โดยทีมรายงานพิเศษ คมชัดลึก
บริษัทยายักษ์ใหญ่ทั่วโลกกำลังเตรียมผลิต “ยารักษาโรคโควิด -19 โดยมีข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวลือ ข่าวปล่อย เกี่ยวกับชื่อยาออกมาแทบทุกวัน แม้องค์การอนามัยโลกยังไม่ยืนยันชัดเจนว่ายาตัวไหนใช้ได้ผลแน่ ปล่อยให้ทีมหมอแต่ละประเทศช่วยกันทดลองจัดยารักษาคนไข้ขั้นรุนแรงไปก่อน...ส่วนใหญ่ใช้สูตรยาผสมกันหลายตัว โดยมีการสรุปรายชื่อยาที่ใช้ได้ผลในระดับหนึ่งออกมาแล้ว 11 ชุดด้วยกัน !
“SARS-CoV-2” ชื่อรหัสไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยโรคที่เกิดจากไวรัสร้ายตัวนี้เรียกว่า “โรคปอดอักเสบรุนแรง” (Novel Coronavirus 2019 Pneumonia) อาการผู้ป่วยที่ไม่รุนแรงมากนัก อาจแค่ไข้สูง ไอ จาม มีเสมหะ เจ็บคอ มีน้ำมูก ส่วนผู้ป่วยอาการหนักจะรู้สึกเหนื่อยหอบ หายใจติดขัด ถ้าร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันไปช่วยกำจัดไวรัสไม่ทัน ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตจากระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ฯลฯ
คณะแพทย์จีนพยายามจัดการเชื้อร้ายตัวนี้มาตั้งแต่ต้นปี ช่วงแรกรักษาแบบประคับประคองร่วมกับใช้เครื่องหายใจช่วย แต่เมื่อคนไข้มีมากขึ้นก็ปรึกษากันว่า ควรทดลองใช้ยารักษาไวรัสอื่น ๆ โดยเฉพาะยาที่เคยได้ผลกับผู้ป่วยไวรัสไข้หวัดใหญ่และไวรัสเอดส์
โดยวันที่ 26 มกราคม 2563 คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีน เปิดแถลงข่าวผลสำเร็จของการทดลองใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีสำหรับรักษาผู้ป่วยเอดส์ ชื่อว่ายา “รีโทรนาเวียร์” (Ritonavir) และ “โลพินาเวียร์”(Lopinavir) เป็นสูตรผสมกันรักษาผู้ป่วย
ผ่านไปไม่กี่วัน กระทรวงสาธารณสุขของไทยจัดแถลงข่าววันที่ 2 ก.พ. โดยทีมแพทย์ รพ.ราชวิถี ได้ทดลองให้สูตรยา 3 ตัว โดยใช้ยา 2 ตัวข้างต้นควบคู่กับยา “โอเซลทามิเวียร์” (oseltamivir) กับผู้ป่วยชาวจีนวัย 70 กว่าปีจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งอาการหนักมากมีภาวะปอดอักเสบ น้ำท่วมปอด เมื่อให้ยาสูตร 3 ตัวนี้เข้าไปปรากฏว่าภายในไม่ถึง 12 ชั่วโมง คนไข้มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาก็แทบจะไม่พบ
ส่วนประเทศญี่ปุ่น เมื่อต้องรับมือผู้ป่วยหนักหลายร้อยคนจากเรือสำราญ “ไดมอนด์ พรินเซส” ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ มีการใช้ยาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอาร์เอ็นเอไวรัสหลายชนิด เคยทดลองใช้กับผู้ป่วยไวรัสอีโบลา ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสไข้เหลือง ไวรัสโรคปากและเท้า ฯลฯ แต่ไม่ได้ใช้ยานี้ตัวเดียวมีการผสมยา “บาลอกซาเวียร์ มาร์โบซิล” (Baloxavir marboxil) ซึ่งเป็นยาตัวใหม่สำหรับรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ด้วย
ทีมแพทย์อเมริกาก็ไม่น้อยหน้าทดลองยา “อินเตอร์เฟียรอน อัลฟ่า-2b” (Interferon alfa-2b) ที่ใช้รักษาโรคไวรัสตับอักเสบซีได้ผล มาผสมกับตัวยา “ไรบาวิริน” (ribavirin) ช่วยลดความรุนแรงของอาการปอดบวม ซึ่งสูตรยา 2 ชนิดนี้เคยใช้ในห้องทดลองกับเชื้อโคโรนา “ไวรัสเมอร์ส” (MERS- Cov) หรือโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางที่ระบาดปี 2012 ปรากฏว่าได้ผลน่าพอใจ จึงลองนำมาใช้กับผู้ป่วยโคโรนาไวรัส 2019
นอกจากชื่อยาหลายตัวข้างต้นแล้ว ขณะนี้ทีมแพทย์จีนยังทดลองใช้ยาตัวอื่น ๆ ไม่ต่ำกว่า 30 ชนิด โดยเวบไซด์วิชาการด้านเทคโนโลยีชีวภาพ www.nature.com ได้รวบรวมสูตรยาที่แพทย์ทั่วโลกรายงานว่าทดลองใช้รักษาผู้ป่วยทั้งหมด 11 แบบออกมาเผยแพร่เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 โดย “คมชัดลึก” นำมาสรุปไว้เพื่อให้ คนไทยทำความคุ้นเคยกับชื่อยาเหล่านี้ และสามารถนำไปสืบค้นต่อว่ามีสรรพคุณในการรักษาอย่างไรบ้าง
สูตรยา 1 ยา lopinavir ผสมกับยา ritonavir และบางครั้งอาจให้ร่วมกับยา umifenovir โดยมีการวิจัยทดลองทางคลินิก (clinical trials) วันที่ 6 ก.พ. 2020
สูตรยา 2 ยา oseltamivir ให้ร่วมกับยา ritonavir วันที่ 7 ก.พ. 2020
สูตรยา 3 ยา Azvudine วันที่ 15 ก.พ. 2020
สูตรยา 4 ยา baloxavir marboxil ให้ร่วมกับยา favipiravir ยา lopinavir และยาritonavir วันที่ 3 และ 4 ก.พ. 2020
สูตรยา 5 ยา darunavir กับ ยา cobicistat บางครั้งให้คู่กับยา lopinavir ผสมยา ritonavir และยา thymosin α1 วันที่ 3และ 5 ก.พ. 2020
สูตรยา 6 ยา Remdesivir วันที่ 5 และ 6 ก.พ. 2020
สูตรยา 7 ยา Chloroquine วันที่ 2 กับ 14 ก.พ. 2020
สูตรยา 8 ยา Methylprednisolone วันที่ 10 ก.พ. 2020
สูตรยา 9 ยา Interferon alfa-2b ให้คู่กับ ยา lopinavir ผสมกับ ยา ritonavir และยา ribavirinวันที่ 5 กับ23 ก.พ. 2020
สูตรยา 10 ยา Camrelizumab และ ยา thymosin วันที่ 14 ก.พ. 2020
สูตรยา 11 ยา Tocilizumab วันที่ 13 ก.พ. 2020
ทั้งนี้สูตรยาแบบที่ 6 ใช้ตัวยา “เรมเดซิเวียร์” (Remdesivir) นั้น มีกระแสข่าวว่าถูกนำไปจดสิทธิบัตรเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 ในจีนแล้ว โดยอ้างว่ามีผู้ป่วยเข้าร่วมทดลองยานี้แล้วไม่ต่ำกว่า 700 รายตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธุ์ที่ผ่านมา ขณะที่บริษัทยาในอเมริการก็ขอยื่นจดสิทธิบัตรยาตัวเดียวกันนี้ด้วย เนื่องจากมีผลทดลองว่าออกฤทธิ์ต้านไวรัสโคโรนาในระดับเซลล์ได้อย่างดี ไม่เฉพาะสายพันธุ์2019 แต่ในไวรัสซาร์สและไวรัสเมอร์ส ก็เคยออกฤทธิ์ได้ผลดีเช่นกัน
วินาทีนี้สงครามธุรกิจค้าขาย “ยาต้านโควิด – 19” กำลังเริ่มขึ้นแล้ว หวังว่า “องค์การเภสัชกรรม” จะเตรียมแผนรับมือไว้แล้ว โดยเฉพาะการเล็งหาพันธมิตรผลิตยาราคาไม่แพงนักจากทั่วโลก ไว้รองรับการระบาดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นทั่วประเทศไทยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า....
ข่าวที่เกี่ยวข้อง