"เสรีพิศุทธ์"ลุยลำปางต่อเนื่อง ชี้เสียงตอบรับดีเกินคาด

3มิย.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ ส.ส.ของพรรคลงพื้นที่ช่วย ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ ผู้สมัครส.ส.เขตสี่ จ.ลำปาง พรรคเสรีรวมไทยหาเสียงในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขตสี่เป็นวันที่สาม

โดยหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ลงพื้นที่รุดเยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากลมพายุและฝนฟ้าคะนองขึ้นในพื้นที่ตำบลนายาง อำเภอสบปราบ  จังหวัดลำปาง ตรวจสอบความเสียหายและเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านผู้ประสบวาตภัยโดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น มีบ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบประมาณ 90 หลัง กระเบื้องเสียหายประมาณ 600 แผ่น 

               

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า  มีความมั่นใจตั้งแต่ส่ง ร.ต.ท.สมบูรณ์ ลงสมัครในคราวนี้ถึงแม้ครั้งที่แล้วจะไม่ชนะการเลือกตั้งก็ตาม เหตุที่มั่นใจ คือ พรรคเพื่อไทยไม่ได้ลงสมัครส่วนพรรคอนาคตใหม่ก็ลงสมัครไม่ได้ เพราะฉะนั้นพรรคของเราจึงเป็นพรรคฝ่ายค้านพรรคเดียวที่ลงสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ 

 “สังเกตดูอีกสี่คนที่ลงสมัครเป็นฝ่ายรัฐบาลเพราะฉะนั้นตอนนี้เป็นการต่อสู้กันระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ ผมเชื่อแน่ว่าพี่น้องลำปางเขต4 รักประชาธิปไตยเพราะประชาธิปไตยสามารถที่จะพูดได้ โต้ตอบได้ ตรวจสอบได้ โปร่งใส ไม่เหมือนเผด็จการ อย่างเช่น พระราชกำหนดสามฉบับที่ออกมาเพื่อจะกู้เงิน เราจะขอตรวจสอบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชายังไม่ยอมให้ตั้งกรรมาธิการตรวจสอบเลย เราต้องตรวจสอบให้ได้  ไม่เช่นนั้นเงิน 1 ล้านล้าน บาทที่จะเอามาใช้จ่ายให้ประชาชนก็จะถูกทุจริต คอรัปชั่น”หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ดังนั้นเมื่อพรรคใหญ่ๆลงไม่ได้ พรรคของเราเป็นตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตย เชื่อว่า พี่น้องประชาชนที่ลำบาก เขต 4 รักประชาธิปไตย ครั้งที่เเล้วพรรคเสรีรวมไทย ถึงไม่ชนะก็มีคะแนนลำดับต่อจากพรรคเพื่อไทย พลังประชารัฐ อนาคตใหม่เมื่อตนบอกว่ามั่นใจตั้งแต่ต้นแล้วคือคะแนนของฝ่ายประชาธิปไตยมีตั้ง 7 กว่าหมื่นคะแนน ส่วนเผด็จการมีกว่าสามหมื่นคะแนน เเบบนี้มันชนะกันอยู่แล้ว

“ เมื่อชนะกันอย่างนี้ขอร้องพี่น้องประชาชน ลำปาง เขต4 ที่เคยลงคะเเนนให้พรรคเพื่อไทย อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย เพื่อชาติ ประชาชาติ ฝ่ายประชาธิปไตย อย่าเปลี่ยนใจนะครับ ให้หันมาลงคะเเนนให้พรรคเสรีรวมไทย เพราะเราเป็นตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตย ส่วนพี่น้องประชาชนซึ่งคราวที่แล้วไปเลือกฝ่ายเผด็จการ เลือกพรรคพลังประชารัฐ 3 หมื่นกว่าคะแนนจะเห็นอยู่แล้วว่าพลเอกประยุทธ์บริหารประเทศมา 6- 7 ปีแล้วครั้งแรกเป็นนายกฯโดยการรัฐประหาร  ครั้งที่สองถึงแม้จะเลือกตั้ง เมื่อบริหารประเทศทั้งหมด 6-7 ปีแล้ว ลองไปดูว่าพลเอกประยุทธ์บริหารประเทศ แล้วพี่น้องประชาชนเป็นอย่างไร ยากจนลงทุกวัน”หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยกล่าว

 หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่าสังเกตดูได้ว่าพลเอกประยุทธ์ตั้งงบประมาณซึ่งเป็นภาษีของประชาชนมาบริหารประเทศขาดดุลทุกปี เป็นนายกฯปี 2557 ก็ตั้งงบประมาณขาดดุลปี 2558 – 2563 ก็ตั้งงบขาดดุลมาโดยตลอด คำว่าขาดดุลโดยตลอดคือว่า เก็บภาษีประชาชนได้ไม่เพียงพอกับงบประมาณที่จะใช้จ่าย ก็เลยต้องไปกู้มา 

 “ท่านลองคิดในชีวิตของท่านต้องกู้ ต้องเป็นหนี้ ท่านจะมีความสุขไหมแล้วพอเกิดโรคระบาดที่จะต้องดูแลประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา47 บัญญัติว่า “ประชาชนย่อมได้รับการป้องกันและขจัดโรคภัย โรคระบาด จากรัฐบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” ถ้าผมพูดสั้นๆ คือ เมื่อโรคระบาด ไวรัสโควิด-19 เข้ามา รัฐจะต้องดูแลหมด ป้องกัน หน้ากากอนามัยต้องถึงบ้าน ตรวจโควิดต้องฟรี ป่วยแล้วรักษาฟรี แต่ไปกำหนดมาตรการต่างๆขึ้นมา เพื่อไม่ให้หยุดงาน ทำงาน พ่อค้า-แม่ค้า เดือดร้อน คนงานตกงาน บริษัทปิดหมด คุณต้องชดเชยพวกเขา แต่ไม่มีเงินชดเชย ก็ต้องไปกู้อีก สร้างภาระให้แก่ประเทศชาติ เเละประชาชน ลูกหลานข้างหลังที่ต้องมาชดใช้แทน เดี๋ยวปัญหาตามมา คุณประยุทธ์ต้องหาเงินไปชดใช้คนอื่น ด้วยการขึ้นภาษีอีก พี่น้องประชาชนก็จะยิ่งเดือดร้อนขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นประชาชนที่เคยเลือกพรรคฝ่ายเผด็จการ ควรจะเปลี่ยนใจหันมาเลือกฝ่ายประชาธิปไตยให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้มีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศ แล้วพวกท่านจะสามารถตรวจสอบได้ทุกอย่าง ไม่พอใจไม่เลือกต่อไปก็ได้แต่เผด็จการนั้นเราบอกให้พวกเขาไปได้แล้ว พวกเขาบอกว่าลองไล่ดูสิ ท้าทาย ถ้า"โควิด-19" ไม่มา ผมก็เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์อยู่ไม่ได้แล้ว "โควิด-19"มาช่วยพลเอกประยุทธ์นะ ขอให้พวกเรามั่นใจ เชื่อมั่นในตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะบริหารประเทศได้ ทั่วโลกก็เป็นประชาธิปไตย อย่ามาบอกว่าบางประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย อย่างเช่นจีน ไม่ได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แต่ว่าฐานของจีนแน่น ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ คนจะเติบโตมาในรัฐบาลจีน พวกเขากลั่นกรอง ผู้นำจีนและรัฐมนตรี เเต่ละคนก็ได้รับการกลั่นกรองเลือกมา 

เเต่คนของเรายังแย่งกันอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ก็ยังแย่งกันเป็นรัฐมนตรี พอขึ้นมาแล้วก็บริหารไม่ได้ เป็นมือสมัครเล่นกันทั้งนั้น สู้คนอื่นไมได้หรอกฉะนั้นพวกท่านต้องเลือกพรรคเสรีรวมไทย เพื่อเข้าไปแก้ไขประเทศ เเละไปเปลี่ยนรัฐบาล แล้วพี่น้องประชาชนจะเข้าใจว่าประชาธิปไตยเป็นแบบนี้เอง อย่าไปเชื่อเผด็จการทั้งหลายเพราะหลอกลวง จำได้ไหม เมื่อพลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจ บอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน ไม่นานนั้น6-7 ปีแล้ว เขียนรัฐธรรมนูญอยู่ต่ออีกเป็น10ปี เพราะฉะนั้นต้องเปลี่ยนให้ได้ ควรเลือกฝ่ายประชาธิปไตย ต้องขอบคุณที่ให้โอกาสพรรคของตนครั้งนี้
“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

“ความกังวลในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มี เมื่อวานนี้(1มิ.ย.)เดินหาเสียงเลือกตั้งแถวตลาดสาหร่าย เเต่มีบางอำเภอในเขตเลือกตั้งนี้จะมาคัดค้านไม่ให้เราใช้เครื่องเสียง ผมขอให้ไปอ่านกฎหมายดู ตอนนี้ใช้กฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายเลือกตั้งระบุว่าผู้สมัครสามารถหาเสียง เเละใช้เครื่องขยายเสียงได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต เเต่บางคนไม่รู้เรื่องเลย ยังโง่งมงายอยู่อย่างนี้ เพราะอิทธิพลในพื้นที่ เดี๋ยวผมหาเสียง ใครลองมาทะลึ่งกับผม ผมจะดำเนินคดีให้หมด ข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และใช้อิทธิพลในพื้นที่ จะมาใช้วิธีนี้กับพรรคเสรีรวมไทยไม่ได้ เพราะหัวหน้าพรรคก็เคยเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ”หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยกล่าวว่า หากจะพูดถึงเรื่องที่ชาวบ้านอยากให้แก้ไขปัญหาพบว่า ชาวบ้านเดือดร้อนจากการใช้อำนาจของรัฐบาลที่ผ่านมาทั้งหมด และปัญหาเรื่องที่ทำมาหากินต่างๆ ตนสอบถามมาเเล้ว โดยใครๆก็บอกค้าขายไม่ดีขึ้น เทียบกับสมัยก่อนไมได้ 

 “ถ้าท่านจำได้ในการประชุมรัฐสภาเมื่อสมัยที่แล้ว เราจะตั้งกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของพลเอกประยุทธ์ ว่าใช้มาตรา44 ชอบหรือมิชอบ อะไรที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเราจะแก้ เชื่อไหม ผลโหวตออกมาฝ่ายค้านชนะ แต่ประธานสภาผู้เเทนราษฎรให้โหวตนับคะแนนใหม่ ซึ่งมันผิดกฎข้อบังคับ ข้อบังคับระบุว่าให้นับใหม่ถ้ามีการคัดค้านเเละชนะไม่เกิน 25 เสียงไม่ใช้ให้ลงคะแนนใหม่ฝ่ายรัฐบาลก็เกณฑ์คนเข้ามาเพราะรัฐบาลมีส.ส.มากกว่า คราวนั้นจึงตั้งกรรมาธิการตรวจสอบไม่ได้ เมื่อฝ่ายบริหาร เเละฝ่ายยุทธศาสตร์มันเป็นกันแบบนี้ ดังนั้นพวกเราต้องเปลี่ยนกันให้ได้”หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยกล่าว

 หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยกล่าวว่า เชื่อว่าคะแนนเสียงที่จะกลับคืนมาให้พรรคเสรีรวมไทย คะแนนฝ่ายประชาธิปไตย 7-8หมื่นคะเเนน ตนจึงบอกว่าประชาชนที่เคยเลือกฝ่ายประชาธิปไตย อย่าเปลี่ยนใจ อย่าให้พวกเขาเอาเงินมาล่อมาซื้อได้โดยเด็ดขาด ขอให้ทุ่มคะแนนมาทั้งหมดให้พรรคเสรีรวมไทยก็ชนะแล้ว 

“ผมอ้อนวอนคนที่ไปลงคะเเนนให้ฝ่ายเผด็จการ 3หมื่นกว่าคะเเนนด้วยว่า ขอให้ดูการบริหารของพลเอกประยุทธ์ว่าเป็นอย่างไร มันล้มแหลวไหม เมื่อล้มเหลว จะไปเลือกพวกเขาอีกทำไม ขอให้มาเลือกฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าเปลี่ยนใจ คะแนนของฝ่ายเราถึง1แสนคะเเนนเเน่นอน”หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุ