ด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องสะงำศรีสะเกษ คุมเข้ม คนเข้าออก

 

 

                   เมื่อเวลา  10.00 น. วันที่ 26 ม.ค. 2563  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชาช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  พ.ต.อ.มณุวัฒน์  กอสนาน  ผกก.ตม.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.หญิง กฤติกา  คำสาริรักษ์  รอง ผกก.ตม.จว.ศรีสะเกษ  พ.ต.ท.ปรีชา ประดิษฐ์ศิลป์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง จ.ศรีสะเกษ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่งานตรวจบุคคลและพาหนะ และแพทย์ ตม.จว.ศรีสะเกษ ทำการตรวจคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักร ประจำจุดตรวจผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา   อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อสกัดกั้นบุคคลที่อาจจจะต้องสงสัยติดเชื้อโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ 2019 พร้อมแจกหน้ากากอนามัยและวิธีใช้อย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ซึ่งอาจจะติดต่อกันได้ โดยการสัมผัส หรือทางเดินหายใจทางอากาศ 

 

 

 

พ.ต.อ.มณุวัฒน์  กอสนาน  ผกก.ตม.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำมีประชาชนชาวไทยและชาวกัมพูชารวมทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปเดินทางเข้า – ออกอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจากประเทศกัมพูชา ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับประเทศลาวและเวียดนาม  และมีความเสี่ยงที่อาจจะมีบุคคลติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ 2019 เข้ามาภายในประเทศไทยได้   ตนจึงได้นำเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจคัดกรองบุคคลเข้าออกประเทศ โดยจะทำการตรวจตลอดเวลาทุกวันทำการอย่างเข้มงวด  เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเข้ามาภายในประเทศไทยได้อย่างเด็ดขาด  ซึ่งปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่ผ่านเข้า – ออกด่าน ตม.ช่องสะงำทุกคนเป็นอย่างดี และเข้าใจถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคนี้เป็นอย่างดี และต่างมีการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่อีกด้วย

 

 

 

ทางด้าน ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์  ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษและนายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า กรณีมีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (nCOV-2019) จากเมืองอู่ฮั่น  ทำให้กระทบต่อนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเป็นอย่างมาก  เพราะว่า มีผู้ซื้อตั๋วเครื่องบินจะนำตั๋วเครื่องบินมาขอคืนเงินอ้างว่ามีโรคระบาดเดินทางไม่ได้ ทั้งที่จะเดินทางไปประเทศเกาหลี และประเทศจีนทุกคนกลัวไปหมด  ซึ่งตนได้อธิบายให้ทราบว่ายังไม่ได้ร้ายแรงถึงกับเดินทางไปไหนไม่ได้ ทุกคนสามารถป้องกันตนเองได้โดยระหว่างการเดินทางให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด   หรือมีมลภาวะและไม่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอจาม  หากเป็นไปได้ควรสวมหน้ากากอนามัย  แม้แต่การไปตลาดสดที่ขายซากสัตว์ป่าหรือสิ่งมีชีวิต  หากสัมผัสโดยไม่ใช้ถุงมือก็อาจมีเชื้อไวรัสในซากสัตว์   จึงควรป้องกันไว้ก่อน ตามสโลแกนของสาธารณสุข จ.ศรีสะเกษที่บอกว่ากินร้อน  ช้อนกลาง  ล้างมือ  และหลีกเลี่ยงไปในเมืองที่มีการประกาศก็จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้โดยปกติ 

 

 

 

 

 

 

 

ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าว จ. ศรีสะเกษ