เลย - คมข่าวทั่วไทย
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 18 มิ.ย. 2562 ณ ศาลากลางจังหวัดเลย มีประชาชนชาว อ.ผาขาว จ.เลย กว่า 10 คน โดยการนำของ นางรุ่งทิพย์ ดีมุงคุณวัด อายุ 49 ปี เลขที่ 4 หมู่ 11 บ้านหนองยางคำ ตงโนนป่าซาง ,นายสมัคร ทองคอนไทย อายุ 67 ปี เลขที่ 83 หมู่ 15 ต.โนนปอแดง อ.ผาขาว จ.เลย เพื่อทวงถามกรณีเข้าร้องเรียนครั้งแรกแต่เรื่องเงียบไมมีอะไรคืบหน้า กรณีขอทวงถามข้อเท็จจริงการตรวจสอบพฤติกรรมและการทุจริตเงินในหมู่บ้านห้วยยางคำ หมู่ 11 ของนายบุญเพ็ง สิงทุย อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 พร้อมกับให้ออกจากตำแหน่ง
สืบเนื่องมาจากชาวบ้านรับแจ้งจากทางอำเภอผาขาวนัดประชุมชาวบ้านพร้อมกับตอบข้อซักถามนายบุญเพ็ง สิงทุย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 ในวันที่ 29 พ.ค. 2562 วันนั้น ผลออกมาไม่เป็นที่พอใจของชาวบ้านเนื่องจากไม่มีเอกสาร ไม่มีบัญชีมาชี้แจง ไม่มีบัญชีเงินฝาก ไม่มีการประชุมเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2556 มีการข่มบู่ชาวบ้านอีกด้วย ทางปัดอาวุโสอำเภอผาขาวรับปากว่าจะตั้งคณะกรรมการีสอบแต่ก็ไม่ได้กระทำ ชาวบ้านขอเข้าพบนายอำเภอก็ได้รับการปฏิเสธ ชาวบ้านจึงมีข้อสงสัยต้องเดินทางที่จังหวัดเลยในวันนี้ ตั้งความหวังสูงสุดกับผู้ว่าราชการจังหวัดเลยเพราะอยู่กับชาวบ้านไม่ได้ ปกครองลูกบ้านไม่ได้แล้ว หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมกับทางจังหวัดแต่มาวันนี้ ไม่มีผู้ว่าฯ รอง และปลัด อยู่ไปราชการหมด มีแต่เจ้าหน้าที่รับเรื่องแทนจึงต้องขอร้องต่อสื่อมวลชนฯ พร้อมกับบอกว่าให้ไปร้องที่อำเภอผาขาวและจะเร่งสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน
นางรุ่งทิพย์ ดีมุงคุณวัด และ นายสมัคร ทองคอนไทย เปิดเผยว่า พฤติกรรมที่ชาวบ้านรับไม่ได้ จำเป็นต้องขับออกจากตำแหน่งของผู้ใหญ่บ้านรายนี้ หาก 7 วันไม่ได้ข้อสรุปในทางที่ชาวบ้านตั้งไว้หรือไม่ให้ออกจากตำแหน่ง ชาวบ้านนับร้อยคนจะเดินทางร้องเรียนที่ศาลากลางจังหวัดเลย พร้อมเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับผู้ใหญ่บ้าน เพราะเขา อาจจะทุจริตกับเงินของหมู่บ้าน ไม่ปฏิบัติตามระเบียบของกองทุนฯ เงินปันผล เงินเฉลี่ยคืน งบดุลย์ต่างๆ ไม่มีระบบไม่ชี้แจงกับสมาชิกฯไม่โปร่งใสไมเป็นธรรมทั้งเงินสัจจะ เงินหุ้น เรืองกองทุนดอกเบี้ยข้าวเปลือก ทำการซื้อ-ขาย ด้วยตนเอง ไม่มีข้างในฉางให้ชาวบ้าน
รวมทั้งดอกเบี้ยกองทุนปุ๋ยไม่ยอมรับมติชาวบ้าน ทำการควบคุมเองกับพวกพ้องเก็บเงินเองไม้ยอมชี้แจง ตลอดจนการติดตั้งน้ำดื่มที่เป็นประชาคมของชาวบ้านแต่สุดท้ายชาวบ้านต้องซื้อน้ำถังละ 5 บาท เรื่องดอกเบี้ยเงินวัวในหมู่บ้านเรียกเก็บเงินทุกปีแต่ไม่ชี้แจง เงินนั้นเข้ากระเป๋าตนเอง และกรณีไปขับไล่พระสงฆ์ให้ออกจากสำนักสงฆ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือกราบไหว้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ โดเยการทำลายที่พักสงฆ์ ศาลาวัด กุฏิ ทั้งๆที่เกิดขึ้นจากชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจบริจาคทรัพย์ส่วนตัวสร้างให้พระสงฆ์อยู่อาศัยเพื่อปกป้องรักษาป่าสาธารณให้อยู่คู่ชาวบ้านไม่ได้ทำลายป่าแต่อย่างใด
อีกทั้งยังไปเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านบ่อยๆรายใดไม่ให้ขู่วาจะไม่ให้ความช่วยเหลืออะไร นอกจากนี้ยังทำการขุดดินในที่สาธารณภายในหมู่บ้านขายอีกด้วยที่เป็นทรัพย์สินของแผ่นดินทำไมขุดขายเป็นธุรกิจส่วนตัว การกระทำของผูใหญ่บ้านรายนี้ ที่ไม่โปร่งใส เกิดความวานวายในชุมชน สังคม หมู่บ้าน มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำให้ประชาชนไม่สามารถไว้วางใจให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปได้เพราะจงใจสร้างความแตกแยกในชุมชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง