ข่าว

ทุกขั้นผ่านออนไลน์ ไม่ต้องมาศาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลยุติธรรม ออกแนวปฏิบัติผัดฟ้องฝากขังครั้งแรกผ่านคอนเฟอเรนซ์ช่วงโควิด-19 ระบาด

 

 

4 เมษายน 2563  ศาลยุติธรรม ออกแนวปฏิบัติผัดฟ้องฝากขังครั้งแรกผ่านคอนเฟอเรนซ์ช่วงโควิด-19 ระบาด ให้ใช้คอนเฟอเรนซ์-Skype-FaceTime -Messenger-LINE สอบถาม-ไต่สวน ผู้ต้องหาผัดฟ้องฝากขังครั้งแรก ก่อนออกหมายขัง-สั่งประกันคำร้องใบเดียว ทุกขั้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ต้องมาศาล  

 

อ่านข่าว  ลดแออัด กรมบังคับคดี เปิดไกล่เกลี่ยออนไลน์  

เชื้อถึงตัว"ศบค."ย้ายศูนย์หนีโควิด  

ไม่จบ !  23 ผู้โดยสารสุวรรณภูมิยังรั้นไม่กักตัว 

"หมอระวี"เตือนเสี่ยหนูอย่าลืมค่าตอบแทนวิชาชีพ 

3 ระดับ ระยะห่างต้องแบบนี้ 
เข้มข้นขึ้นทุกวัน"รัฐบาล"พร้อมยกระดับเคอร์ฟิว 

ซุปเปอร์เซฟ สถานทูต ประกาศ คนไทยกลับจากสหรัฐต้องกักตัว

กยท.เปิดศูนย์ร้องทุกข์ยางพาราจากผลกระทบ COVID-19   

 

 

สำนักส่งเสริมงานตุลาการ ศาลยุติธรรม ได้ออกแนวทางปฏิบัติงานการสอบถามผู้ต้องหา หรือไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาครั้งแรก ผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease : COVID-19)

 

โดยกำหนดวิธีการปฏิบัติทางธุรการเกี่ยวกับการสอบถามผู้ต้องหา หรือการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหา ในลักษณะการประชุมทางจอภาพ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ตั้งแต่ครั้งแรก ตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการสอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขัง ผู้ต้องหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ พ.ศ.2556 ข้อ 8

 

รวมทั้งระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาในศาลที่เกี่ยวกับผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำหรือสถานที่กักขัง ในระหว่างที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 พ.ศ.2563 ข้อ 4 เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในสุขอนามัยของประชาชนและเจ้าพนักงาน


ซึ่งมีมาตรการลดการเดินทางมาศาล และลดจำนวนผู้ต้องขังในเรือนจำที่แออัด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ดังต่อไปนี้


1.การยื่นคำร้องและรูปแบบคำร้อง ให้พนักงานสอบสวน/พนักงานอัยการ ยื่นคำร้องขอหมายผัดฟ้อง/ฝากขัง และเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อศาล ทางแฟกซ์ (Fax) , e-mail , สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น โดยจัดส่งคำร้องมายังศาลในวัน-เวลาราชการล่วงหน้า ก่อนกำหนดนัดไต่สวน


2. การดำเนินการเกี่ยวกับเอกสาร เมื่อศาลได้รับคำร้องแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ศาล ดำเนินการดังนี้


(1) ตรวจสอบคำร้องขอผัดฟ้อง/ฝากขังที่ได้รับ หากไม่ถูกต้องให้แจ้งพนักงานสอบสวนทราบทางโทรศัพท์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นเพื่อแก้ไขให้ถูกต้องโดยเร็ว จากนั้นรับคำร้อง บันทึกข้อมูลคดีประวัติและภาพถ่ายผู้ต้องหาไว้ในโปรแกรมระบบสำนวนคดี


(2) จัดทำสำนวนการขอผัดฟ้อง/ฝากขัง เสนอผู้พิพากษาพิจารณาสั่ง (3) เมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตให้สอบถามผู้ต้องหา หรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหา ในลักษณะการประชุมทางจอภาพหรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นได้ ให้เจ้าหน้าที่ศาลประสานงานไปยังพนักงานสอบสวน/พนักงานอัยการเพื่อสอบถามวันนัดไต่สวนและความพร้อมของระบบ หากเจ้าหน้าที่เห็นว่าระบบที่ใช้อยู่มีเหตุขัดข้องก็ให้รายงานเหตุนั้นต่อศาลโดยพลัน เพื่อให้ศาลพิจารณาอนุญาตให้นำสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นมาใช้ในการไต่สวนแทน 

 


(4) ให้เจ้าหน้าที่ศาล นัดเวลาการไต่สวนคำร้องดังกล่าว เมื่อได้กำหนดวันนัดไต่สวนแล้วให้เจ้าหน้าที่ศาลจัดเตรียมความพร้อมระบบการประชุมทางจอภาพ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น เพื่อใช้ในการสอบถาม หรือทำการไต่สวนตามวัน-เวลาที่ศาลกำหนดต่อไป


(5) ให้เจ้าหน้าที่ศาล จัดส่งสำเนาคำร้องและแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบทุกครั้ง ก่อนที่ศาลจะสอบถามหรือทำการไต่สวน (6) ให้เจ้าหน้าที่ศาล จัดทำบันทึกทะเบียนคุมเกี่ยวกับการสอบถามหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นตามแบบที่กำหนดไว้ท้ายประกาศสำนักงานศาลยุติธรรม


3. การไต่สวนผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น (1) ในการสอบถามผู้ต้องหา หรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายผัดฟ้อง/ฝากขังผู้ต้องหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นตั้งแต่ครั้งแรก ให้ดำเนินการภายในห้องพิจารณาคดีโดยมีการถ่ายทอดภาพ-เสียงระหว่างห้องพิจารณาคดีกับสถานีตำรวจ (กรณีผู้ต้องหาอยู่ที่ทำการของพนักงานสอบสวน) หรือเรือนจำ (กรณีพนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหามาที่เรือนจำ) หรือที่ทำการของพนักงานอัยการ

 

โดยให้พนักงานสอบสวน/พนักงานอัยการ นำตัวผู้ต้องหามาไต่สวนที่สถานีตำรวจ หรือเรือนจำ หรือที่ทำการของอัยการแล้วแต่กรณี (2) ในการสอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐาน ในการออกหมายผัดฟ้อง/ฝากขังผู้ต้องหาครั้งแรก ศาลอาจใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ของสํานักเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานศาลยุติธรรม

 

แต่ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการได้หรือหากการดำเนินการ ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสํานักเทคโนโลยีสารสนเทศจะทำให้คดีเกิดความล่าช้า ศาลอาจดำเนินการดังกล่าวผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ ที่สามารถถ่ายทอดภาพและเสียงระหว่างศาลและสถานที่ซึ่งทำการผัดฟ้อง/ฝากขัง เช่น Skype , FaceTime , Messenger , LINE , WhatsApp , ZOOM , WeChat เป็นต้น

 

(3) ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของCOVID-19 ศาลอาจพิจารณาว่าเป็นกรณีมีเหตุขัดข้องที่เจ้าพนักงานศาล , บุคคลภายนอก หรือบุคคลที่ผู้ต้องหาร้องขอ ไม่อาจไปเป็นสักขีพยานในการสอบถามหรือไต่สวนได้ ศาลมีอำนาจมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นสักขีพยานแทนก็ได้

 

ทั้งนี้ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นสักขีพยาน ต้องมีคุณสมบัติตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการสอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ พ.ศ.2556 ข้อ 5 คือมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ , สามารถพูดคุย มองเห็นและติดต่อสื่อสารผ่านระบบการประชุมทางจอภาพหรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นได้ , ไม่เป็นบุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ เสมือนไร้ความสามารถ หรือเป็นคนวิกลจริต , ต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี หากเป็นข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ควรต้องเป็นข้าราชการชั้นสัญญาบัตรขึ้นไป


(4) การสอบถามและไต่สวนให้เป็นไปตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เมื่อศาลสอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานเสร็จแล้ว ให้ศาลจดบันทึกถ้อยคำของผู้ร้องและผู้ต้องหา และจดบันทึกให้ปรากฏด้วยว่าได้สอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวน พยานหลักฐานผ่านระบบการประชุมทางจอภาพแอปพลิเคชันอื่นใด หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น และลงลายมือชื่อไว้ (5) เมื่อศาลไต่สวนเสร็จแล้วให้เจ้าหน้าที่ศาลส่งคำให้การพยาน และรายงานกระบวนพิจารณาไปยังสถานีตำรวจ หรือเรือนจำ หรือที่ทำการของพนักงานอัยการทาง Fax , e-mail หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น เพื่อให้ผู้ร้อง , สักขีพยาน , ผู้ต้องหาลงลายมือชื่อ แล้วส่งกลับมายังศาล Fax , e-mail หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นให้รวมเข้าสำนวนคดี

4. การออกหมายขัง (1) เมื่อศาลมีคำสั่งให้ออกหมายขัง ให้เจ้าหน้าที่ศาลส่งสำเนาหมายขังพร้อมภาพถ่ายผู้ต้องหาไปยังเรือนจำ ทาง
Fax , e-mail หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น
ส่วนต้นฉบับหมายขัง ให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มารับหมายขังในภายหลัง (2)ให้ผู้ร้อง นำตัวผู้ต้องหาไปส่งที่เรือนจำในวันเดียวกัน (3)กรณีที่มีการขอประกันตัว ให้ผู้ขอประกันยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาต่อศาล พร้อมเอกสารประกอบและหลักประกัน โดยให้สอบถามผู้ต้องหาอยู่ที่สถานีตำรวจ ผ่านระบบการประชุมทางจอภาพหรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น หากผู้ต้องหาประสงค์ขอประกันโดยไม่มีหลักประกันให้พนักงานสอบสวน/พนักงานอัยการ แล้วแต่กรณี ส่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราว (คำร้องใบเดียว) มายังศาล Fax , e-mail หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นเพื่อให้ศาลพิจารณาสั่ง โดยการสาบานตนของผู้ต้องหาก่อนปล่อย ซึ่งอาจทำผ่านระบบการประชุมทางจอภาพได้


/////////////////////////

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ