หนุ่มนักวิ่งโดนวางยาในสวนสาธารณะ รู้ตัวอีกทีไปฟื้น รพ.

กลายเป็นโพสต์ที่มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งได้โพสต์เตือนภัยเหล่าบรรดานักวิ่ง และช่วยกันแชร์เพื่อเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ นักวิ่งด้วยกัน เพราะจู่ๆ มีการวางยาในสวนสาธารณะเกิดขึ้น

ผู้โพสต์ระบุว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 19 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 20.30 น. ที่ผ่านมา ตนได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปซ้อมวิ่งตามปรกติที่สวนสาธารณะศาลากลางจังหวัดนนทบุรี เมื่อไปถึงก็ซื้อน้ำดื่มเจ้าประจำ จากนั้นก็เอาขวดน้ำมาวางบริเวณสนามตะกร้อซึ่งเป็นที่ยืดเหยียดประจำก่อนซ้อมวิ่ง วอร์มร่างกายเสร็จ ออกวิ่งตามปกติ ยังไม่ได้กินน้ำ

 

กระทั่งที่สวนฯ ปิดไฟแล้วก็เลิกวิ่ง และเดินไปหยิบน้ำที่ยังไม่เปิดขวดมาเปิดขวดแล้วยกดื่ม ปรากฏว่า รสชาติน้ำออกเฝื่อนๆ แปลกไปจากเดิม ทั้งที่ยังไม่ได้เปิดขวด ดื่มไป 1 ใน 3 ของขวด ก็กลับไปที่ออฟฟิศ เพื่อพบปะน้องๆ หลังเลิกงาน 

 

เมื่อกลับถึงออฟฟิศ ก็นั่งกินจิ้มจุ่มกับน้องๆ และจิบเบียร์ไปหนึ่งอึก จึงรู้สึกถึงอาการแปลกๆ ของร่ายกาย โดยเริ่มเห็นภาพหมุน หายใจติดขัด เหมือนจะอาเจียนอีก 2-3 ครั้งและกำลังจะหมดสติ จนรู้สึกว่าแย่แล้ว จึงให้น้องๆ ที่ออฟฟิศขับรถตู้ไปส่งที่แผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลรามาฯ

 

คืนนั้นเบื้องต้น หมอวินิจฉัยว่า ผมอาจจะ STORKE จึงได้ทำการทดสอบอาการและส่งเข้า CT SCAN โดยในตอนนั้น อาการของผมเหมือนคนเป็น STORKE คือลิ้นแข็ง ทรงตัวไม่ได้ ไม่มีเรี่ยวแรง และเริ่มพูดไม่ชัดขึ้นเรื่อยๆ แต่ปากไม่เบี้ยว จนกระทั่งผมหมดสติไป จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยว่าหมอทำอะไรไปบ้าง

20 มิ.ย.2563 หมอวินิจฉัยว่าเป็น STORKE และตรวจเลือด ตรวจฉี่เพื่อหาสารเสพติด หมอวินิจฉัยเบื้องต้นว่าอาจจะไปเสพสารบางอย่างมา จนมีอาการคล้าย STORKE แต่หมอสงสัยว่าทำไมถึงฟื้นตัวเร็วผิดปกติจึงให้นอนค้างที่ห้องเฝ้าระวังฉุกเฉินต่ออีกหนึ่งคืนเพื่อรอดูอาการ

 

21 มิ.ย.2563 หมอเดินมาหาที่เตียงแล้วบอกว่า อาการที่ตนเป็นนั้นไม่เรียกว่าเป็น STORKE แต่ลักษณะคล้ายกัน ซึ่งอาจต้องรอผลตรวจเลือดและตรวจฉี่ที่ชัดเจน ซึ่งใช้เวลาพอสมควร โดยหมอสรุปว่า อาจเป็นเพราะได้รับ "สารพิษบางอย่างเข้าร่างกาย หรือไม่ก็ร่างกายสร้างสารพิษขึ้นมา จนทำให้เกิดปฏิกิริยาในร่างกาย"

 

เมื่อกลับถึงบ้านและนอนพักฟื้น และช่วงเย็นได้ไปที่ออฟฟิศ สิ่งแรกที่ทำคือ เอาน้ำขวดนั้นที่ยังมีน้ำเหลืออยู่ในขวดอีกครึ่งหนึ่งปิดฝาและคว่ำขวดดูก็ปรากฏว่า มีน้ำไหลออกมาจากรูเล็กๆ บริเวณฝาขวด จึงแน่ใจในทันทีแล้วว่า "โดนวางยา" ตนไปปรึกษาตำรวจที่ สน.รัตนาธิเบศร์ เพื่อแจ้งความ ทางตำรวจก็ได้บอกว่าให้รอผลตรวจเลือดออกมาอย่างเป็นทางการก่อนถึงจะรับแจ้งความ

 

ตนอยากเตือนให้ระวังกันไว้ อย่าชะล่าใจวางขวดน้ำของตัวเองไว้ แล้ววิ่งไปโดยไม่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะมีพวกโจรมันจ้องวางยาแล้วปลดทรัพย์เรา โชคดีที่วันนั้นไม่ได้ซ้อมวิ่ง 10 กิโลเมตรแล้วดื่มน้ำและวิ่งต่ออีก 5 กิโลฯ หรืออยู่คูลดาวน์หลังซ้อมเสร็จก็คงจะต้องตกเป็นเหยื่อของพวกมันอย่างแน่อน และโชคดีที่ไม่เกิดอาการระหว่างทางไปออฟฟิศ

 

และลองคิดดูว่าถ้าเหยื่อเป็นผู้หญิงมาซ้อมวิ่งคนเดียว จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันไม่หวังแค่ปลดทรัพย์ คนกลุ่มนี้นี้น่าจะทำกันเป็นขบวนการและมีไม่ต่ำกว่า 2-3 คน ซึ่งอาจจะมีรถยนต์ไว้ทำเรื่องเลวๆ ด้วยก็ได้ ณ ตอนนี้รอแค่หลักฐานซึ่งเป็นเอกสารทางการมายืนยัน และจะอัปเดตให้ดูอีกครั้งต่อไป

 

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก Etoriw Sibaht