(คลิป) นาทีตำรวจบุกล็อกตัวโจรปล้นทอง 83 บาท

 

               จากกรณีเมื่อเวลา 13.03 น. วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา คนร้ายบุกเดี่ยวก่อเหตุชิงทอง ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโลตัส สาขาสุพรรณบุรี ริมถนนสายสุพรรณบุรี-ชัยนาท หมู่ 5 ต.ท่าระหัด อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุชื่อ “ห้างทองเยาวราชเอ็มโกลด์” คนร้ายมีอาวุธปืน ใช้ก้อนหินทุบตู้กระจกร้านทอง กวาดสร้อยคอทองคำ 40 เส้น น้ำหนัก 83 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป ถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท เบื้องต้นกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายขี่รถย้อนกลับมาตามถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-บางบัวทอง มุ่งหน้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี

 

 

 

 

 

               หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เรียกชุดทำงานประชุมเครียดกว่า 3 ชั่วโมงประกอบด้วย พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ พ.ต.อ.กฤษณ์ วาฤทธิ์ มาโนชญ์ จิตรภักดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผู้กำกับการสถานีตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี  เพื่อรวบรวมข้อมูลเบาะแสคนร้ายทราบว่าคนร้ายรายนี้นอกจากก่อเหตุชิงทองแล้ว ช่วงสายวันที่ 25 ก.ย.กล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายคนเดียวกันได้ไปก่อเหตุชิงทรัพย์ ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างพื้นที่ อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เงินไป 500 บาท จากนั้นช่วยบ่ายวันเดียวกันได้มาก่อเหตุชิงทองในห้างโลตัส สุพรรณบุรี หลบหนีไป

 

 

 

 

               หลังประชุม พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ  พ.ต.อ.กฤษณ์ วาฤทธิ์ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผู้กำกับการสถานีตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ โต๊ะทอง ผกก.บก.สส.ภ7 นำทีมชุดสืบสวน ภาค 7 สืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี และสภ.เมืองสุพรรณบุรี ไล่ล่าคนร้ายอย่างเร่งด่วน โดยการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีพบว่าว่าคนร้ายหลบหนีเข้าพื้นที่ ต.บ้านช้าง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ประกอบกับได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดี จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมบ้านของคนร้ายอยู่กลางทุ่งนา เป็นบ้านปูน 2 ชั้น หลังใหญ่ มีรถยนต์เก๋งจอดอยู่ 1 คัน และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์อีก 1 คันและรถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุ 1 คัน

 

 

 

 

 

               กระทั่งเวลา 05.30 น.วันที่ 26 ก.ย. 2562 กำลังเจ้าหน้าที่จึงเข้าจู่โจมเข้าจับกุมคนร้ายร้ายนี้เอาไว้ได้พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ อาวุธปืนขนาด  9 มม.กระสุน 20 นัด ที่ใช้ก่อเหตุทราบชื่อนายทรงพล เกิดศรีเล็ก อายุ 34 ปี “ดี้ย่านซื่อ” อยู่บ้านเลขที่ 12 บ้านย่านซื่อ หมู่ 4 ต.บ้านช้าง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ของกลางสร้อยคอทองคำถูกผังดินไว้หลังบ้าน และนำเอากระเป๋าสะพายไปเผาทำลายหลักฐานหลังบ้าน

 

 

 

 

               ล่าสุด 09.00 น.วันที่ 26 ก.ย. 2562 พล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่มาสอบสวนผู้ต้องหาและตรวจสอบจุดที่คนร้ายนำของกลางไปซ่อนและเผาทำลายหลักฐาน เบื้องต้นนายทรงพล ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำงานเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา และช่วงสายวันที่ 25 ก.ย.ได้ขี่รถจักรายนต์ไปก่อเหตุชิงเงินพื้นที่ อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เงินมา 600 บาท จากนั้นช่วงบ่ายวันเดียวกันได้มาก่อเหตุชิงทองห้างโลตัสสุพรรณบุรี ได้สร้อยคำทองคำมาจำนวนกว่า 80 บาท ส่วนที่ใช้ก้อนหินขว้างปาใส่ตู้กระจกนั้นตนเข้าใจว่าเป็นกระจกนิรภัย จึงใช้ก้อนหินซึ่งมีน้ำหนัก และที่ตนถีบเข่งสานไม้ไผ่ของชาวบ้าน เนื่องจากเห็นชาวบ้านจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจจึงถีบขู่

 

 

 

 

               จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมากบดานที่บ้านพักพื้นที่บ้านย่านซื่อ ต.บ้านช้าง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี แล้วได้เอาทองคำไปฝังดินไว้หลังบ้าน กระทั่งมาถูกตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง รับสารภาพว่าเพิ่งก่อเหตุครั้งแรก ผู้ต้องหาให้การอ้างว่าอยากได้เงินไปใช้หนี้ ธกส.ให้แม่ที่ติดค้างมานาน และนำเงินใช้จ่ายกับจะนำไปซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ รวมทั้งใช้จ่ายในครอบครัว แต่จากการสอบถามคนในครอบครัวทราบว่าทางครอบครัวไม่ได้เดือดร้อนเรื่องการเงินแต่อย่างใด จึงไม่ทราบสาเหตุที่นายทรงพลไปก่อเหตุชิงทอง จากการตรวจสอบประวัตินายทรงพลผู้ต้องเคยถูกจับคดีพยายามลักทรัพย์ พื้นที่ กทม.เมื่อปี 2550

 

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

คลิปชัดๆ นาทีโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดังเมืองสุพรรณบุรี

รวบทันควันโจรบุกเดี่ยวชิงทองหนัก 83 บาท กลางห้างดังสุพรรณฯ