2 ผัวเมียกลับบ้านเกิด ผูกคอหนีความจนในวันขึ้นปีใหม่

    เมื่อเวลา  09.30 น.วันที่  1 ม.ค. 2563  พ.ต.อ.สุชาติ ละสี ผกก.สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนผูกคอเสียชีวิตที่บริเวณกระท่อมกลางนา บ้านหนองโน ม.3  ต.เสียว  อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ  จ.ศรีสะเกษ  จึงได้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย ร.ต.อ.สุเวช  ลุนไธสง รองสารวัตรสอบสวน และเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ  เมื่อไปถึงพบว่า มีบรรดาญาติพี่น้องนำตัวของผู้ที่ผูกคอตนเองทั้ง 2 คน เป็นชาย 1 คนและหญิง 1 คน ซึ่งเป็นสามีภรรยากันลงมานอนอยู่ใกล้กันข้างกองฟาง โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั้มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตแต่ว่าไม่สามารถที่จะยื้อเอาชีวิตไว้ได้ ทำให้ทั้ง 2 คนเสียชีวิตอย่างน่าเวทนาในที่สุด

      จากการสอบสวนเบื้องต้น นายคำภา บุตรดี  อายุ 71  ปี บ้านเลขที่  42  ม.3  บ้านหนองโน ซึ่งเป็นพ่อของผู้หญิงที่ผูกคอตายเสียชีวิตให้การว่า  ผู้หญิงที่เสียชีวิตชื่อ นางบุญเกิด  ภูผิวเหลือง  อายุ 44  ปี  เป็นลูกสาวของตน  ส่วนผู้ชายชื่อนายประมวล  ภูผิวเหลือง อายุ 47 ปี  เป็นลูกเขยของตนเอง โดยทั้ง 2 คนแต่งงานกันมีลูก 2 คนขณะนี้ปู่กับย่าเป็นผู้ดูแลเลี้ยงดูอยู่ที่บ้านเลขที่ 156  ม.9  ต.สำราญใต้  อ.สามชัย  จ.กาฬสินธุ์ เมื่อประมาณวันที่  30 ธ.ค. 62 ที่ผ่านมาลูกสาวได้โทรศัพท์มาแจ้งให้ตนทราบว่า กำลังทำงานก่อสร้างอยู่ จ.ฉะเชิงเทรา   ทำงานหาเงินได้ไม่พอค่าใช้จ่าย แต่ว่าอยากกลับบ้านมาเยี่ยมพ่อและญาติพี่น้องในช่วงปีใหม่  จึงขอให้ตนโอนเงินค่ารถมาให้ด้วย  ตนจึงได้ให้ญาติที่เป็นพระช่วยโอนเงินค่ารถไปให้ 1,300 บาท  โดยลูกสาวและลูกเขยได้กลับมาถึงบ้านช่วงบ่ายของวันที่ 31 ธ.ค. 62  ที่ผ่านมา

นายคำภา ให้การต่อไปว่า เมื่อผู้ตายทั้ง 2 กลับมาถึงบ้านได้กินข้าวร่วมกันในช่วงค่ำอย่างมีความสุขที่ลูกกลับมาเยี่ยมบ้าน ซึ่งลูกทั้ง 2 คนได้เล่าให้ตนฟังว่า ไปทำงานรับจ้างก่อสร้างลำบากมาก รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายบางวันก็ไม่ได้มีข้าวกินต้องอดข้าวอดน้ำ  พอช่วงเช้าของวันนี้ผู้ตายทั้ง 2 ได้บอกกับคนในบ้านว่า จะพากันไปเก็บมะม่วงที่บริเวณเกิดเหตุมากิน โดยลูกเขยมีผ้าเช็ดตัวสีชมพูพาดอยู่บนบ่า  ต่อมาตนเห็นว่า ลูกสาวลูกเขยออกไปนานแล้ว จึงให้คนในบ้านไปตามเพื่อที่จะได้มากินข้าวเช้าร่วมกัน แต่เมื่อไปถึงพบว่า ลูกเขยของตนใช้ผ้าถุงของลูกสาวตนผูกคอตนเองกับขื่อในกระท่อม ส่วนลูกสาวของตนใช้ผ้าเช็ดตัวสีชมพูแขวนคอตนเองใต้ต้นมะม่วง  จึงให้เพื่อนบ้านและญาติพี่น้องช่วยกันนำร่างของคนทั้ง 2 ลงมาและช่วยกันปั้มหัวใจ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้เสียชีวิตในที่สุด  สาเหตุคาดว่า เกิดจากปัญหาชีวิตความยากจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบร่างกายของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนแล้วไม่พบร่องรอยการต่อสู้และมีร่องรอยบาดแผลตามร่างกายแต่อย่างใด  อีกทั้งญาติไม่ติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิต จึงได้มอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าว  จ.ศรีสะเกษ