ข่าว

สำนักพุทธออกโรงจี้เร่งคืนสภาพเดิม โบสถ์สีชมพู ไม่เหมาะสม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก "ชัยภูมิเมืองต้องห้ามพลาด" ได้โพสต์ภาพเปรียบเทียบโบสถ์หลังเก่า อายุร่วม100 ปี สภาพเดิม เปรียบเทียบกับภาพโบสถ์สภาพปัจจุบันที่ผ่านการบุรณะแล้วซึ่งกลายเป็นโบสถ์สีชมพูหวานแวว ของวัดแห่งหนึ่งที่บ้านแก้ง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ

23มิถุนายน2563 ขณะที่ทางด้านพระราชชัยสิทธิสุนทร รองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะเจ้าอาวาสวัดไพรีพินาศ หรือวัดกลางเมืองเก่า  ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ออกมาแสดงความคิดเห็นในกรณีที่โบสถ์วัดแจ้ง ตำบลบ้านแก้ง จังหวัดชัยภูมิ ที่มีการบูรณะซ่อมแซม แล้วนำสีชมพูมาทำการทาทับรอบตัวโบสถ์ จนกลายเป็นข่าวดังไปแล้วนั้นว่า ยอมรับว่ารู้สึกไม่สบายใจและเป็นห่วงความรู้ของเจ้าอาวาสวัดแจ้ง ส่วนตัวเชื่อว่าพระท่านทำไปด้วยจิตบริสุทธิ์ ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง แต่หลังจากเกิดเรื่องท่านก็ยินดีที่จะแก้ไข ซึ่งในทางปฎิบัติเวลานี้ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะกรมศิลปากร ได้สั่งไม่ให้ดำเนินการใดๆ กับโบสถ์หลังนี้ ในระหว่างที่กรมศิลปากรกำลังเร่งทำเรื่องขึ้นทะเบียน เป็นวัตถุโบราณ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตนมองว่าทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมมีทางออกเสมอและหากค้นพบ ก็สามารถพลิกด้านมืดเป็นด้านสว่างได้ เช่นเดียวกับกรณีวัดแจ้งนี้ ตนในฐานะรองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านโบราณวัตถุ โดยเฉพาะสิ่งปลูกสร้างต่างๆ จะถือเอากรณีที่เกิดนี้เป็นกรณีศึกษาและออกเป็นนโยบาย เพื่อเข้าที่ประชุมในวันที่10กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ เพื่อขอให้มีมติที่ประชุม พิจารณานำไปปฎิบัติเป็นแนวทางเดียวกันทุกวัดในจังหวัดชัยภูมิ แนวปฎิบัตินี้ตนได้ปรึกษากับระดับผู้บริหารคณะสงฆ์ โดยมีเจ้าคณะจังหวัดเป็นประธานแล้ว ซึ่งทุกวัดหากจะดำเนินการใดๆกับสิ่งปลูกสร้างหรือวัตถุโบราณ ที่มีอายุคาดว่าจะเกิน50-100ปี ทุกอย่าง จะต้องแจ้งให้กับคณะสงฆ์จังหวัดได้ทราบ

สำนักพุทธออกโรงจี้เร่งคืนสภาพเดิม โบสถ์สีชมพู ไม่เหมาะสม

สำนักพุทธออกโรงจี้เร่งคืนสภาพเดิม โบสถ์สีชมพู ไม่เหมาะสม

สำนักพุทธออกโรงจี้เร่งคืนสภาพเดิม โบสถ์สีชมพู ไม่เหมาะสม

 

ด้านนาย รัชฎ์ ศิริ  นายช่างศิลปกรรมชำนาญงาน  สำนักศิลปากรที่10นครราชสีมา  ชี้แจงว่าโบสถ์วัดแจ้งแห่งนี้ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปกรและจากการตรวจสอบแล้วคาดว่าโบสถ์หลังนี้น่าจะมาอายุกว่า204ปี รวมทั้งประวัติของวัดเข้าเงื่อนไขสามารถดำเนินการขึ้นทะเบียนได้สำหรับการบูรณปฏิสังขรณ์ ดังกล่าว  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้จัดสรรงบประมาณให้ดำเนินการ จำนวน 202,400บาท ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยภูมิได้แต่งตั้งคณะกรรมการออกตรวจติดตามการใช้เงินอุดหนุนประจำปีงบประมาณ2563 ตามอำนาจหน้าที่โดยลงพื้นที่ตรวจติดตามการใช้เงินอุดหนุนดังกล่าว ในวันที่11มิถุนายน2563  พบว่าการบูรณปฏิสังขรณ์ อยู่ในระหว่างดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จมีการทาสีไปแล้วเป็นบางส่วนซึ่งกรรมการได้ทักท้วงการใช้สีที่สดใสไม่เหมาะสมกับการเสนาสนะที่เก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ที่สำคัญของท้องถิ่นแล้ว หลังจากกรณีดังกล่าวถูกเผยแพร่อย่างกว่างขวาง สำนักศิลปกรที่10นครราชสีมา  สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยภูมิ สำงานงานวัฒนธรรมจังหวัดชัยภูมิ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่าการดำเนินการดังกล่าวเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการและไม่มีเจตนาอื่นใดนอกจากการซ่อมแซมปรับปรุงเพื่อความมั่นคงถาวรมากขึ้นซึ่งทางวัดพร้อมที่จะดำเนินการแก้ไขให้คืนสู่สภาพเดิมภายใต้คำแนะนำและแนวทางปฎิบัติของผู้เชียวชาญจากสำนักศิลปากรที่10นครราชสีมาต่อไป

สำนักพุทธออกโรงจี้เร่งคืนสภาพเดิม โบสถ์สีชมพู ไม่เหมาะสม

สำนักพุทธออกโรงจี้เร่งคืนสภาพเดิม โบสถ์สีชมพู ไม่เหมาะสม

สำนักพุทธออกโรงจี้เร่งคืนสภาพเดิม โบสถ์สีชมพู ไม่เหมาะสม

 

ขณะที่หลังเกิดเหตุการณ์กรณีดังกล่าวและได้มีการเผยแพร่ออกไปทางสื่อโซเชียลและสื่อหลักอย่างกว้างขวางและเป็นที่สนใจของประชาชนจำนวนมาก ด้านนายณรงค์ศักดิ์ อ้อทอง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยภูมิ ได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีโบสถ์สีชมพูของวัดแจ้ง ไปยังนาย กอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิแล้วเช่นกัน

สำนักพุทธออกโรงจี้เร่งคืนสภาพเดิม โบสถ์สีชมพู ไม่เหมาะสม

สำนักพุทธออกโรงจี้เร่งคืนสภาพเดิม โบสถ์สีชมพู ไม่เหมาะสม

สำนักพุทธออกโรงจี้เร่งคืนสภาพเดิม โบสถ์สีชมพู ไม่เหมาะสม

สำนักพุทธออกโรงจี้เร่งคืนสภาพเดิม โบสถ์สีชมพู ไม่เหมาะสม

ภาพข่าว พรอนันต์ พันเชื้อ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชัยภูมิ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ