ข่าว

เสรีรวมไทย ลุยศึกเลือกตั้ง แจงยิบนโยบายพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ราคาถูก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"นภาพร” รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แจงยิบนโยบายสู้ศึกเลือกตั้ง พลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ราคาถูก สำหรับประชาชน รื้อระบบสัญญาเอกชนกับการไฟฟ้าที่ไม่เป็นธรรม

นางสาวนภาพร เพ็ชรจินดา รองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงการจัดประชุมใหญ่สามัญ พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.และการแถลงนโยบายของพรรคเสรีรวมไทยเมื่อวานนี้ แสดงถึงความพร้อมของพรรคใน เพื่อเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้ง  

เสรีรวมไทย ลุยศึกเลือกตั้ง แจงยิบนโยบายพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ราคาถูก

ซึ่งนอกจากนโยบายที่พรรคเห็นว่าสามารถแก้ไขปัยหาความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริงแล้ว พรรคเสรีรวมไทยยังให้ความสำคัญกับนโยบายพลังงาน ทั้งน้ำมัน ไฟฟ้าราคาถูกสำหรับประชาชน เนื่องจากน้ำมันถือเป็นต้นทุนหลักที่ทำให้ค่าครองชีพสูงและการทวงคืน ปตท. ให้กลับมาเป็นของประชาชน ที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อให้ ปตท. เป็นรัฐวิสาหกิจเพื่อคนไทย เพราะปัจจุบัน ปตท.มุ่งแสวงหาผลกำไรให้ผู้ถือหุ้นอย่างอย่างเดียว   

นางสาวนภาพร ยังชี้แจงการซื้อหุ้น PTT คืนนั้นจะได้กลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจเหมือนเดิม กำไรทั้งหมดตกเป็นของรัฐแล้ว และยังกำหนดให้เป็นองค์การเพื่อสวัสดิการของรัฐโดยไม่มุ่งหวังกำไรได้ เพราะออกจากตลาดหลักทรัพย์แล้ว

เสรีรวมไทย ลุยศึกเลือกตั้ง แจงยิบนโยบายพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ราคาถูก

“ ที่พูดกันว่าบ้านเรามีทั้งก๊าซและน้ำมัน ทำไมคนไทยจึงต้องซื้อแพง บอกบอกเลยว่าเอาจริงๆเราไม่มีทั้งก๊าซและน้ำมัน เพราะเราขายสัมปทานให้เอกชนและต่างชาติไปหมดแล้ว แต่เมื่อเราซื้อ ปตท.คืน เราจะกลับมามีทรัพยากรธรรมชาติเหล่านั้นอีกครั้ง โดยเราจะไม่ขายสัมปทานอีกต่อไป เราจะยกให้ ปตท.ทำ เหมือนรัฐทำเอง กำไรเอง 

นอกจากนี้ราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น 21 บาท บวกกับภาษีสรรพสามิต ภาษีท้องถิ่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม กองทุนน้ำมัน กองทุนอนุรักษ์พลังงาน ค่าการตลาด กว่าจะใช้น้ำมัน บวกไป 7 รายการนั้น ยังสามารถตัดเรื่องเอาเข้ากองทุนและหลายรายการออกได้ เพราะหากต้นทุนน้ำมันแพงรัฐก็พยุงเอง แค่ขาดทุนกำไร แต่ไม่ได้ขาดทุนจริง”

เสรีรวมไทย ลุยศึกเลือกตั้ง แจงยิบนโยบายพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ราคาถูก

ขณะเดียวกันจะสามารถออกกฎหมายเฉพาะเพื่อบริหาร ปตท.ได้อย่างอิสระ ปลอดจากการเมือง ซึ่งจะเกิดประโยชน์และเป็นธรรมต่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติ โดยไม่แสวงหากำไร

 

ส่วนจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ ปตท.มีมูลค่าในตลาดฯกว่า 928,200 ล้านบาท นางสาวนภาพร ระบุว่า ทำได้โดยการทำ โดยการทำ Tender ตั้งโต๊ะ เพื่อรับซื้อหุ้นคืน Free Float 49% = 454,818 ล้านบาท แต่ปตท. กำไรปีละ 9 หมื่นกว่าล้านบาทแล้ว ดังนั้น แค่ไม่กี่ปีก็ใช้หนี้หมด

 

 

พร้อมยกตัวอย่าง คนที่ซื้อ intuch และ makro เดิมมีเงินสดอยู่นิดเดียว ซื้อแล้วเอาหุ้นไปค้ำกับธนาคาร หุ้นนั้นเป็นหลักทรัพย์ดีมาก เกรด A,B+ ดอกเบี้ยจึงต่ำ ขนาด”เอาเงินปันผล”ของ intuch / makro ไปจ่ายดอกเบี้ยแล้วยังเหลือไปจ่ายคืนเงินต้น ไปกินโต๊ะจีนแพงๆได้อีก 

 

ขณะที่การตั้งกองทุนเอาเงินไปซื้อหุ้นคืน แล้วเอากำไรผลประกอบการของ ปตท.ไปคืนกองทุน ปตท.กำไร 9 หมื่นกว่าล้าน กำไรสะสมก็มีอีกเยอะ จากกำไร แค่ 4-5 ปีก็ชำระคืนกองทุนได้หมดแล้ว ซึ่งผลประกอบการที่ได้จะถูกนำไปสู่สวัสดิการสังคมด้านอื่นๆ รวมถึงการโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะไปใช้จ่ายค่าน้ำมันที่ปั๊มไหนก็ได้ เพื่อลดปัญหาการกีดกันทางการค้า พร้อม ยกเลิกการอ้างอิงราคาการนำเข้าจากสิงคโปร์

และยกเลิกการผสมเอทานอลเมื่อราคาเอทานอลในขณะนั้นสูงกว่าน้ำมันฟอสซิล

 

สำหรับนโยบายไฟฟ้า จะรื้อระบบสัญญาเอกชนกับการไฟฟ้า ที่ไม่เป็นธรรม ปราบทุจริตเชิงนโยบาย ซึ่ง”ทุจริตเชิงนโยบาย”จากรัฐบาลก่อนหน้า ด้วยการทำสัญญารับซื้อไฟฟ้าที่ทั้งแพงและยาวนาน บางบริษัทได้กำไรมหาศาลจนคืนทุนไปแล้ว แต่ก็ยังบังคับขายไฟฟ้าตามสัญญาแพงๆต่อให้รัฐต่อไปอีก โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า

 

“หากพรรคเสรีรวมไทยได้เป็นรัฐบาล จะเข้าไปตรวจสอบสัญญา ไปดูต้นทุน สืบสวนหาหลักฐาน หากพบมีการทุจริตเราจะดำเนินคดีและยกเลิกสัมปทานขายไฟฟ้าทั้งหมด หากจะมีข้อพิพาท ร้องอนุญาโตตุลาการ ก็จงรู้ไว้ก่อนนะว่า คู่กรณีคือคนไทยทั้งประเทศ”

 

นางสาวนภาพร ยังระบุว่า ปตท.มีบริษัทลูกอีกหลายบริษัทที่ถือหุ้นอยู่ นอกจากบริหารในเรื่องของน้ำมันและก๊าซธรรมแล้ว ปตท.ยังมีบริษัทลูกคือ บ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ซึ่งบริษัทนี้มีความน่าสนใจที่ใช้เงินไม่มาก ประมาณ 4-5หมื่นล้านบาท สามารถซื้อหุ้นคืนแล้วเอาออกนอกตลาดได้(Free Float 24.75%)

 

ทั้งนี้ GPSC ที่มีความสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้หลายรูปแบบ เมื่อตกเป็นของรัฐแล้วหากนำไปควบรวมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต จะถือเป็นสุดยอดผู้ผลิตไฟฟ้าที่ไม่หวังผลกำไรชั้นนำของโลก สามารถผลิตไฟฟ้าให้ประชาชนใช้ในราคาถูกได้ โดยในอนาคตเราไม่ต้องซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนบางราย 

 

ขณะเดียวกันจะควบรวมการไฟฟ้า 3 ฝ่าย คือการไฟฟ้าฝ่ายผลิต กระทรวงพลังงานกำกับดูแล การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง ที่กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแล เพื่อให้เกิดเอกภาพในการบริหารจัดการ โดยอาจจะให้ GPSC มาร่วมบริหารจะเป็นทางเลือกที่ดี ควบคู่ไปกับสร้างโซล่าโรงไฟฟ้าชุมชน โดยนำกำไรที่เคยเก็บเอาเข้ากองทุนไว้มาลงทุนสร้าง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ