โจ๋เมืองตรัง บุกเดี่ยวจี้ทอง ตกใจเสียงหวอก่อนหนีหายเงียบ

 

 

                เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ 10 มีนาคม 2563 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง และ สภ.เมืองตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านทองเยาวราช สาขาตรัง เลขที่ 14/22 หมู่ 2 ถนนตรัง-ปะเหลียน ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง (ตรงข้าม เทสโก้ โลตัส สาขาตรัง) หลังจากเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชายจำนวน 1 ราย อายุประมาณ 20-25 ปี รูปร่างสูง สมส่วน สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ สวมหมวกกันน็อค และสวมแมสก์ปิดบังใบหน้า ใช้รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ้กไอ 125 สีแดง-ดำ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน เป็นยานพาหนะ

 

                 ก่อเหตุบุกเดี่ยวเข้าร้านทอง ก่อนชักอาวุธปืนลูกซองพกสั้น (ไทยประดิษฐ์) (ภาษาใต้ ปืนหักคอไอ้เท่ง) ขู่พนักงานภายในร้าน เพื่อหวังทองคำ แต่พนักงานตกใจก่อนจะวิ่งเข้าไปด้านหลังร้าน และกดสัญญานเตือนภัยที่เป็นเสียงหวอ และเป็นสัญญานที่เชื่อมต่อระหว่างร้านกับโรงพัก ซึ่งเสียงดังสนั่น ก่อนที่คนร้ายจะตกใจจนฉี่ราด รีบวิ่งออกจากร้านและลื่นล้มลง ก่อนจะขับรถคันดังกล่าวหลบหนีไป ซึ่งกล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถบันทึกภาพพฤติการณ์ของคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.วานนี้ที่ผ่านมา (9 มี.ค.) ซึ่งคดีอยู่ในความรับผิดชอบของ ร.ต.อ.วิชิต รัตนธรรมโม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง  

 

 

 

 

 

                  น.ส.พรรณพิลาศ กิจบำรุง อายุ 38 ปี พนักงานร้านทองอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุคนร้ายก็เข้าร้านปกติ แต่ที่ผิดสัเกตคือเขาจะใส่หมวก ใส่แมสก์มา ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรเพราะเขามีการเปิดแมสก์มาช่วงหนึ่ง ทำให้เรารู้สึกว่าน่าจะไม่ใช่คนร้าย จนเขาชักปืนขู่แล้วพูดว่า “ให้หยิบของออกมา” ก่อนที่โจรจะตกใจเสียงหวอที่พนักงานร้านติดกันกดเตือน และตนได้ไปกดอีกรอบหนึ่ง เมื่อโจรได้ยินเสียงหวอก็ได้วิ่งหนีลื่นล้มและขับรถย้อนศรออกไป ตนรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ ช่วงเกิดเหตุตนอยู่กัน 2 คน คิดอะไรไม่ออก ปกติทางร้านก็กำชับเรื่องการสังเกตลูกค้าอยู่แล้ว แต่ที่ตนเห็นคนร้ายครั้งแรกไม่ได้บอกถึงลักษณะของคนร้ายเลย ปกติเราก็พยายามดูแลทุกอย่างอยู่แล้ว

 

                น.ส.นภาพร เอ้งฉ้วน อายุ 31 ปี พนักงานร้านร้านไอคอนไอที ซึ่งอยู่ติดกัน เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ ก็เห็นแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นโจรหรือลูกค้า ไม่กล้าโวยวาย แต่เมื่อเขาเอาปืนออกมาก็ตกใจ พนักงานฝั่งร้านทองก็กรีดร้องพอดี ตนจึงรีบวิ่งไปที่เสียงเตือน ส่วนทางร้านทองก็กดเพื่อแจ้งไปยังโรงพัก โจรตกใจก่อนจะตกใจวิ่งออกไป ตนคิดว่าโจรรายนี้เป็นโจรสมัครเล่น เหตุการณ์นี้ตนก็รู้สึกตกใจเพราะที่ผ่านก็เคยเห็นข่าวแบบนี้มา

 

 

 

 

 

                       อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางการหลบหนี พร้อมทั้งเชิญผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบสวนเพิ่มเติม โดยเหตุลักษณะนี้เข้าข่ายข้อหา “พยายามชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน” ซึ่งคาดว่าเป็นคนในพื้นที่และจะติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร็วที่สุด.

 

"คมชัดลึก ลึกยิ่งกว่าข่าว" ภาพ/ข่าว ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดตรัง