ข่าว

ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกง 845 ล้านบาทมอบตำรวจภาค 4

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้บริหารบริษัท ออมสะสมทองคำ ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มูลค่า กว่า 845 ล้านบาทตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา เข้ามอบกับตำรวจสืบสวนภูธรภาค 4 เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจไม่เจตนาฉ้อโกง เจ้าตัวลั่นพร้อมต่อสู้คดี

 

 

               วันที่ 6 มกราคม 2563 ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนภาค 4 นางรัตนา ภูวรัตนกุล อายุ 52 ปี ชาวอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 437/2562 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เดินทางเข้าพบ พลตำตรวจตรีมาโนช สุภาพพูล ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อมอบตัวตามหมายจับของศาล  สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2562ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มผู้เสียหายจำนวน165คนได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ. เมืองพัทยา แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ นางรัตนา ภูวรัตนกุล นายพรพจน์ ภูวิรัตนกุล ผู้บริหารบริษัท ออสสิริส สัตหีบโกลด์ แอนด์ฟิวเจอร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมลงทุนในการซื้อขายทองคำแท่ง ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเกิดความเสียหายประมาณ 845 ล้านบาท

ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกง 845 ล้านบาทมอบตำรวจภาค 4

 

 

 

 

     โดย บริษัท ออสสิริส สัตหีบโกลด์ แอนด์ฟิวเจอร์ เป็นบริษัทที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจในการลงทุนซื้อขายทองคำแท่ง ซึ่งได้เปิดสาขาจำนวน 3 สาขา คือ  สาขาพัทยา สาขาสัตหีบ และสาขาระยอง ได้เปิดดำเนินธุรกิจในการให้ประชาชนนำเงินมาลงทุนในการซื้อขายทองคำแท่ง ซึ่งบริษัทจะออกหลักฐานการคูณให้เป็นใบเสร็จการซื้อขาย แต่ไม่ได้รับทองคำออกมาจริง โดยอ้างว่าเป็นการลงทุนแบบออมสะสมทองคำ ซึ่งทางบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายทองคำในรูปแบบดังกล่าว ที่ลูกค้าไปลงทุน และมักออกโปรโมชั่น เพื่อจูงใจให้ประชาชนร่วมลงทุน ลูกค้าที่ร่วมลงทุนมีตั้งแต่หลักหมื่นบาทถึงหลักหลายล้านบาท  ซึ่งบริษัทออสสิริสฯ ได้ดำเนินกิจการมาประมาณ 10 ปีแล้ว และในช่วง2-3ปีหลัง เกิดความผิดปกติจนกระทั่งบริษัทฯได้ปิดทำการตั้งแต่วันที่23 ธ.ค.2562 ที่ผ่านมา โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบและไม่สามารถติดต่อผู้บริหารของบริษัทฯตั้งกล่าวได้ กลุ่มผู้เสียหายจึงได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน  สภ.เมืองพัทยา เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางรัตนา ภูวรัตนกุล นายพรพจน์ ภูวิรัตนกุล ผู้บริหาร บริษัท ออสสิริส สัตหีบ โกลด์ แอนด์ฟิวเจอร์  ดังกล่าว

ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกง 845 ล้านบาทมอบตำรวจภาค 4

 

 

 

     ด้านนางรัตนา กล่าวว่า หลังจากที่ได้เข้ามอบตัวกับทางตำรวจ หลังจากนี้ตนเองจะสู้คดีตามกฎหมาย และยังเชื่อว่าจะสามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้ทุกคน แต่จะต้องไปดูข้อมูลกับทางบริษัทเสียก่อน เพราะเบื้องต้นชื่อคนที่ไปแจ้งความยังไม่ชัดเจนว่า เป็นคนที่ร่วมลงทุนกับทางบริษัทตนเองหรือไม่ โดยจะชดใช้เงินกับผู้ร่วมลงทุนจะเป็นไปตามขั้นตอน ตั้งแต่เกิดเรื่องมาตนเองยังไม่ได้ชดใช้เงินคืนแม้แต่รายเดียว เพราะเกรงจะเกิดเรื่องวุ่นวาย โดยจะมีการตรวจสอบรายชื่อลูกค้าที่ได้มีการโอนเงินในแต่ครั้งอย่างละเอียดอีกดด้วย.   

ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกง 845 ล้านบาทมอบตำรวจภาค 4

 

 

นิติกรณ์ ฝางมาลา ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่น

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ