ข่าว

"จตุพร" ห่วงคนอดอยาก จี้เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เตือน "บิ๊กตู่" ฝืนใช้ต่อขอให้โชคดี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"จตุพร" ส่งสัญญาณคนเดือดร้อน อดอยาก หิวโหยมีทั่วประเทศ ย้ำเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผ่อนคลายทุกข์ พร้อมเย้ย "บิ๊กตู่" หากดึงดันใช้ต่อ "ขอให้โชคดี"

 

วันที่ 13 พ.ค. 2563 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวย้ำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และถ้ายังคงใช้ต่อไปอีกก็ "ขอให้โชคดี"

 

ซึ่งเมื่อวานนี้(12 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ อ้างโพลของสื่อสารสำนักหนึ่ง ที่สำรวจความเห็นประชาชนเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยระบุว่า 88% ไม่ต้องการให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น ยืนยันว่าการยกเลิกหรือไม่ยกเลิกนั้น เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่าถ้าไม่ยกเลิก "ขอให้โชคดีนะครับ"

 

โดยตนในฐานะประชาชน และได้สัมผัสกับความรู้สึกของประชาชน จะสะท้อนอุณหภูมิความเดือดร้อน และความต้องการให้ยกเลิก เนื่องจากไม่ต้องการให้ประเทศเดินไปสู่กับดักความยากจนในอนาคตอีก

 

อ่านข่าว "จตุพร"ตอบดังชัด เลิก พรก.ฉุกเฉินทันที

 

 

"ผมไม่ใด้ใช้ช่องทางยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อไปขับไล่นายกฯและรัฐบาล แต่เห็นสิ่งที่รออยู่ข้างหน้ามันน่ากลัว และอาจนำไปสู่ความตายอีกครั้งหนึ่งได้ เมื่อทุกประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยเฉพาะเหตุการณ์พฤษภา 2535 และพฤษภา 2553 การชุมนุมไม่ได้เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจ แต่ถ้าในอนาคตการชุมนุมเกิดจากความหิวโหยแล้ว ใครจะไปฟังใครได้ และหากประเมินสถานการณ์ทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่ำกว่าความเป็นจริง จะได้รู้ว่านรกมีจริง ก็ขอให้ตีขิมนั่งรอได้เลย เมื่อความหิวของประชาชนเกิดมาแล้ว ดังนั้นโอกาสของรัฐบาลคงหนีไม่พ้น ต้องได้เจอแน่ และมันต้องเดินทางมาถึง อีกอย่างการเรียกร้องให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ไม่ได้นำเสนอเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองเลย" นายจตุพร กล่าว 

ทั้งนี้ นายจตุพร กล่าวว่า ตนพยายามจะบอกว่า อะไรมันจะเกิด ถ้าคนมีสมองคิดได้ก็แล้วไป โพลสื่อสำนักไหนไม่รู้ว่า 88% ให้ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ถ้าประชาชนไม่สามารถประกอบอาชีพได้แล้ว แรงงานยิ่งเดือดร้อนมากขึ้น คนทำงานต้องเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เพราะหางานทำยากขึ้นตามไปด้วย ยิ่งมองเห็นอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้า นายกรัฐมนตรีเชื่อโพลนี้หรือไม่ ถ้าเชื่อก็ขอให้โชคดี อย่าได้ยกเลิก เมื่อตัวเลขสถานการณ์ผู้ติดเชื้อมีแค่นี้ จำเป็นต้องมี พ.ร.ก.ฉุนเฉิน ด้วยหรือ วันนี้ไม่ได้คิดอ่านทางการเมืองอะไรเลย พูดในฐานะประชาชน ต้องการให้บ้านเมือง ประชาชนยืนหยัดกันได้

ส่วนการรำลึกเหตุการณ์ชุมนุมในเดือนพฤษภาทั้ง ปี 2535 และ ปี 2553 นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ตนมีชีวิตต่อสู้ในเหตุการณ์เดือนพฤษภาแตกต่างกัน โดยในปี 2535 ตนนำขบวนประชาชนไปประกาศสู้ในรั้วมหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ปี 2553 ตนกลับประกาศยุติการต่อสู้ เพื่อไม่ต้องการให้ประชาชนล้มตายกันมากมายอีก

 

 

อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์การชุมนุมต่อสู้ทางการเมืองย่อมมีความงดงามและต้องพูดรำลึกถึงกัน เช่น 14 ต.ค. 2516 เป็นชุมนุมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ เหตุการณ์เมื่อ 6 ต.ค. 2519 เป็นสถานการณ์สะท้อนถึงความบ้าคลั่งฝ่ายอำนาจ  ปี 2535 เป็นการชุมนุมเพื่อต่อต้านการสืบทอดอำนาจ 

สำหรับเหตุการณ์ ปี 2553 ประชาชนออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ต้องการให้ยุบสภา แล้วถูกปราบด้วยอาวุสงคราม ใช้สไนเปอร์ยิงผู้ชุมนุมเป็นครั้งแรก ดังนั้นการพูดถึงประวัติศาสตร์จึงไม่ใช่การสร้างความแตกแยกเพียงด้านเดียวตามที่ฝ่ายอำนาจกล่าวหา

ดังนั้นวันนี้ฝ่ายอำนาจต้องมีจิตใจที่กว้างขึ้น เพราะการจัดงานรำลึกประวัติศาสตร์ไม่ใช่การสร้างความแตกแยก เนื่องจากบาดแผลมีมากมายที่ต้องพูดถึงและอยากให้แต่ละฝ่ายช่วยประคับประคองกัน อย่าทำให้เขาไม่มีที่ยืน ถ้าฝ่ายอำนาจบอกเป็นการสร้างความแตกแยก จึงเป็นทัศนที่อันตรายอย่างยิ่ง

"เราไม่ได้รำลึกด้วยความอาฆาตแค้น แต่ต้องการให้เป็นบทเรียนที่ไม่ต้องการให้ใครมาตายอีก วันนี้ผู้ปกครองอาจรู้สึกกับงานรำลึก ก็ขอให้มองอีกด้านว่า พ่อแม่ผู้ตายอยู่กับความทุกข์มากี่สิบปีแล้ว ดังนั้นงานรำลึกจึงเป็นสิ่งเดียวที่จะเยียวยาหัวใจของผู้สูญเสีย พร้อมได้สดุดีวีรชนกัน ขอให้ฝ่ายอำนาจใจกว้างกันบ้าง"

 

"จตุพร" ห่วงคนอดอยาก จี้เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เตือน "บิ๊กตู่" ฝืนใช้ต่อขอให้โชคดี

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ