หญิงวัย 52 ปี ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เดินตามรอยพ่อหลวงร.9 ปลูกพืชผักสวนครัวพื้นบ้านแบบอินทรีย์ ซึ่งมีพืชพื้นบ้านที่ใช้ในชีวิตประจำวันหลากหลายชนิด ซึ่งในแต่ละวันสามารถที่จะเก็บผลผลิตจำหน่ายสร้างรายได้ ให้กับตนเองวันละไม่ต่
หญิงวัย 52 ปี ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เดินตามรอยพ่อหลวงร.9 ปลูกพืชผักสวนครัวพื้นบ้านแบบอินทรีย์ ซึ่งมีพืชพื้นบ้านที่ใช้ในชีวิตประจำวันหลากหลายชนิด ซึ่งในแต่ละวันสามารถที่จะเก็บผลผลิตจำหน่ายสร้างรายได้ ให้กับตนเองวันละไม่ต่ำกว่า 300 บาทโดยพืชผักนั้นหากใครอยากจะรับประทานผักพื้นบ้าน ก็สามารถมาเลือกหาซื้อได้บริเวณ “สวนบอกรัก”ของตนเองที่ทำไว้
นางดวงใจ จิตดวงวัน หญิงสาววัย 52 ปี ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ต้องเข้าทำการเก็บผลผลิตซึ่งเป็นพืชผักสวนครัวพื้นบ้านที่เขาทำการปลูกไว้ บริเวณพื้นที่ 3 งาน ภายในบ้าน ซึ่งจะมีตั้งแต่พริก กระเพรา กระเจี๊ยบเขียว ถั่วพู คะน้าและพืชผักหลากหลายชนิดในระบบอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย โดยพืชผักแต่ละอย่างนั้นจะเน้นเป็นผักที่ตนเองชอบรับประทาน และเป็นผักพื้นบ้านที่ใช้ในชีวิตประจำวันของคนในพื้นที่ ที่ต้องใช้ในการปรุงอาหารหลากหลายเมนูของตนเอง
ดยนางดวงใจ เล่าว่า ก่อนหน้านั้นตนเองได้มีโอกาสได้เข้าศึกษาอบรมต้นกล้าเกษตร เมื่อปี 2552 หลังจากนั้นก็ได้มาดำเนินการปลูกพืชผักสวนครัวแบบเกษตรอินทรีย์ดังกล่าว โดยเริ่มปลูกพืชผักที่พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ได้บอกไว้ 5 ชนิด ซึ่งเป็นพืชผักที่ใช้ในชีวิตประจำวันและไว้สำหรับรับประทานเองก่อน จากนั้นหากเหลือก็จะนำออกแบ่งปัน จำหน่าย ซึ่งพืชผักทั้ง 5 ชนิด ก็จะประกอบด้วย พริก กระเพา โหระพา ต้นหอมผักชี ผักชีฝรั่ง จากนั้นตนเองก็ขยายเป็นพืชผักอีกหลากหลายชนิดทั้งข่า ตระไคร้ ใบมะกรูด โดยเพิ่มทีละอย่างสองอย่าง จนถึงขณะนี้มีพืชผักที่ขอใบรับรองเกษตรอินทรีย์อยู่ 21 ชนิด และยังมีพืชอื่นๆที่นำมาปลูกแบบผสมผสานในพื้นที่ ประมาณ 3 งาน ของตนเองตรงนี้น่าจะมากกว่า 100 ชนิด ซึ่งวิธีการปลูกจะใช้อินทรีย์แบบเต็มรูปแบบ จะไม่มีสารเคมีไม่มีมาเจือปนเลย และใช้วิธีการปลูกแบบผสมผสานหมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันไป ซึ่งก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้สลับกันในแต่ละวัน โดยพืชผักส่วนใหญ่ของสวนตัวเองนั้นจะเน้นในเรื่องของผักพื้นบ้าน ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะมีตั้งแต่ ข่า ตระไคร้ พริก ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง โหระพา ชะอม ผักเผ็ด มะเขือ ถั่วพลู ถั่วฟักยาว ซึ่งในแต่ละวันก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้สลับกันไป ซึ่งก็จะนำออกจำหน่าย โดยเฉลี่ยแล้วสามารถสร้างรายได้ให้วันละไม่ต่ำกว่า 300 บาทซึ่งถือว่าการปลูกพืชผักสวนครัวพื้นบ้านแบบอินทรีย์ดังกล่าวนั้นนอกจากตนเองจะได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัยแล้ว ยังสามารถที่จะนำไปจำหน่ายและเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างดี
ปัณณวิชญ์ อยู่ดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค พะเยา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง