ข่าว

โปรยยาหอมตลาดส่งออกกุ้งไทย63อนาคตสดใส

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อลงกรณ์ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์โปรยยาหอมตลาดส่งออกกุ้งไทย63อนาคตสดใส

 

 

             เมื่อเวลา 14.30 น. (21 ธันวาคม 2562) เครือข่ายผู้เลี้ยงกุ้งไทย 17 องค์กรประมาณ 1,000 คนได้เดินทางมารวมตัวภายใต้  เครือข่ายผู้เลี้ยงกุ้งไทยรวมใจเป็นหนึ่ง ที่โรงแรมไดม่อนพลาซ่าสุราษฎร์ธานี โดยมีนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง นายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมาร่วมรับฟังปัญหาของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่ต้องเจอกับสภาวะการแข่งขันสูงกับต่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำประกอบกับค่าเงินบาทแข็งขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการส่งออก

โปรยยาหอมตลาดส่งออกกุ้งไทย63อนาคตสดใส

นายอลงกรณ์ ได้กล่าวกับเกษตรกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งว่าถึงแม้ตลาดกุ้งไทยมีการชะลอตัว แต่สถานการณ์ก็อยู่ในอันดับต้นๆของโลก ที่มีการส่งออกกุ้งตลาดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยก็เป็น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ประเทศที่อยู่ติดกับเรานั่นหมายความว่าแนวทางเป็นไป การกำหนดนโยบายของกระทรวงเกษตรนั้น เป็นไปโดยโนบาย ตลาดนำการผลิต การกำหนดนโยบายแต่นโยบายนั้น ไม่ใช่ที่จะมุ่งเน้นต่อการผลิตหรือการเพิ่มผลผลิต หรือการเพิ่มมูลค่าการผลิตต่อไร่   แต่จะมุ่งสู่การที่ผลิตและขายได้หรือได้มูลค่าเพิ่ม  ไม่ใช่เฉพาะกุ้งแช่แข็ง หรือกุ้งสดบริโภคในประเทศหรือไม่ว่าจะเป็นกุ้งปรุงแต่ง  แปลว่าจะมีการพัฒนาไปสู่ แนวทางของการที่จะสร้างมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นในต้องการของตลาดภายในประเทศมีเพียง 20 % และเป็นความต้องการของต่างประเทศหรือส่งออก 80 %  แนวโน้มของการส่งออกในปีหน้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น  แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องของราคาเนื่องจากเงินค่าของเงินบาทของเรามาตั้งแต่ปีที่แล้วมีค่าแข็งขึ้น 3 %  ซึ่งก็สอดรับกับมูลค่ากับราคาการส่งออกที่ลดลงประมาณ 3​ %  แต่ว่าในการส่งออกเพิ่มขึ้นในเชิงปริมาณ  โดยเฉพาะปีหน้าคาดว่าการผลิตของเราจะเกิน 300,000 ตัน ก็จะมีตัวเลขของการส่งออก 80% ของตัวเลขดังกล่าว แต่สิ่งที่กำลังส่งเสริมและเริ่มเห็นอย่างแท้จริงก็คือ ว่าการเพิ่มปริมาณการบริโภคภายในประเทศ ก็คือการส่งเสริมให้มีการ บริโภคทั้งกุ้งขาวแววดาไม กุ้งก้ามกราม กุ้งกุลาดำ หรือแม้แต่กุ้งแชบ๊วย แต่สิ่งที่เป็นการส่งออก ในประเทศก็คือนักท่องเที่ยวคน 40 ล้านคนที่พร้อมที่จะจับจ่ายใช้สอย นี่คือแนวทางที่เราจะใช้ตลาดนำการผลิต ทั้งตลาดต่างประเทศที่อยู่ในไทยที่เป็นนักท่องเที่ยว หรือชาวต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทย และการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในขณะเดียวกันภาวะการแข่งขัน ในต่างประเทศสำคัญมาก อินเดียเวียดนามมีต้นทุนที่ถูกกว่าเราเพราะฉะนั้นการแข่งขันในเรื่องประสิทธิภาพ การผลิตอย่างปีนี้สำหรับต้นน้ำก็คือ การเพาะเลี้ยง การเพาะฟัก เพาะพันธุ์ จำนวนประมาณ 35,000 ล้านตัว ปริมาณของการผลิต กุ้งขาว อยู่ที่ประมาณ 9 ตันต่อไร่ กุ้งกุลาดำประมาณ 8 ตันต่อไร่ ตรงนี้เองที่เราจำเป็นที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ได้  เรามีฟาร์มผลิตที่ได้มาตรฐานอยู่จำนวน 9,000 กว่าแห่ง, ส่วนใหญ่ก็ได้มาตรฐาน GAP และ BAT โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นฟาร์มต้นแบบของการผลิต

โปรยยาหอมตลาดส่งออกกุ้งไทย63อนาคตสดใส

ดังนั้นในปี 2563 นอกจากจะให้ยกความระดับความสำคัญของนโยบายการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทุกประเภท  ก็คือในเรื่องของการตลาดนำการผลิต ในการสร้างรายการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ พร้อมกับลดต้นทุนการผลิตโดยใช้นโยบาย เทคโนโลยีเกษตร ซึ่งได้เริ่มต้นมาในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ขีดความสามารถในการแข่งขันของต้นทุนกับราคากับประเทศที่เป็นคู่แข่งของเรานั้น เราจะต้องรู้ขั้นตอน และสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานของเราดังนั้นกรมประมงก็เป็นกรมหนึ่ง 1 ที่เป็นตัวอย่าง ขณะนี้อยู่ในยุค ที่เราเรียกว่ายุคดิจิตอล ทรานส์ฟอร์เมชั่น  คือการเปลี่ยนแปลงไปสู่ เทคโนโลยีของดิจิตอล ผมเป็นประธานคณะกรรมการ เทคโนโลยีการเกษตร 4.0 โดยในวันที่ 27 ธันวาคมเวลา 9:00 น ท่านนายกรัฐมนตรีจะประกาศนโยบายสำหรับปี 2563 และวันที่ 25 ธันวาคม ท่านรัฐมนตรีได้มอบหมาย ให้ไปประกาศนโยบายในเรื่องของเทคโนโลยีเกษตร 4.0  จังหวัดสุราษฎร์ธานีก็เป็นหนึ่ง ใน 77 จังหวัดที่เราจะตั้ง ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมเกษตรกรในทุกจังหวัดต่อไป

โปรยยาหอมตลาดส่งออกกุ้งไทย63อนาคตสดใส

ด้านนายครรชิต เหมะรักษ์   รองประธานเครือข่ายผู้เลี้ยงกุ้งไทย ได้กล่าวว่าในส่วนของสถานการณ์กุ้งไทยตอนนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งได้รวมตัวกันที่จะมาจัดการกับอาชีพของตัวเองอยู่ในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผลิตหรือการตลาด ในส่วนรายละเอียดอื่นๆที่กำลังรวมตัวกันเช่นในงาน รวมใจเป็นหนึ่งของเครือข่ายกุ้งไทยนั้น ก็คิดว่าคงเป็นมิติหนึ่งที่จะช่วยให้การขับเคลื่อนการขจัดปัญหาหรือข้อเสนอความต้องการกับอาชีพของเราในวันข้างหน้าได้ เพื่อกอบกู้สถานการณ์กุ้งไทยให้กลับมาเป็นหนึ่งให้ได้  ส่วนในเบื้องต้นทุนการผลิตนี้ยังถือว่าค่อนข้างสูงเพราะว่าการผลิตกุ้งต้องใช้เทคโนโลยีต้องใช้ปัจจัยการผลิตหลายด้านโดยเฉพาะเรื่องอาหารกุ้งที่ต้องมีคุณภาพเรื่องของพลังงานที่จะใช้ในการกระบวนการผลิตทั้งหมดและเวชภัณฑ์ต่างๆซึ่งในกิโลกรัมหนึ่งๆก็นับเป็น 100 บาทของต้นทุนการผลิตอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของราคาผลผลิตเช่นเดียวกันขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยที่จะทำให้ เกษตรกรอยู่ได้ ในโอกาสที่เกษตรกรได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะร่วมกันแก้ปัญหาเหล่านี้   ด้วนความพยายามทุกฝ่ายเรามั่นใจที่กุ้งไทยจะกลับมาครองความเป็นหนึ่งในการส่งออก การที่จะพยายามรวมตัวกันเป็นหนึ่งให้ได้ทั้งภาคธุรกิจ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ทั้งผู้เลี้ยงทั้งผู้ส่งออกที่จะช่วยกันผนึกกำลังช่วยกันแก้ปัญหากันทั้งหมด  ซึ่งตลาดยังไปได้สูงแต่เราก็ต้องกับการแข่งขันกับต่างประเทศที่เป็นผู้ผลิตเหมือนกับเราด้วย  แต่เราก็ต้องดำเนินการในเรื่องของคุณภาพที่เป็นเกรด ฟรีเมี่ยม ชนะคู่แข่งให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นไซส์หรือสีหรือขนาดของตัวกุ้ง  สำหรับตลาดกุ้งไทยมี สหรัฐอเมริกา – จีน และญี่ปุ่น ที่ยังส่งออกตามปกติ

โปรยยาหอมตลาดส่งออกกุ้งไทย63อนาคตสดใส

โปรยยาหอมตลาดส่งออกกุ้งไทย63อนาคตสดใส

โปรยยาหอมตลาดส่งออกกุ้งไทย63อนาคตสดใส

โปรยยาหอมตลาดส่งออกกุ้งไทย63อนาคตสดใส

โปรยยาหอมตลาดส่งออกกุ้งไทย63อนาคตสดใส

ภาพข่าว  ณัฐธิดา เริ่มฤกษ์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดสุราษฎร์ธานี

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ