ตำรวจเชียงใหม่ แกะรอยจากกล้องวงจรปิด รวบลูกเขยเจ้าของไร่ส้ม บุกเดี่ยวชิงทอง หนัก 300 บาท อ้างนำเงินไปลงทุน "คริปโต"
จากคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านห้างทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาโลตัสฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทองรูปพรรณน้ำหนักกว่า 300 บาท ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อ 18.50 น. วันที่ 28 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ แกะรอยคนร้ายที่ก่อเหตุจนทราบตัวผู้ต้องสงสัย คือ นายธัชเศรษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี จึงได้ขอหมายค้น จำนวน 3 จุด ในพื้นที่ อ.ฝาง และ ตัวเมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ จากการตรวจค้น พบรถจักรยานยนต์และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เงินสดที่ได้จากการขายทอง จำนวน 1.4 ล้านบาทเศษ
ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.ฝาง ได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลฝางในข้อหา ชิงทรัพย์ โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป และข้อหา พกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวของนายธัชเศรษฐ์ ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ โดยจัดการตรวจค้นภายในบ้านและรถยนต์ป้ายแดง และเงินสดซุกซ่อนอยู่ในรถจำนวน 1.4 ล้าน ในเบื้องต้น ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ และก่อเหตุเนื่องจากต้องการเงินไปลงทุนในธุรกิจส่วนตัว
พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ธนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหา ให้การว่าต้องการนำเงินมาเป็นเงินทุนสำรอง ในการลงทุนสกุลเงินออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นการเทรดหุ้นหรือคริปโต
โดยหลังบุกชิงทองได้ นำทองให้ได้ไปขายให้กับคนรู้จักซึ่งชาวเมียนมาในเขตพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยตกลงขายของที่ได้มาทั้งหมดประมาณ 80 เส้นในราคา 4 ล้านบาท ได้เงินมาแล้วครึ่งหนึ่งหลืออีกครึ่ง
พล.ต.ต.ธวัชชัย เผยว่า หลังจากเกิดเหตุทางตำรวจได้มีการระดมชุดสืบสวนทำการสืบสวนในทุกมิติทั้งในด้านเทคโนโลยีและการไล่ติดตามกล้องวงจรปิด จนกระทั่งสามารถแกะรอยเส้นทางของคนร้ายตั้งแต่ก่อเหตุจนไปถึงนำทองไปขายในเขตพื้นที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
หลังจากการจับกุม มีการซักถามจนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้เป็นคนก่อเหตุและนำทองไปขายโดยสาเหตุก็เพียงต้องการเงินก้อนนำมาลงทุนออนไลน์ ซึ่งผู้ต้องหานั้นจากการตรวจสอบประวัติทางครอบครัวก็ไม่มีความลำบากในทางการเงิน และยังเป็นลูกเขยเจ้าของสวนส้มในพื้นที่อำเภอฝาง
ส่วนที่ผู้ต้องหานำทองไปขายให้กับคนเมียนมาที่เคยรู้จักคุ้นเคยกันสมัยที่เคยมีภรรยาอยู่ฝั่งเมียนมา ทำให้เดินทางเข้าก็ออกอยู่บ่อยครั้ง ส่วนเงินสดที่ยึดได้ผู้ต้องหาก็ยินดีที่จะนำคืนให้กับร้านทอง สำหรับทองคำที่ถูกขายไปนั้น เนื่องจากถูกขายข้ามประเทศไปการติดตามค่อนข้างที่จะยากลำบาก
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวนายธัชเศรษฐ์ส่งตัวไปให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ธนกร วงศ์นาง จ.เชียงใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง