จ่อแจ้งความเอาผิดโพสต์ใส่ร้ายขโมยพันธุ์มันสำปะหลัง

 

นครราชสีมา- วันนี้ (4 มิถุนายน 2562) นายบัณฑิต กาศรัมย์ อายุ 54 ปี แกนนำชาวบ้านสมบัติเจริญ หมู่ที่ 6  ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา   เปิดเผยความคืบหน้า กรณีที่มีผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า “มันสำปะหลังพันธุ์ใหม่ล่าสุด” โพสต์ถ้อยคำโจมตีให้ร้าย ว่า ชาวบ้านบ้านสมบัติเจริญ ขโมยพันธุ์มันสำปะหลังที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ “มันสำปะหลังพันธุ์ 89”  มาเพาะขยายพันธุ์จนทำให้เกิดปัญหาโรคระบาดในมันสำปะหลังขึ้นในประเทศไทย

 

 

 

 

 

 

โดยอธิบดีกรมวิชาการเกษตรสั่งแบนมันสำปะหลังพันธุ์ CMR34-08-89 หรือพันธุ์ 89 ห้ามเกษตรกรปลูกพันธุ์นี้ เพราะอ่อนแอต่อโรคใบด่าง โรคหัวเน่า และโรคใบพุ่มแจ้ ปัจจุบันเกษตรกรปลูกพันธุ์ 89 มากเป็นอันดับสอง รองจากระยอง 72   พันธุ์ 89 เป็นพันธุ์ที่มีส่วนให้โรคใบด่าง โรคหัวเน่า และโรคใบพุ่มลุกลามอย่างรวดเร็ว มันสำปะหลังพันธุ์ 89 เป็นพันธุ์ที่กรมวิชาการเกษตรคัดทิ้งนานแล้ว แต่มีเกษตรกรหัวใสแถวบ้านสมบัติเจริญ ตำบลกุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ขโมยมาปลูก แล้วแพร่หลายทั่วประเทศไทย พันธุ์นี้เรียกว่าพันธุ์เถื่อน ไม่ถูกรับรองพันธุ์โดยกรมวิชาการเกษตร และกรมวิชาการเกษตรก็ไม่เคยแนะนำหรือส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพันธุ์นี้ครับ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ซึ่งการโพสต์ข้อความดังกล่าว ทำให้หมู่บ้านสมบัติเจริญเสื่อมเสียชื่อเสียง ชาวบ้านร่วม 150 คน จึงร่วมตัวกันลงชื่อเตรียมร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเรียกร้องให้ผู้ที่โพสต์ออกมาแสดงความรับผิดชอบ  ซึ่งล่าสุด วันนี้ ( 4 มิถุนายน 2562 ) กลุ่มผู้โพสต์ข้อความ ก็ยังไม่ดำเนินการชี้แจงแก้ไข หรือออกมาเคลื่อนไหวใดๆ  มีเพียงเจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมการเกษตร ,กรมวิชาการเกษตร และสำนักงานเกษตรอำเภอเสิงสาง ได้เข้ามาหารือกับชาวบ้าน ที่บ้านของนายสมศักดิ์  ป้องปัญจมิตร ผู้ใหญ่บ้านบ้านสมบัติเจริญ เพื่อให้คำแนะนำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางกอบกู้ชื่อเสียงของหมู่บ้าน

 โดยในส่วนของมหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดนครราชสีมา ที่ให้พันธุ์มันสำปะหลัง 89 แก่ชาวบ้าน ก็ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามา แต่คาดว่าน่าจะรับทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว  ซึ่งภายใน 5 วัน ยังไม่มีใครหรือหน่วยงานใดออกมารับผิดชอบช่วยเหลือ ชาวบ้านจะรวมตัวกันเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ และขอคำแนะนำจากนักกฎหมายเพื่อให้ช่วยเหลือในการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้โพสต์ ที่กล่าวหาว่าชาวบ้านสมบัติเจริญเป็นขโมย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นายบัณฑิตฯ แกนนำชาวบ้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุผลที่สายพันธุ์มัน 89 ไม่ได้รับการรับรองนั้น นักวิชาการเกษตรอาวุโส เคยบอกไว้ว่า เป็นพันธุ์ที่อ่อนแอต่อโรคแต่ไม่ได้ระบุว่าโรคอะไร แต่โรคที่ระบาดหนักๆในพื้นที่ จะเป็นโรคเพลี้ยแป้งและโรคเน่า ซึ่งในแปลงทดลองบ้านสมบัติเจริญที่ดำเนินการทดลองมาแล้วเกือบ 3 ปี เพื่อจะนำผลการวิจัยจากสภาพพื้นที่เพาะปลูกจริง ไปประกอบเป็นข้อมูลยื่นขอจดทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตรเพื่อรับรองสายพันธุ์มันสำปะหลังแต่ละชนิดอย่างถูกต้อง  พบว่า มันสำปะหลังพันธุ์ 89 มีความต้านทานโรคเพลี้ยแป้งและโรคเน่าได้เป็นอย่างดี ส่วนโรคใบด่างเป็นโรคที่เข้ามาใหม่ ยังไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่าพันธุ์ใดอ่อนแอต่อโรคนี้  

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเพียงหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้ามาดูแลให้คำแนะนำแก่ชาวบ้าน แต่ฝ่ายปกครองหรือหน่วยงานอื่นๆในอำเภอเสิงสางยังไม่มีใครเข้ามาสอบถามอะไร แต่ชาวบ้านก็เตรียมรวมตัวไปยื่นหนังสือร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเสิงสางแล้ว เพื่อขอความเป็นธรรมให้เร่งรัดช่วยเหลือ  เพราะชาวบ้านกว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด 180 คัวเรือน จะปลูกมันสำปะหลังเป็นอาชีพ และเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ปลูกมันพันธุ์ 89 เป็นรายได้หลัก

ส่วนพันธุ์อื่นๆเป็นโรคเน่าเกือบทั้งหมด ชาวบ้านจึงไม่นิยมปลูก  ส่วนผลผลิตมันสำปะหลังทั้งหมด ทางโรงมัน-โรงแป้งรับซื้อหัวมันทุกสายพันธุ์ ไม่ได้ต่อต้านในเรื่องนี้ แต่ที่ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนคือการขายท่อนพันธุ์มันสำปะหลังไปยังจังหวัดอื่นๆ พื้นที่อื่น ซึ่งเคยเป็นรายได้หลักของชาวอำเภอเสิงสาง พบว่า ตอนนี้ยอดสั่งท่อนพันธุ์ลดลงอย่างมาก หาที่ระบายออกไม่ได้เลย  จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน และขอให้ผู้โพสต์แสดงความรับผิดชอบ ด้วยการออกมาชี้แจงและแก้ไขข้อกล่าวหาที่ว่าชาวบ้านสมบัติเจริญเป็นขโมยด้วย