ซัลโวสางแค้นถูกตีงานบวช

 

นครราชสีมา วันนี้ (4 มิถุนายน 2562) เวลา 11.45 น. พ.ต.ท.รัตนพล ธูปแก้ว รอง ผบก.สส.สภ.พิมาย พร้อมด้วย ร.ต.ต.วัฒนะ วรรณประดิษฐ์ สว.สส.สภ.พิมาย ได้นำตัวนายนพพร เสงี่ยมกลาง หรือจี้ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาฆ่าคนตาย เดินทางไปที่บริเวณท้ายหมู่บ้านโนนเกตุ หมู่ 20 ต.กระชอน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เพื่อค้นหาปืนลูกซองยาว ที่ใช้ในการก่อเหตุยิงนายธนพล สาหร่าย หรือตุ้ม อายุ 20 ปี เสียชีวิตที่บ้านศรีเจริญชัย หมู่ 24 ต.โบสถ์ อ.พิมาย

 

 

 

หลังจากที่เกิดทะเลาะวิวาทกันในขบวนรถแห่นาค เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2562 ก่อนที่นายนพพร จะพาพวกอีก 1 คน ใช้ปืนลูกซองมายิงนายธนพล แล้วขับรถกระบะหนีไปในวันเดียวกัน โดยหลังจากก่อเหตุแล้วทั้ง 2 คน ได้ขับรถหนีมากบดานอยู่ในบ้านสร้างใหม่หลังหนึ่ง ที่หมู่บ้านโนนเกตุ อยู่ห่างจากจุดก่อเหตุประมาณ 35 กิโลเมตร ซึ่งนายนพพร ได้รับเหมาติดตั้งกระจก และได้นอนพักที่บ้านหลังนี้ พร้อมกับได้นำปืนลูกซองที่ก่อเหตุ ไปฝังดินไว้ที่บริเวณรั้วของบ้าน และได้นำกระสุนปืนจำนวน 5 นัด โดย 4 นัดยังไม่ได้ใช้ และ 1 นัดเหลือแต่ปลอก ไปซ่อนไว้ใต้ต้นไม้ห่างจากจุดฝังปืนประมาณ 10 เมตร

ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำปืนของกลาง และกระสุนปืน ไปเก็บไว้เป็นหลักฐาน และควบคุมตัวนายนพพร ไปฝากขังไว้ที่ สภ.พิมาย ส่วนผู้ต้องหาอีกราย คือนายสมชาย ทรัพย์เจริญ ยังไม่ได้มีการติดต่อขอมอบตัวในขณะนี้

 

 

 

ทั้งนี้ภายหลังจากเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิมาย ได้ขอหมายศาลจังหวัดพิมาย ออกหมายจับนายนพพร เสงี่ยมกลาง มือปืนที่ใช้ปืนลูกซองยิงนายธนพล เสียชีวิต และนายสมชาย ทรัพย์เจริญ อายุ 26 ปี คนที่ขับรถกระบะพานายนพพร ไปก่อเหตุแล้วพาหลบหนี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร

ต่อมานายนพพร ได้ติดต่อผ่านนางฉลวย หลงพิมาย อายุ 55 ปี ผู้เป็นแม่ เพื่อขอเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.พิมาย โดยนางฉลวย เปิดเผยว่า ที่ลูกชายขอเข้ามอบตัวเพราะกลัวถูกตำรวจไล่ล่าจับตาย และต้องการที่จะสารภาพผิดเพื่อให้โทษหนักกลายเป็นเบา

 

 

 

 

 

 

ด้านนายนพพร ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องฆ่านายธนพล เนื่องจากก่อนหน้านั้น ตนเองกับนายธนพล ก็เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน แต่ช่วงหลังๆ มามีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้งเกี่ยวกับผลประโยชน์ค้ายาเสพติด ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ก็ได้ไปเจอกันในขบวนรถแห่นาค ที่บ้านหนองไผ่ นายนพพรอ้างว่าถูกนายธนพล เข้ามาทำร้ายร่ายกายก่อน และเกิดการทะเลาะวิวาทกันภายในงาน ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ อปพร.มาห้ามไว้ และแยกย้ายกันกลับบ้าน นายนพพร จึงได้ชวนนายสมชายไปล้างแค้น

โดยเอาปืนลูกซองยาวของนายสมชายไปด้วย เมื่อถึงบริเวณอู่ซ่อมรถ ที่บ้านทรัพย์เจริญชัย หมู่ 24 ต.โบสถ์ อ.พิมาย ก็ใช้ปืนดังกล่าวยิงใส่นายธนพลจนเสียชีวิต ก่อนที่จะหลบหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านสร้างใหม่หลังหนึ่ง ในหมู่บ้านโนนเกตุ หมู่ 20 ต.กระชอน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ที่นายนพพร รับเหมาจ้างติดกระจกให้ พร้อมกับนำปืนและกระสุนปืนไปฝังไว้เพื่อหนีความผิด แต่เมื่อทราบข่าวว่าถูกตำรวจออกหมายจับในข้อหาฆ่าคนตาย จึงได้ติดต่อแม่เพื่อขอมอบตัว เพราะกลัวว่าจะถูกตำรวจจับตาย และเพื่อลดโทษจากหนักเป็นเบาลงบ้าง นายนพพรฯ กล่าว

ขณะเดียวกัน น.ส.อนิสรา ปินะกะตา อายุ 34 ปี พี่สาวของนายธนพล ผู้ตาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ครอบครัวได้ไปรับศพนายธนพล ออกมาจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาแล้ว โดยนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองไผ่ หมู่ที่ 11 ต.โบสถ์ อ.พิมาย ซึ่งจะบำเพ็ญกุศลไปจนถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2562 และทำพิธีฌาปนกิจในวันนั้น ทั้งนี้ภายหลังจากที่ญาติทราบข่าวว่านายนพพร เข้ามอบตัวแล้ว ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อให้สมกับการกระทำที่ได้ทำไว้กับน้องชายของตนเอง