วราวุธ จ่อคุมนำเข้าขยะตปท. กร้าวประเทศไทยไม่ใช่ถังขยะใคร

           นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้บริหารของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมรณรงค์งดให้บริการถุงพลาสติกกับประชาชน ที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาอ่อนนุช ซึ่งดีเดย์การให้บริการถุงพลาสติกใส่สินค้าเป็นวันแรก

         ทั้งนี้นายวราวุธ ได้ร่วมแจกถุงผ้าให้กับประชาชนผู้ใช้บริการภายในห้างสรรพสินค้าและประชาชนทั่วไป ที่ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอ่อนนุช ถึงสถานีพร้อมพงษ์ โดยมีประชาชนขอรับถุงผ้าแจกดังกล่าวอย่างคับคั่ง  

         นายวราวุธ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเปิดงานว่า เชื่อว่าการงดให้บริการถุงพลาสติก จะมีประชาชนที่เคยได้รับบริการ ตำหนิพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งตนขอให้กำลังใจ ขณะเดียวกันขอให้ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งที่กลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลพิษ เพราะทิ้งไม่ถูกที่ ทำให้ขยะพลาสติกถูกปล่อยลงแม่น้ำ หรือทะเล ทำให้สัตว์ทะเลหลายชนิดกินถุงพลาสติกและต้องเสียชีวิต ดังนั้นขอให้ประชาชนใช้ถุงใส่สินค้า ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เช่น ถุงผ้า, ถุงกระสอบ เป็นต้น 

         จากนั้นนายวราวุธ ให้สัมภาษณ์ว่าการรณรงค์ดังกล่าวเชื่อว่าจะลดปริมาณขยะในประเทศไทยส่วนที่มาจากห้างสรรพสินค้า ที่คิดเป็นร้อยละ 30 ได้จากปริมาณขยะของทั้งประเทศ ภายใน 1 ปีได้ทั้งหมด ส่วนปริมาณขยะที่เหลือคือ ร้อยละ30จากร้านขายของประเภทโชว์ห่วย และร้อยละ 40 จากตลาดสด ซึ่งขยะประเภทถุงพลาสติกจากตลาดสดถือเป็นสิ่งที่ท้าทายต่อการลดปริมาณขยะที่นี้  เชื่อว่าหากประชาชนให้ความร่วมมือจะสามารถลดปริมาณขยะจากพลาสติกได้ เพราะตนมองว่าการกำหนดนโยบายจากรัฐบาลแม้จะเป็นนโยบายที่ดี แต่หากขาดการตอบรับและความร่วมมือจากประชาชน ทั้ง 67 ล้านคน จะไม่สามารถผลักดันให้สำเร็จได้  ขณะที่การเพิ่มปริมาณขยะซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ หลังจากเทศกาลปีใหม่ จะนัดประชุมกรรมการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อตรวจปริมาณ สัญญาการนำเข้าขยะจากต่างประเทศว่ามีปริมาณเท่าไร และสัญญาเหลือเท่าไร

      "ทั้งนี้ผมขอประกาศว่าประเทศไทยไม่ใช่ถังขยะของใคร หากประเทศใดที่สร้างขยะต้องทิ้งขยะนั้นในประเทศของตนเอง" 

     นายวราวุธ กล่าวด้วยว่า จากการรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชน และการขับเคลื่อนนโยบายจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระยะ 5 เดือนที่ผ่านมา พบความสำเร็จเบื้องต้น คือ ประเทศไทยถูกจัดอันดับการลดปริมาณขยะให้ดีขึ้นจากเดิมที่อยู่อันดับ 6 ล่าสุดอยู่ที่อันดับ 4 ซึ่งการขับเคลื่อนดังกล่าวตนไม่คิดว่าเป็นเพราะการร่วมมือของกลุ่มเอกชนเป็นเพียงแค่กิจกรรมที่สร้างความตื่นตัวด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (ซีเอสอาร์)เท่านั้น  และจากนโยบายรัฐบาลที่เริ่มขับเคลื่อนงดให้บริการถุงพลาสติกเชื่อว่าจะขยายตัวไปยังต่างจังหวัดด้วย ผ่านความร่วมมือและการควบคุมจากผู้ว่าราชการจังหวัด, กำนัน , ผู้ใหญ่บ้าน  อย่างไรก็ตามตนเชื่อมั่นว่าหากภาครัฐเอาจริงและภาคเอกชน ประชาชนให้ความร่วมมือจะลดปริมาณขยะถุงพลาสติกได้