ฉกเงินในรถขายน้ำแข็ง ขณะเด็กรถนอนหลับ

เด็กส่งขายน้ำแข็งเร่ จอดรถนอนพักรอรถส่งน้ำแข็งอีกคันมาถ่ายน้ำแข็ง เพื่อนำไปส่งต่อ เผลอหลับลึก มือดีแอบฉกกระเป๋าเงินที่วางอยู่หน้ารถ เดินไปนับเงินไปก่อนทิ้งกระเป๋าข้างทาง ได้โทรศัพท์ 1 เครื่อง เงินสด 6 พันบาทหนีหาย

วันที่ 28 มกราคม 2563 เวลา 12.45 น. พันตำรวจตรี ธงชัย ตอพิมาย สารวัตรเวร สภ. อุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับแจ้งทาง 191 ว่ามีหัวขโมยฉกกระเป๋าเงินในรถขายน้ำแข็งที่จอดพักรอที่ลานกีฬาของชุมชนฝั่งธน ตำบลกำแพง อำเภออุทุมพรพิสัย  จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนที่จะแจ้งสายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ. อุทุมพรพิสัย ช่วยเข้าตรวจสอบ และเร่งรีบติดตามเข้าสอบข้อมูลเจ้าทุกข์ พร้อมผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อการติดตามคนร้ายทันที

                           เมื่อเดินทางถึงจุดเกิดเหตุที่ลานกีฬาชุมชนฝั่งธน หน้าสถานีรถไฟอุทุมพรพิสัย พยรถยนต์อีซุซุ หมายเลขทะเบียน 82-5842 ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหก6 ล้อ บรรทุกน้ำแข็งของโรงน้ำแข็งแพรว พร้อมพบกับ นายธีระพันธ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/5 หมู่ที่ 6 ตำบลจาน อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ และนายชลิตพล ไชยมาตย์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 299/39 หมู่ที่ 1 ตำบลพยุห์ อำเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ ทั้งสองเป็นลูกจ้างบริษัทโรงน้ำแข็งแพรว เล่าให้ฟังเบื้องต้นว่า ตอนเช้าตนรับน้ำแข็งออกจากบริษัท  ออกตระเวนเร่ขาย และส่งน้ำแข็ง ตามเส้นทางปกติเหมือนทุกๆ วัน จากนั้นน้ำแข็งหมด จึงได้โทรประสานกลับไปที่บริษัท จะขอน้ำแข็งเพิ่ม ซึ่งบริษัทได้ประสานกับรถส่งน้ำแข็งอีกคัน และให้จอดรถรอ จึงได้ประสานมาจอดรถเพื่อทานข้าวรอที่ลานกีฬาแห่งนี้ ภายหลังจากทานข้าวเสร็จก็ได้นอนพักนอน รถมาส่งถ่ายน้ำแข็งให้ ขณะที่นอนหลับไป ไม่ทราบว่ามีคนร้ายแอบมาฉกเอากระเป๋าสะพานที่ใส่ทั้งโทรศัพท์ และเงินที่ขายน้ำแข็งได้ราว 4 พันกว่า รวมทั้งเงินส่วนตัวอีกพันกว่า รวม 6 พันกว่าบาทเดินหนีหายไป ซึ่งเมื่อรถส่งน้ำแข็งอีกคันมาถึง จึงได้มาปลุกให้ตื่น แต่พอตื่นมาก็จึงพบว่า กระเป๋าเงินหายไปจากหน้ารถ จึงได้มาสอบถามชาวบ้านแถวนั้น ซึ่งก็พบว่ามีคนเดินมาที่รถแล้วเงินหายไปในซอย จึงพากันเดินตามไปดู พบกระเป๋าเปล่าถูกโยนทิ้งไว้ข้างทาง เก็บมาดูเงิน และโทรศัพท์หายไป เหลือแค่กระเป๋า กับบัตรประชาชน

                         เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนข้อมูลรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย ก่อนที่จะแจ้งสายตรวจจุดสายห้า เร่งตระเวนหาตัวคนร้ายที่้เดินมาคนเดียว ที่น่าจะเดินอยู่เขตเทศบาลตำบลกำแพง แต่ยังไม่พบผู้ต้องสงสัย จึงได้ประสานบ้านในชุมชนนั้น ที่มีกล้องวงจรปิด เพื่อขอความร่วมมือเปิดดูคนร้าย ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นในเขตอำเภออุทุมพรพิสัย นี้ และเชื่อว่าจะสามารถจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน

ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ