แพร่ - คมข่าวทั่วไทย
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 26 มิ.ย. 2562 นายบรรจง ศรีธิยศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.กาญจนา อ.เมือง จ.แพร่ ได้เข้าสำรวจพื้นที่บริเวณที่เป็นที่ตั้งของ ทหารญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ อยู่ในบริเวณทุ่งนา ห่างจาก ท่าอากาศยานแพร่ หรือ สนามบินแพร่ 1 กม เพื่อรายงานให้อำเภอเมืองแพร่เพื่อจัดเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์
ในบริเวณที่ดินดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่กว้างมากกว่า 10 ไร่ ห่างจากชุมชนของหมู่ 5 ต.กาญจนา อ.เมือง จ.แพร่ 500 เมตร ชาวบ้านใช้เป็นสถานที่เลี้ยงสัตว์ โดยในพื้นที่ได้พบว่าในพื้นที่ที่สำรวจ มีบ่อน้ำ รันเวย์ขึ้นลงของเครื่องบิน ถนนดิน และ โรงครัวประกอบอาหาร ของทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
นายบรรจง ศรีธิยศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.กาญจนา อ.เมือง จ.แพร่ กล่าวว่า สาเหตุที่ทหารญี่ปุ่นได้เข้ามาตั้งค่ายทหารในพื้นที่จังหวัดแพร่ในสงครามโลกครั้งที่ 2เพื่อที่จะเข้าควบคุมสนามบินแพร่เพราะถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญทางด้านการทหาร และทำให้ในขณะนั้นในบริเวณสนามบินแพร่ หรือพื้นที่รอบๆจะมีรถถังและรถยนต์ของทหารจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นของไทย ส่วนอาวุธยุทธภัณฑ์ของญี่ปุ่นจะเป็นเครื่องบิน และอาวุธประจำกาย เครื่องบินรบของญี่ปุ่นที่มักจะบินลาดตระเวนทุกวัน บางคันก็เหมือนจะบินออกไปทิ้งระเบิด
ในการลาดตระเวนของเครื่องบินรบญี่ปุ่นบางครั้งจะมีการยิงกระสุนปืนลงมาทางด้านพื้นดินทำให้ชาวบ้านที่ทำงาน หรือเลี้ยงสัตว์อยู่บริเวณใกล้ๆสนามบินต้องหลบหนี บางรายได้รับบาดเจ็บ และบางทีก็ถูกวัวควายที่ชาวบ้านเลี่ยงไว้ล้มตายลงก็มีแต่ว่าเรื่องราวเหล่านั้นเป็นอดีตที่ผ่านมานานแล้ว แต่ว่าการมาสำรวจพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อจะเก็บข้อมูลส่งไปให้ที่ว่าการอำเภอเมืองแพร่ เพื่อส่งต่อไปให้ทางจังหวัดแพร่ ว่าสามารถส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ เพราะว่าความเกี่ยวเนื่องของเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ในจังหวัดแพร่มีความเกี่ยวพันกับเหตุการณ์นี้มากมายและเรื่องของค่ายทหารญี่ปุ่นก็จะเป็นเรื่องราวหนึ่งที่ทำให้เรื่องราวประวัติสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในจังหวัดแพร่ จะมีความสมบูรณ์ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
ทางด้าน นายวีระ สตาร์ เจ้าของคุ้มวิชัยราชา ที่เป็นสถานที่หลักของกลุ่มเสรีไทย ที่ต่อต้านการยึดครองขอบงญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 กล่าวว่า สนามบินญี่ปุ่นดังกล่าวมีมานานแล้ว มีการก่อสร้างสนามบินแพร่เกิดก่อนที่จะมีสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีการสู้รบกันในยุโรปก่อนที่ญี่ปุ่นจะยึดประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.2484-2488 โดย ญี่ปุ่นบุกประเทศไทยเมื่อเดือน ธันวาคม พ.ศ.2484
ในอดีตการคมนาคมในประเทศไทยไปมาหาสู่กันลำบากการส่งไปรษณีภัณฑ์จึงต้องส่งกันทางอากาศ สนามบินแพร่จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และจังหวัดแพร่ยังเป็นจุดที่รับไปรษณีย์ภัณฑ์ที่สำคัญแห่งหนึ่ง ของประเทศไทยในขณะนั้น ส่วนคุ้มวิชัยราชา ในอดีตเคยเป็นที่บ้านที่กลุ่มเสรีไทย ได้ใช้เป็นที่เก็บอาวุธ และสถานที่เชื่อมต่อกับกลุ่มเสรีไทยในต่างประเทศในการต่อสู้กับทหารญี่ปุ่น
ขณะที่ กลุ่มฮักเมืองแป้ ได้สรุปในเรื่องนี้ว่า การพบสถานที่ที่เคยเป็นที่ตั้งค่ายทหารญี่ปุ่น เป็นการยืนยันเชื่อมต่อประวัติเรื่องราวที่เป็นตำนานเล่ากันต่อๆมาในคำว่า เมืองแพร่แห่ระเบิด โดยรวมเอาคำบอกเล่าของอาเจ็กเตีย ที่เสียชีวิตไปแล้วได้บันทึกว่าเคยไปรับจ้างขนระเบิดให้กับญี่ปุ่นที่สถานีรถไฟเด่นชัยและ นำเอาระเบิดไปส่งให้ที่ค่ายทหารญี่ปุ่นที่ในเขตตัวเมืองแพร่ แต่ไม่รู้ว่าสถานที่ใดแต่เมื่อได้มีการพบค่ายทหารญี่ปุ่นแล้วว่าอยู่ในพื้นที่เดี่วกันกับสนามบินแพร่ จึงสอดคล้องกับเรื่องราวของเมืองแพร่แห่ระเบิดนั้นว่าไม่เคยเกิดขึ้นในเขตเมืองแพร่ เลย แต่ระเบิดดังกล่าวจะถูกขึ้นบรรทุกในเครื่องบินรบแล้วนำไปทิ้งในอำเภอรอบๆเมืองแพร่ เนื่องจาก มีกลุ่มที่ต่อต้านการยึดครองของญี่ปุ่นหลบซ่อนตัวอยู่
ดังนั้นตำนานที่กล่าวกันว่า เมืองแพร่แห่ระเบิด นั้นจึงไม่เคยเกิดขึ้นเพราะไม่มีการทิ้งระเบิดในเขตเมืองแพร่แต่อย่างใด คำว่าเมืองแพร่แห่ระเบิด จึงเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในรอบนอกของอำเภอเมืองแพร่ ทางกลุ่มฮักเมืองแป้จะขอให้มีการชำระประวัติศาสตร์เมืองแพร่ในเรื่องนี้ต่อนักประวัติศาสตร์และการจดบันทึกในวงการวิชาการ ว่าไม่เคยมีเหตุการณ์ที่คนเมืองแพร่นำระเบิดมาแห่ในเขตอำเภอเมืองแพร่แต่อย่างใด และคำว่าเมืองแพร่แห่ระบิด จึงไม่สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง