เพื่อนครูอ้อมไม่ขอทนเตรียมลาออกโดนผู้ปกครองด่ารับไม่ได้

จากกรณีที่ ครูอ้อม ครูประจำโรงเรียนอนุบาล ของโรงเรียนวัดวงเดือนจ.ชัยนาทออกมาแฉว่าอาหารของโรงเรียนไม่ได้มาตรฐานล่าสุดเพื่อนครูอ้อมขอลาออกโดนผู้ปกครองด่ารับไม่ได้

 

จากกรณีที่ ครูอ้อม ครูประจำโรงเรียนอนุบาล ของโรงเรียนวัดวงเดือน จ.ชัยนาท ออกมาแฉว่า อาหารของโรงเรียนไม่ได้มาตรฐาน เด็กต้องกินบะหมี่ผัดไข่ไม่มีเนื้อสัตว์ แต่ครูอ้อมกลับถูกเอาเลือดปาห้องพักครู และมีผู้พบเห็นว่า แม่ครัวของโรงเรียน เคยโพสต์รูปเลือดหมูเอาไว้ในเฟซบุ๊กด้วย ต่อมา เกิดประเด็นดราม่าเมื่อสำนักงานพื้นที่การศึกษาชัยนาท หรือ สพป.ชัยนาท ได้มีหนังสือคำสั่งด่วนที่สุด ลงนามโดยนางสาวลออ วิลัย ผอ.สพป.ชัยนาท มีคำสั่งให้ครูอ้อม ย้ายไปช่วยราชการที่ สพป.ชัยนาท โดยให้เหตุผลว่าเพื่อความเหมาะสมระหว่าการสอบสวนเรื่องท้วงติงเรื่องคุณภาพอาหารกลางวัน โดยจะจัดหน้าที่งานให้ตามความเหมาะสม และให้มีผลทันที

ต่อมา มีการเผยแพร่เอกสาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท เรื่อง ให้ข้าราชการครูกลับไปปฏิบัติหน้ที่ในโรงเรียน เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดวงเดือน อ้างถึง หนังสือสำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท ที่ ศธ 0๔๐๓๗/๓๕o๕ ลงวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๒ ตามที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท ได้ให้นางสาวอ้อมอารีย์ แข็งฤทธิ์ตำแหน่งครู โรงเรียนวัดวงเดือน ไปช่วยปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๒ ความละเอียดแล้วนั้น เนื่องจากมีภารกิจของโรงเรียนในการจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กปฐมวัยที่ตนเองรับผิดชอบ จึงให้ข้าราชการครูรายดังกล่าวกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนตั้งแต่วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป จึงเรียนมาเพื่อทราบและดำเนินการ ขอแสดงความนับถือ นางสาวลออ วิสัย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท

เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.62)  นายอัจฉริยะ  เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางติดตามกรณีที่นางสาวอ้อมอารีย์ แข็งฤทธิ์ หรือ ครูอ้อม ครูประจำชั้นอนุบาลของโรงเรียนวัดวงเดือน โดยมีการเชิญแม่ครัวและส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม หลังจากมีการตรวจสอบข้อมูลเสร็จสิ้น ได้ข้อสรุปดังนี้

1.จากกรณีปาเลือดที่หน้าห้องของครูอ้อม พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยงู จ.ชัยนาท รับเป็นคดีอาญาเรียบร้อย เหลือแค่ผลการพิสูจน์หลักฐานของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องของ DNA กับ รอยนิ้วมือแฝงในถึงเลือดหมู

 

2.คุณภาพอาหาร มีการทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบข้อมูล ได้ข้อสรุปว่า แม่ครัวที่เป็นคนผลิตอาหารได้รับสัญญาว่าจ้างเป็นรายวัน วันละ 2,080 บาท ตกหัวละ 20 บาท นักเรียนมีทั้งหมด 104 คน ซึ่งเป็นเงินที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล ผ่านองกรณ์ปกครองส่วนท้องถิ่น ผลสรุปว่าแม่ครัวมีการลดคุณภาพวัตถุดิบลง ทำให้วัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผสมอาหารไม่ตรงตามเสป็กที่กำหนดไว้ของทางโรงเรียน กับทาง แม่ครัว สรุป แม่ครัวเอากำไรมากเกินไป โดยทางผู้อำนวยการโรงเรียน กับทางคณะกรรมการ ปล่อยปะละเลย ไม่มีการตรวจสอบแม่ครัว จนทำให้คุณภาพของอาหารกลางวันของเด็กไม่ตรงตามเสป็ก

 

3.เรื่องคำสั่งแต่งตั้งย้ายครูอ้อมไปที่ จ.ชัยนาท โดยสำนักงานเขตการศึกษาจังหวัดชัยนาท ทางนายอัจฉริยะ จะมีการยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยจะมีหนังสือขอให้ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนไปประจำที่ สำนักงานเขตการศึกษาจังหวัดชัยนาทเป็นการถาวรจนเกษียณอายุราชการ

 

4.ขอให้ท่านรัฐมนตรีมีการสั่งย้าย ผอ.เขตสำนักงานการศึกษาจังหวัดชัยนาทที่มีการออกหนังสือย้าย ครูอ้อม มาช่วยราชการที่ สำนักงานเขตการศึกษาจังหวัดชัยนาท เพื่อให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และตรวจสอบวินัยผู้อำนวยการที่มีการเซ็นต์หนังสือคำสั่งย้ายครูอ้อมมาช่วยราชการมายังสำนักงานเขตการศึกษาจังหวัดชัยนาท เพราะถือว่าการออกคำสั่งเป็นการออกคำสั่งไม่สมเหตุสมผล ทำให้ครูอ้อมได้รับความเสียหาย ในวันที่ 30 ส.ค.62  จะยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตามข้อเท็จจริง ที่ได้มีการลงพื้นที่ดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

 

คุณสาวิตรี หนึ่งในผู้ปกครอง เผยว่า เหตุที่ชาวบ้านรักครูอ้อม เพราะครูอ้อมกล้าเปิดหน้าชนกับผู้มีอำนาจ ครูอ้อมเคยตั้งคำถามเรื่องอาหารกลางวันมาหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง จนกระทั่งครูอ้อมเอาเรื่องนี้ไปลงโซเชียล และกลายเป็นกระแสสังคมทันที ลูกของตนเป็นเด็กพิเศษ พัฒนาการช้า ตนไปจ้างครูคนอื่นให้สอนพิเศษให้ลูก วันเสาร์-อาทิตย์ คิด 500 บาท แต่ไป ๆ มา ๆ ครูก็ไม่สอนเพราะเป็นเด็กพิเศษ จนกระทั่งมาเจอครูอ้อม ครูอ้อมสอนให้ 5 วันต่อสัปดาห์ วันจันทร์-ศุกร์ คิดค่าเรียนแค่ 300 บาท และเอาเงิน 300 ไปซื้อขนมให้เด็ก
 

ล่าสุด รายการทุบโต๊ะข่าว ได้ไปสัมภาษณ์ยังคุณครูที่ทำงานร่วมกับครูอ้อม โดยได้ระบุว่า

แต่ก่อนมีคณะกรรมการอาหารกลางวันมากำหนดว่าเด็กจะต้องได้กินปลาดอรี่ ปลากะพง แต่งบหัวละ 20 บาท มันเป็นไปไม่ได้ และครู 3 คนในโรงเรียนจะตัดสินใจเซ็นใบลาออก เพราะเดินไปไหนก็โดนวิจารณ์ ตนได้รับผลกระทบ ผู้ปกครองก็มาตะโกนด่า ตนเป็นครู ไม่เคยคิดแม้แต่จะกลั่นแกล้งลูกศิษย์

"เราก็เป็นคนนอกพื้นที่ มาทำงานทุกวัน ไม่มีใครมาให้กำลังใจเราเลย มีแต่บอกว่าครูอ้อมสู้ ๆ มีแต่ฝั่งเขา แล้วทุกคนโดนตรวจสอบหมด ทำให้เราไม่มีกะจิตกะใจ ไม่มีแรงบันดาลใจที่จะสอนเด็ก มันรู้สึกแย่

 เราเสียใจ ไม่มีครูคนไหนไม่รักเด็ก เราไม่มีเจตนาที่จะอะไรเลย เราสอบมาเป็นครู เราอยากมาพัฒนาเด็ก เด็กแข่งวิชาการอะไร เราก็ไปมาหมด ไปได้ระดับภาค ระดับประเทศ เราก็ไปมาหมดแล้ว เราทำให้ชุมชนเห็น แต่เขาไม่เคยให้กำลังใจเราเลย"

CR.รายการทุบโต๊ะข่าวอมรินทร์ ,ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม