หนุ่มหึงใจเด็ด ถูกจับพร้อมของกลางและอาวุธปืน ก่อนอ้างเมียสาวสวยร่วมด้วย หวั่นหนีไปหาผัวใหม่
วันที่ 19 ก.พ. 2563 พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ท่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่านายสุเทพ ศรีสังข์ทอง หรือ “แก้ว อวดพัน” เอเยนต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่มีหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง เลขที่ 51/2563 ในข้อหาค้ายาเสพติดและ พ.ร.บ.อาวุธปืน หลบหนีการจับกุมกลับมาซ่อนตัวในบ้านเลขที่ 390/1 หมู่ 8 ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ธนบดี บุญขวัญ สว.สส.สภ.ทุ่งใหญ่ นำกำลังตำรวจไปตรวจสอบติดตามจับกุม
เมื่อไปถึงพบนายสุเทพ หรือ “แก้ว อวดพัน” ผู้ต้องหาตามหมายจับนั่งอยู่ในบ้านพร้อมผู้หญิง 1 คน เมื่อเห็นตำรวจนายสุเทพ หรือ “แก้ว อวดพัน” พยายามจะวิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกชาร์จเข้าไปควบคุมตัวเอาไว้ได้ พร้อม น.ส.พิกุล รัตนรัตน์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 3 ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นภรราสาวแสนสวยของนายสุเทพ จากการตรวจค้นพบยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกติกขนาดเล็กหลายถุง รวมจำนวน 458 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีนบรรจุกระสุน 10 นัด กระสุนปืนลูกซอง 1 นัด กระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 9 นัด จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก
จากการสอบสวนนายสุเทพ หรือ “แก้ว อวดพัน “ให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับ และให้การรับสารภาพว่าค้ายาบ้าและมีอาวุธปืนที่ตำรวจยึดได้เป็นของตัวเอง โดยมียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติดในกระแสเลือดทั้งสองคน และในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกการจับกุมเพื่อดำเนินคดีกับนายสุเทพ เพียงคนเดียว ส่วน น.ส.พิกุล ตำรวจจะกันไว้เป็นพยาน แต่นายสุเทพ ไม่ยอมยืนยันว่าตำรวจจะต้องดำเนินคดีกับ น.ส.พิกุล ภรรยาสาวของตนในข้อหาเดียวกันด้วย เพราะ นส.พิกุล รู้เห็นและร่วมค้ายาเสพติดกับตนมาตลอด ทั้งนั้นนายสุเทพ ผู้ต้องหาอ้างเหตุผลว่า น.ส.พิกุล มีรูปร่างหน่าตาสวยระดับนางงาม หากตำรวจดำเนินคดีกับตัวเองเพีนงคนเดียวและตัวเองต้องติดคุกยาวหลายปีแน่นอน น.ส.พิกุล ภรรยาสาวก็จะต้องไม่มีสามีใหม่ ซึ่งตนทำใจและยอมรับไม่ได้ แต่หากตำรวจดำเนินคดีทั้งสองคนก็จะติดคุกเหมือนกัน ตัดปัญหาความห่วงใยที่ น.ส.พิกุล จะไปมีสามีใหม่ไปได้เลย
ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับนายสุเทพ “หรือแก้ว อวดพัน” ตามหมายจับ และกล่าวหานายสุเทพ เพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันเสพและมียาเสพติดประเภทที่ 1 (แอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และข้อหาความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ส่วน น.ส.พิกุล แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันเสพและมียาเสพติดประเภทที่ 1 (แอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.
ขอบคุณภาพ..ชุดจับกุม สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
ยุทธนะ เตมะศิริ นครศรีธรรมราช
ข่าวที่เกี่ยวข้อง