่ได้ ต้องหยุดงาน นี่ก็เพิ่งกลับมาจากไปขูดแผล ยังต้องไปหาหมอให้ช่วยล้างแผลและเช็คอาการทุกวัน ถ้าเราไม่ปวดมากเกินไปจะพยายามมาอัพเดทอาการให้เพื่อนๆฟังเรื่อยๆนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจ
หนูเล็ก...
ทำสีผมเจ็บเจียนตาย #สวยสยอง #เข้าร้านทำสี #แชร์ประสบการณ์เกือบตายเพราะทำสีผม #อุทาหรณ์ทำสีผม #ช่างทำผม #ขอให้อย่ามีใครเจอแบบเราอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง