ข่าว

ยกแรก 2 ฝ่าย พรึ่บ 'เชียร์-ไล่ลุง' นับหมื่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยกแรก 2 ฝ่าย พรึ่บ 'เชียร์-ไล่ลุง' นับหมื่น ตจว.กร่อย นัดอีก 2 ก.พ. พปชร.อัด ธนาธร ล้ำเส้นปลุกม็อบ

        เริ่มขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับกิจกรรมวิ่งเชียร์ลุงและไล่ลุง โดยบรรยาการศการวิ่งของทั้ง 2 ฟากฝั่งเป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนเข้าร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์แต่ละฝ่ายกว่าหมื่นคน ขณะเดียวกันได้มีนักการเมืองเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวอย่างคับคั่ง ซึ่งในด้านรักษาความปลอดภัยพบว่าวิ่งเชียร์ลุุงและไล่ลุงเป็นไปอย่างราบรื่น

     วิ่งไล่ลุง คึกคักพรึ่บสวนรถไฟ

     เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 12 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงาน ‘วิ่งไล่ลุง’ ที่สวนรถไฟ กรุงเทพฯ มีผู้ทยอยเดินทางเข้าร่วมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงก่อนเวลา 05.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเปิดประตูโดยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบดูแลโดยรอบ พร้อมตรวจความปลอดภัยเคร่งครัดในจุดคัดกรองต่างๆ ทำให้สภาพการจราจรเริ่มติดขัด ส่วนภายในงานตั้งเวทีขนาดใหญ่เขียนข้อความ ‘หยาดเหงื่อทุกหยดเพื่ออนาคตประเทศไทย’ และ ‘ออกยากกว่าพุงก็ลุงนี่แหละ’ พร้อมภาพวาดโดย ‘ไข่แมว’ มีการเปิดเพลง ‘ประเทศกูมี’ และเพลง ‘วิ่งไล่ลุง’ โดยวง rap against dictatorship

      ขณะเดียวกันมีรายงานว่าผู้เข้าร่วมงานกิจกรรมสวมใส่เสื้อยืดสกรีนลวดลาย ‘วิ่งไล่ลุง’ บางส่วนนำสติกเกอร์มีข้อความต่างๆ รวมถึงข้อความที่เขียนเพื่อบ่งบอกความรู้สึกส่วนตัว จากนั้นเวลาประมาณ 06.00 น. ทีมงานเริ่มจำหน่ายของที่ระลึกซึงมีผู้ต่อคิวซื้อเป็นจำนวนมากพร้อมแจกเหรียญปราบกบฏให้แก่ผู้นำนกหวีดมาแลก

     ธนาธร-ช่อ-นักการเมืองร่วม

    ต่อมาเวลาประมาณ 06.30 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เดินทางมาถึงบริเวณสถานที่จัดงานโดยสวมใส่เสื้อยืดสกรีนลาย ‘วิ่งไล่ลุง’ มีมวลชนตะโกน ‘ธนาธรสู้ๆ’ ตลอดทาง จากนั้นเวลา 07.00 น. จอห์น วิญญู เดินทางมาถึงโดยกล่าวว่า คนไทยควรมีคุณภาพชีวิตที่ดีว่านนี้ วันนี้อยากให้มาร่วมปลดปล่อยความรู้สึกไปด้วยกัน ในขณะที่ น.ส.ณัฏฐา มหัธนา หรือ โบว์ นำมวลชนตะโกน ‘ประยุทธ์ออกไป ประชาธิปไตยจงเจริญ’

     ทั้งนี้ในส่วนของนักการเมืองและคนดังพบว่าเข้าร่วมกิจกรรมหลายคน อาทิ นายธนาธร นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา น.ส.พรรณิการ์ วินิช โฆษกพรรคอนค. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ อนค. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล นายตรีรัตน์ ศิริจันทรโรภาส น.ส.อรุณี กาสยานนท์ น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ นายษรกฤต ผลลูกอินทร์ สมาชิกกลุ่ม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ยังมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) และนางอังคณา นีรไพจิตร อดีต กสม. มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย

     คนร่วมนับหมื่นชู 3 นิ้ว

     ต่อมาเวลา 06.15 น. มีประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองระบุข้อความ “รักษ์ ม.44 ยิ่งชีพ” เข้ามาในกิจกรรมวิ่งไล่ลุง พร้อมเป่านกหวีดแสดงเชิญสัญลักษณ์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเชิญตัวให้ข้อมูลตำรวจ อย่างไรก็ตามช่วงหนึ่ง น.ส.ณัฐา นักเคลื่อนไหวทางการเมืองประกาศแจ้งผู้มาร่วมงานว่าเหรียญรางวัลที่จะมอบให้แก่ผู้มาร่วมกิจกรรมวิ่งผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่มีปัญหาเรื่องการจัดส่ง โดยติดอยู่ด่านชายแดนฝั่งประเทศจีน จากนั้นมีการปลุกให้ประชาชนที่มาร่วมงานชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว

  จากนั้นเวลา 07.00 น. เป็นการปล่อยตัวนักวิ่ง ซึ่งต่างชู 3 นิ้วขณะออกตัวจากจุดปล่อยตัวโดยระยะทางการวิ่งภายในงานอยู่ที่ 3 กิโลเมตร ทั้งนี้จากการประเมินด้วยสายตาคาดว่าคนที่มาร่วมงานมีประมาณ 8,000-9,000 คน โดยส่วนใหญ่จะสวมเสื้องานวิ่งไล่ลุง แต่มีบางส่วนที่สวมชุดไปรเวท หรือชุดที่มีสัญลักษณ์ของพรรคอนาคตใหม่

     ภายหลังการจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ผู้จัดงานทยอยมอบเหรียญรางวัลรุ่น “ปราบกบฏ” ซึ่งมีลักษณะเป็นเหรียญโลหะปั๊มตรา “หมุดคณะราษฎร์” ที่มีข้อความว่า “24 มิถุนายน 2475 โดยมีการถ่ายภาพร่วมกัน มวลชนต่างชูสามนิ้วตะโกน ‘ประยุทธ์ออกไป’ อย่างกึกก้อง เวลาย่ำรุ่ง” นอกจากนี้พิธีกรยังประกาศสรุปมีผู้มาเข้าร่วมงานประมาณ 1.3 หมื่นคน โดยมีการถ่ายภาพร่วมกัน มวลชนต่างชูสามนิ้วตะโกน ‘ประยุทธ์ออกไป’ อย่างกึกก้อง จากนั้นมีคอนเสิร์ตจากศิลปิน Rap Against Dictatorship เจ้าของผลงานเพลง “ประเทศกูมี” อีกด้วย

    ทีมงานแจกกล้วยผู้ร่วมไล่ลุง

   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการวิ่งในรอบแรก น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา ประกาศว่า ผู้ที่วิ่งเสร็จแล้วสามารถไปรับ ‘กล้วย’ ได้ที่ซุ้มบริเวณสนามหน้าเวทีใหญ่ แต่เมื่อรับประทานแล้วขอให้ ‘อย่าย้ายค่าย’ โดยเดินทางไปอีกงานหนึ่งซึ่งจัดในวันนี้เช่นกัน ทั้งนี้ในงานกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยเดินแจกเอกสาร “ฮาวทูม็อบ ม็อบอย่างไร ไม่ให้เหลือลุง” โดยเป็นเอกสารที่อธิบายถึงการเตรียมความพร้อมก่อนลงถนนเพื่อเป็นการลงถนนอย่างรู้เท่าทันด้วย

    จัดอีก 2 ก.พ.-สรุปยอด 13,340 ราย

     นายธนวัฒน์ วงค์ไชย แกนนำผู้จัดงาน กล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากนั้นอ่านความในใจของทีมงานว่ามาจนถึงเวลานี้พวกเราทีมงานวิ่งไล่ลุงที่หลั่งไหลมาร่วมงานแบบไม่เคยปรากฏมาก่อนตลอด 5 ปีที่ผ่านมาของระบอบการต่อสู้ระบอบการเมืองแบบลุงๆ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อ 5 ปี ก่อนจากการยึดอำนาจจากประชาชน ล้มรัฐบาลที่มาจากประชาชน 5 ปีที่ผ่านมาพวกเขาจึงไม่ได้ทำเพื่อประชาชนเลย ที่พวกเราเห็นตลอดมาคือการสืบทอดอำนาจเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองให้มั่นคงมากกว่า แม้ประเทศนี้จะมืดมนเพียงใดจากการที่เผด็จการกลืนกินความสวยงามของประชาธิปไตยไปตลอด 5 ปีที่ผ่านมาแต่การที่ผู้คนมาร่วมงานมากมายในวันนี้ทำให้เห็นว่าประเทศนี้ยังคงมีความหวังเสมอเมื่อเราออกวิ่ง กว่าจะได้จัดงานนี้ไม่ง่าย ะวกเราและทีมกว่า 30 จังหวัดถูกคุกคาม ข่มขู่ และหลังจากวันนี้คงมีคดีตามมาอีกมากมาย แต่เราไม่หวั่นไหวเพราะเชื่อว่าจะมีทุกคนคอยเคียงข้างอยู่เสมอ” นายธนวัฒน์กล่าว โดยผู้เข้าร่วมงานปรบมืออย่างกึกก้อง

       “เราไม่ไหวแล้วกับการแช่แข็งประเทศ เราจึงเดินทางมาที่นี่วันนี้ด้วยความจริงใจ เราไม่ได้ออกมาวิ่งไล่ลุงคนใดคนหนึ่ง แต่ออกมาวิ่งไล่ระบอบการเมืองแบบลุงๆ ขอให้ผู้มีอำนาจรู้ว่าวันนี้เป็นวันแรกหลังจากนี้พวกเราจะพร้อมใจกันออกวิ่งไม่หยุด เพื่อให้ลุงออกไปให้ได้ในปีนี้ วันนี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญทางการเมืองของไทย หมุดหมายต่อไปพบกัน 2 กุมภาพันธ์ จังหวัดเชียงใหม่” นายธนวัฒน์กล่าว

    ‘ธนาธร’รับตื่นเต้นวิ่งไล่ลุงเพียบ

     นายธนาธร กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นมากเนื่องจากมีประชาชนมากมายมาร่วมงาน ไม่สามารถระบุได้ว่ามีจำนวนเท่าไร แสดงให้เห็นว่าวันนี้พี่น้องประชาชนตื่นตัว และเข้าใจสถานการณ์การเมืองและเข้าใจว่ามี "ลุง” ที่เป็นตัวฉุดรั้งความเจริญก้าวหน้าของประเทศเอาไว้ จึงมาแสดงพลังของประชาชนร่วมกัน คงอยากส่งสัญญาณว่า พรรคอนาคตใหม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับประชาชนที่ต้องการเห็นความก้าวหน้าความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย ซึ่งมีแต่การที่ประชาชนรวมพลังกันเท่านั้นจะสามารถนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ ดังนั้นเราจึงมาร่วมกิจกรรมในวันนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระแสธารของประวัติศาสตร์

     “นี่คือเสียงของประชาชนที่บอกว่าเราไม่พอใจกับการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เราต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ต้องการประชาธิปไตยกลับคืนมา นี่คือจิตวิญญาณของคนที่ไม่ยอมจำนนต่อเผด็จการ” นายธนาธร กล่าว

    ชี้ปี 63 จะเห็นการชุมนุมมากขึ้น

     เมื่อถามว่านอกจากกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ในฐานะแกนนำจัดกิจกรรม ”แฟลชม็อบ” จะมีการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้อีกหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า เชื่อว่าปี 2563 เราจะเห็นการชุมนุมของประชาชนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตย กลุ่มที่ต้องการเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน กลุ่มเรียกร้องปัญหาที่ดินและประมง เราคงได้เห็นการชุมนุมของประชาชนออกมามากขึ้น ส่วนที่ถามว่า กิจกรรมดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นการชุมนุมทางการเมืองหรือไม่นั้น ม็อบมีมานานแล้ว ซึ่งปลายปี 2562 ก็มีทั้งม็อบประมง สมัชชาคนจน ดังนั้นสิทธิในการแสดงออกของประชาชนในที่สาธารณะอย่างสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง เป็นสิทธิอันชอบธรรมของระบบประชาธิปไตย อย่าไปกลัว

     เชียร์ลุง ไม่น้อยหน้าคนร่วมพรึ่บ

    วันเดียวกันที่สวนลุมพินีผู้สื่อข่าวรายงานว่ากิจกรรม “เดินเชียร์ลุง” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อแสดงออกในการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยตั้งแต่เวลา 05.00 น. มีประชาชนเดินทางเข้ามาภายในสวนลุมพินีอย่างไม่ขาดสาย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยตลอดทั้งงาน ทั้งนี้สำหรับกิจกรรมภายในงานนอกจากการรวมตัวเพื่อแสดงพลังด้วยการเดินแล้ว ยังมีกิจกรรมการเขียนให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ ติดอยู่บนบอร์ดด้วย โดยผู้จัดงาน “เดินเชียร์ลุง” ยืนยันว่าข้อความให้กำลังใจทั้งหมดนั้นจะส่งถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งหมด

     นอกจากนี้มีบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล น.ส.หฤทัย ม่วงบุญศรี เป็นต้น มาร่วมกิจกรรมดังกล่าว ทั้งนี้ผู้ร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่ยืนยันว่าเป็นกิจกรรมเพื่อแสดงพลังให้คนดีได้ปกครองบ้านเมืองต่อไป และต่างตะโกน “ลุงตู่สู้ๆ” และ “ลุงตู่อยู่ยาว” เป็นระยะๆ ก่อนจะออกจากเริ่มวิ่งจากจุดนัดหมายบริเวณหลังประตู 4

     สุดคึกคัก ตบสตรอเบอร์รี่-ส้มเน่า

    ทั้งนี้กิจกรรมวิ่งเชียร์ลุงเป็นไปด้วยความคึกคักเพราะมีคณะกลองยาวบรรเลง โดยตลอดเวลาก่อนจะเริ่มออกสตาร์ท มีการแจกเสื้อและหมวกฟรีโดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนหรือแสดงบัตรประชาชน ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมมากกว่า 7,000 คน ทำให้เสื้อและหมวกที่ผู้จัดกิจกรรมเตรียมไว้ไม่เพียงพอเนื่องจากผู้ที่เข้าร่วมจำนวนมาก ขณะเดียวกันภายในงานมีการจัดกิจกรรมย่อย ล้อเลียนนักการเมืองและพรรคการเมือง โดยการนำรูปแตงโม ส้มเขียวหวานและสตรอเบอร์รี่เป็นเชิงสัญลักษณ์ถึงบางพรรคการเมือง ให้ผู้ร่วมกิจกรรมเดินเชียร์ลุงแสดงออกถึงความไม่พอใจแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดยผู้ร่วมขบวนมีการถือป้ายไวนิลขนาดใหญ่ “เดินเชียร์ลุง” และป้ายข้อความต่างๆ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ อาทิ รักลุงตู่จุงเบย, ลุงตู่สู้ๆ ฯลฯ

    ก่อนเริ่มกิจกรรมต่างๆ ในเวลา 08.00 น. ผู้ร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันร้องเพลงชาติไทย ทั้งนี้ภายในงานได้มีกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยนำผลไม้จำลอง 3 อย่างมาแขวน ได้แก่ แตงโม ส้ม และสตรอเบอร์รี่ ซึ่งเป็นการเหน็บแนมฝ่ายตรงข้าม โดย พล.ต.นพ.เหรียญทอง ได้ใช้ไม้ตีไปที่ผลส้ม พร้อมกล่าวว่า ส้มเน่า ขณะที่ ร.อ.ทรงกลด ได้เหน็บแนมนักการเมืองหญิงบางคนว่าครั้งหนึ่งได้ไปที่เพชรบูรณ์ก็เห็นใส่ชุดทหารของชนเผ่า ก่อนเตะไปที่ส้มพร้อมกล่าวว่า ตอนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคก็ไม่ยอมรับ สร้างเสียงเฮให้ผู้สนับสนุนเป็นอย่างมาก จากนั้นได้ใช้ศอก มือ ตบไปที่ผลไม้สตรอเบอร์รี่ บอกว่าอีคางตูม

   เพลงให้กำลังใจบิ๊กตู่-ไม่เอาชังชาติ

   นอกจากนั้นยังมีการร่วมร้องเพลงให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ ไปนานๆ พร้อมประกาศว่า “ไม่เอาพวกชังชาติ” โดยผู้ร่วมกิจกรรมบางส่วนได้สวมเสื้อยืดสกรีนข้อความ “ประเทศกูดี” อีกด้วย ส่วน ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือ “ผู้กองปูเค็ม” นักเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นตัวหลักในการสื่อกิจกรรมดังกล่าว โดยมีการพูดกับสตรอเบอร์รี่และส้มเขียวหวานที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งตอนหนึ่งระบุถึงการรณรงค์ให้มีการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ที่ผู้กองปูเค็มมองว่าเป็นการทำลายชาติและปล่อยให้ต่างชาติมาแทรกแซง และยังกล่าวถึงการที่พรรคการเมืองบางพรรคไม่รับผู้กองปูเค็มเป็นสมาชิกพรรค ก่อนที่จะตบและทำลายสตรอเบอร์รี่ โดยให้เหตุผลว่าเมื่อต่อหน้าทำไม่ได้ เพราะจะผิดกฎหมาย จึงขอกระทำกับสตรอเบอร์รี่ และส้มเขียวหวานจำลองแทนก็แล้วกัน ซึ่งได้รับเสียงปรบมือและเสียงเชียร์จากประชาชนที่ร่วมกิจกรรมอย่างล้นหลาม

   เชียร์ลุง ผู้เข้าร่วม1.3หมื่น

  ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศกิจกรรมเดินเชียร์ลุง ตลอดระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรง หรือเหตุปะทะใดๆ เกิดขึ้น ต่อมาเวลา 09.40 น. ภายหลังการเสร็จสิ้นกิจกรรมเดินเชียร์ลุง แอดมินเพจ “เชียร์ลุง หรือแอดมินเจน และอุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี ได้ร่วมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยแอดมินเจนกล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ใช้เงินส่วนตัวและสมาชิก เฉพาะค่าเสื้อประมาณ 500,000 บาท และค่าหมวกอีกต่างหาก ยืนยันว่าไม่ใช่ม็อบมีเส้น แต่เป็นการรวมตัวเพื่อจัดกิจกรรม ซึ่งบอกไม่ได้ว่าจะมีการจัดกิจกรรมในอนาคตอีกหรือไม่ แต่ก็อย่าดูถูกพวกเรา หากมีกิจกรรมเคลื่อนไหวในลักษณะต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ ก็น่าจะเจอกลุ่มพวกเราได้ โดยแอดมินเพจและพันธมิตรได้รู้สึกปลื้มปีติและยินดีที่มีคนจำนวนมากได้มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราพร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

   “เดิมคาดมีผู้มาร่วม 1,000 คน แต่เจ้าหน้าที่ประจำจุดเข้าออกรายงานมีผู้มาร่วมงานกว่า 1.3 หมื่นคน ทั้งนี้ยืนยันว่ากิจกรรมนี้ทุกคนมาด้วยความสมัครใจ ไม่มีการจัดตั้งขึ้น โดยทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมวันนี้เพราะด้วยวัยวุฒิ เรายืนยันไม่มีการใช้ความรุนแรง”

วิ่งไล่ลุง ตจว.กร่อย-เจอ‘เชียร์ลุง’ไล่

       วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยเมื่อเวลา 07.30 น. ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มีกลุ่มประชาชนจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงประมาณ 9 คน นำโดย น.ส.อิสรีย์ อภิสิริรุจิภาส อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 2 พรรคอนาคตใหม่ แต่ไม่ทำกิจกรรมวิ่ง เนื่องจากในบริเวณพื้นที่มีกลุ่มมวลชนประมาณ 300 คนสวมใส่เสื้อขาว มีข้อความที่หน้าอกเสื้อ “ลุงตู่สู้ๆ” และ “เรารักลุงตู่” มาเดินสนับสนุนลุงตู่ ทำให้กลุ่มวิ่งไล่ลุงโดย น.ส.อิสรีย์ ซึ่งมีจำนวนน้อย จึงเดินไลฟ์สดในบริเวณพื้นที่แทนเพื่อจะนำไปลงในเฟซบุ๊ก

     ขณะเดียวกันที่บริเวณตลาดโรงเกลือ คลองถมนิคมบ้านกรวด ต.นิคมปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ มีการจัดวิ่งไล่ลุงด้วยเช่นกันประมาณ 20 คน นำโดยนายการุณ ใสงาม เป็นแกนนำ ซึ่งกิจกรรมวิ่งไล่ลุง กลุ่มเดินตามเส้นทางรอบตลาดมีการตะโกนชูป้ายโจมตีรัฐบาล แต่มาเผชิญหน้ากับกลุ่มมวลชนชาวบ้านที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ประมาณ 200 คน ตะโกนขับไล่กลุ่มวิ่งไล่ลุง มีการโต้เถียงกัน ก่อนกลุ่มวิ่งไล่ลุงจะเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น และเดินกลับมายังจุดเริ่มต้น ถ่ายรูปร่วมกัน ยุติกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ท่ามกลางกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบนับร้อยนาย มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งเหตุการณ์ทั่วไปปกติ

    ส่วนที่บริเวณเวทีสวนชมน่านฯ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่เช้ามืดมีมวลชนในจังหวัดพิษณุโลกประมาณ 200 คน ได้มารวมตัวกันเพื่อร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงจังหวัดพิษณุโลก โดยกิจกรรามจัดวิ่งไล่ลุงในจังหวัดพิษณุโลกนัดหมายกันทางออนไลน์ ในเพจวิ่งไล่ลุง พิษณุโลกและได้ใช้สวนชมน่านฯ เป็นสถานที่จัดวิ่งในลักษณะวิ่งเพื่อสุขภาพ จึงไม่ได้ขออนุญาตจากทางการแต่อย่างใด ใช้เส้นทางวิ่งภายในสวน 2 รอบ ตั้งแต่เวทีสวนชมน่านฯ ผ่านสะพานนเรศวร และสะพานเอกาทศรถ ระยะทาง 4.4 กิโลเมตร

     ‘สนธิรัตน์’ค้าน‘วิ่งไล่-เชียร์ลุง’

   เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และเลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงการกิจกรรมวิ่งไล่ลุงและเดินเชียร์ลุง ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า เป็นกิจกรรมที่ทุกฝ่ายสามารถดำเนินการได้ภายใต้กรอบกฎหมาย แต่ที่ไม่อยากเห็น คือการนำกิจกรรมไปสู่การทำการเมืองบนถนน ต้องทบทวนบทเรียนของประเทศไทย อยู่ในวังวนการใช้การเมืองนอกระบบ และนำปัญหามาให้ประเทศมาตลอดในระยะสิบกว่าปีที่ผ่านมา วันนี้ประเทศก้าวมาสู่ประชาธิปไตยที่ทุกฝ่ายเรียกร้อง มีกลไกในการแก้ปัญหา มีสภาผู้แทนราษฎร มีการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นอยากเห็นกิจกรรมที่อยู่ในกรอบกฎหมาย ไม่อยากเห็นกิจกรรมใดๆ นำไปสู่กลไกนอกสภา นำไปสู่การแตกแยก เกลียดชังระหว่างประชาชน เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากเห็นความสงบของประเทศ ความขัดแย้งไม่เกิดประโยชน์กับใครบนโลกใบนี้จะทำให้การแก้ปัญหายากขึ้นกว่าเดิม

     เตือน‘ธนาธร’อย่าล้ำเส้นอยู่ในกรอบ

     เมื่อถามถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่ไปร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุง พร้อมตะโกนไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เวลาแสดงออกต่างๆ ขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย ไม่อย่างนั้นจะล้ำเส้นกัน เพราะประชาชนมีสองฝ่าย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถ้าเราปล่อยให้ล้ำกรอบของกฎหมายวันหนึ่งจะนำไปสู่การเผชิญหน้าของประชาชนสองฝ่าย เรามีกลไกในระบอบประชาธิปไตยเป็นทางออกอยู่แล้ว อะไรที่เกินกรอบกฎหมายพึงระวัง

      ส่วนที่ถามย้ำว่าการที่ทั้งสองฝ่ายจัดกิจกรรม รัฐบาลจะดูแลอย่างไรในระยะยาว นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ในนามรัฐบาลไม่อยากเห็นการสร้างกิจกรรมลักษณะเผชิญหน้ากัน อยากเห็นการพูดคุยกัน อยากเห็นการใช้ระบบของสภา ที่เราเคยเรียกร้องกัน ไม่อยากเห็นกิจกรรมอะไรก็ตามที่สร้างความแตกแยก

   เพื่อไทย เผย‘วิ่งไล่ลุง'จุดติด

      ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงว่า ขอชื่นชมกลุ่มผู้จัดงาน พลังคนหนุ่มสาวที่สามารถออกแบบนวัตกรรมในการขับไล่รัฐบาลให้ก้าวไปอีกขั้น วิ่งไล่ลุง จุดกระแสไล่รัฐบาลที่อยู่ในอำนาจ 5-6 ปี แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่ทรุดกับทรุด จากนี้ไปจะมีคนไทยออกมาวิ่งไล่ลุงกันมากขึ้นลามไปทั่วทั้งประเทศ ถึงวันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะหาเหตุใดมาอ้างในการอยู่ต่อ จะเอาอะไรมาบอกว่า คืนความสุข หรือขอเวลาอีกไม่นานประชาชนก็ไม่ฟังแล้ว เป็นการกดดันให้รัฐบาลต้องไปคลุกฝุ่นแก้ปัญหาทั้งเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชน ปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเวลาของรัฐบาลเหลือน้อยลงไปทุกขณะ

       “ภาคประชาสังคมคนรุ่นใหม่จุดติดวิ่งไล่ลุงแล้ว พรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้านจะเดินหน้าเปิดแผลทุจริตคอรัปชั่นด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งสังคมไม่มีทางยอมรับได้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่น่าจะผ่าน 6 เดือนแรกของปี 63 ไปได้” นายอนุสรณ์ กล่าว

    จาตุรนต์ ชี้วิ่งไล่ลุงจะกระจายขึ้น

      นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โพสต์เฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang ถึงกิจกรรมวิ่งไล่ลุงว่า ในระบบที่การเลือกตั้งไม่อาจใช้ตัดสินอนาคตของประเทศ การต่อสู้ในสภาก็ถูกขัดขวางทำลาย เมื่อประชาชนเดือดร้อนมากขึ้นๆ ประชาชนก็ไม่อาจปล่อยให้บ้านเมืองเสียหายต่อไป แม้ผู้มีอำนาจจะพยายามขัดขวางอย่างไร ก็ไม่อาจหยุดยั้งการแสดงออกของประชาชนได้ “วิ่งไล่ลุง" วันนี้มีความหมาย และการ “ไล่ลุง“ จะแพร่กระจายไปมากกว่านี้อีกมาก

     ‘ช่อ’ ลั่น3 ส.ส.พร้อมไปแจงสตช.

     ที่สวนรถไฟ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีหนังสือถึงประธานสภาขอตัว 3 ส.ส.พรรค อนค. ประกอบด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค น.ส.พรรณิการ์ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการบริหารพรรค เพื่อไปสอบปากคำว่า ได้รับเอกสารเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องเอกสิทธิ์คุ้มครองนั้นให้เป็นดุลพินิจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์อยู่แล้ว โดยต้องให้สมาชิกสภาโหวตว่าจะส่งตัวหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีความเห็นอะไร ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม หากปิดสมัยประชุมจะไปรายงานตัวอย่างแน่นอน แต่ต่อให้ไม่ปิดสมัยประชุมหากเพื่อนสมาชิกเห็นว่าจะให้ส่งตัวพวกเราไปก่อนจะปิดสมัยประชุมก็พร้อมที่จะไป ไม่มีปัญหาอะไร

         เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า เไม่ต้องเตรียมการอะไร ก็แค่รอฟังคำพิพากษา ซึ่งพรรคพูดเสมอว่าการยุบพรรคไม่สามารถยุบเสียงกว่า 6 ล้านเสียงที่เลือกเรา และสนับสนุนเราได้ พรรคการเมืองความจริงแล้วไม่มีใครสามารถยุบได้ เพราะเป็นเรื่องของบุคคลและอุดมการณ์

          ส่วนกรณีการขับงูเห่า 4 คน ออกจากพรรค น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า เป็นกระบวนการและขั้นตอนที่ทางพรรคจะต้องดำเนินการ เมื่อกรรมการบริหารพรรคมีมติเรียบร้อยก็จะต้องดำเนินการต่อไป ส่วนที่สมาชิกที่ถูกขับบอกว่ายังไม่ได้รับหนังสือขับออกจากพรรคนั้น ส่วนนี้เป็นขั้นตอนทางธุรการ ตอนนี้คงแค่รอหนังสืออย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องดึงเวลา เพราะต่อให้ไม่มีการขับออกจากพรรค ส.ส.ทั้ง 4 เสียงก็ไม่ได้อยู่กับเราอยู่แล้ว

    เพื่อไทย ถกฟัน งูเห่า วันนี้

    ที่พรรคเพื่อไทยนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการโหวตพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ที่ปรากฏว่าพบงูเห่าจากฝั่งพรรค พท.ด้วย ว่าวันที่ 13 มกราคม เวลา 13.00 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องคนที่โหวตสวนมติพรรคในครั้งที่แล้ว ซึ่งคงจะได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมไปพร้อมกันเลย ส่วนที่ถามว่าคนที่โหวตแย้งกับมติพรรคยังคงเป็นคนหน้าเดิมนั้น ก็ต้องว่ากันไปตามความเป็นจริงของแต่ละคน โดยจะต้องเอากรณีที่เกิดขึ้นล่าสุดไปรวมด้วย ซึ่งคาดว่าวันที่ 13 มกราคมจะได้ข้อสรุป

        เมื่อถามถึงความชัดเจนในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า โดนประมาณการเราจะให้การอภิปรายเกิดขึ้นหลังตรุษจีนซึ่งคือวันที่ 25 มกราคม เพราะอำนาจในการกำหนดวันประชุมอยู่ที่ตัวประธานสภา ไปหารือกับฟากรัฐบาล เราก็กลัวจะชนกับตรุษจีนแล้วมีปัญหา เราก็จะยื่นไปประมาณในวันที่ 20 มกราคม เพื่อไม่ให้มีปัญหา แล้วหลังตรุษจีนเราพร้อม วันไหนก็ได้ทั้งนั้น เพราะครั้งนี้ก็มีปัญหาเรื่องวันเด็กให้เห็นแล้ว อย่างไรก็ตามจากที่ได้พูดคุยกันในพรรคร่วมฝ่ายค้าน เราไม่ได้กำหนดเวลาว่าใครจะใช้เวลาอภิปรายเท่าไหร่ แต่เราดูเนื้อหา แล้วนำมาคำนวนเวลาว่าต้องใช้เท่าไหร่ ประธานให้เวลากี่วันก็จะจัดสรรให้ลงตัว

     ปชป.แจง3ส.ส.ไม่ร่วมลงมติงบ63

    วันเดียวกัน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.ของพรรคที่เป็นคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการได้ทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ จนการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ส่วนการพิจารณาในวาระ 2–3 ตลอด 4 วัน 3 คืน ที่ผ่านมา ส.ส. ปชป. ก็ได้ร่วมอภิปรายชี้แนะให้เห็นถึงรายละเอียดของการทำให้งบประมาณแผ่นดินจากเงินภาษีอากรของประชาชนไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ

     ส่วนรายงานข่าวที่ระบุ 3 ส.ส. ปชป. ไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมและไม่ลงมติในวาระ 3 นั้นพบว่า นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ป่วยอยู่ในระหว่างพักฟื้นจากการผ่าตัดใหญ่ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ส่วน น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ก็ป่วยจนไม่สามารถมาประชุมได้เช่นกัน การไม่ได้ลงมติในวาระ 3 ของทั้ง 3 ท่านไม่มีนัยทางการเมืองแต่อย่างใด

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ