ตำรวจเชียงใหม่ จับคนแหกเคอร์ฟิว 49 ราย

 

                  วันที่ 5 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน ผบก.จว.เชียงใหม่ ได้รายงานผลปฏิบัติการ กวดขันผู้ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 22.00 - 04.00 น.

                  อ่านข่าว แค่ได้กลิ่นก็ยังดี "ลีเดีย" ดมเสื้อลูกคลายความคิดถึง หลังนับวันรอได้เจอหน้า

 

 

 

                  โดยปฏิบัติงานของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำงานร่วมกับตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ในการเข้มงวดมาตรการที่มีการประกาศใช้เป็นวันแรกไปแล้ว และได้มีการปล่อยแถวปฏิบัติการณ์ของเจ้าหน้าที่ โดยในส่วนของพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ได้มีการกระจายกำลังกันครอบคลุมพื้นที่ โดย 38 โรงพัก 38 จุด และมีด่านตรวจในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 47 จุดด้วยกัน

 

 

 

 

                  สำหรับผลการปฏิบัติงานเมื่อคืน(4 เม.ย.) เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทั้งหมด 49 ราย โดยในพื้นที่สภ.ช้างเผือก สามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนได้มากที่สุด 14 ราย รองลงมาคือพื้นที่ สภ.แม่ปิง 9 ราย โดยผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดจะถูกแจ้งข้อหา “ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 - 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้น หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่”

 

 

 

 

                  พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน กล่าวว่า ภาพรวมนั้นพบว่าประชาชนชาวเชียงใหม่ได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากเป็นการดำเนินการในวันแรกก็อาจจะพบผู้กระทำผิดอยู่บ้างและคาดว่าหลังจากนี้ก็น่าจะลดลง และอยากขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการที่บังคับใช้ด้วย ซึ่งในส่วนของพื้นที่รอบนอกหรือต่างอำเภอนั้น ภายหลังจากที่ตนได้ลงพื้นที่สำรวจร่วมกับทางท่านผู้ว่าราชการในวันนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือ พบว่าพี่ต้องประชาชนมีความตื่นตัวและให้ความสำคัญกับมาตรการเป็นอย่างดี โดยทางผู้นำชุมชนก็ได้มีการเน้นย้ำกับลูกบ้านหรือคนในพื้นที่ถึงการปฏิบัติตัวตามมาตรการ รวมไปถึงการเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดเชื้อระบาดของไวรัสโควิด-19

 

 

 

 

                  ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์มีการออกมาแฉพฤติกรรมบุคคลบางกลุ่ม ที่มีการรวมกลุ่มสุมหัวดื่มสุราและได้มีการว่าจ้างเด็กเอ็นเตอร์เทน หรือเด็กพีจี ให้ไปบริการผสมเครื่องดื่มให้ โดยมีการอ้างว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้นจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สามารถออกไปรับมางานได้ ทำให้กำลังเป็นที่วิจารณ์ในสังคมโลกออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ รวบรวมข้อมูลแล้ว

 

 

 

 

                  ถึงกระนั้น ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน หากพบว่าเป็นข้าราชการ หรือเป็นคนที่อ้างว่าได้รับการยกเว้นจริง จะดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้น เนื่องจากไม่ให้ความร่วมมือแล้วยังมีการรวมกลุ่ม ซึ่งตรงนี้เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัส และอยากจะฝากให้ประชาชนในช่วงนี้ควรปฏิบัติตนตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อย่างเคร่งครัด

 

 

 

 

 

 

 

-----------------------------------

โดย เกรียงไกร รัตนา เชียงใหม่