นายพลมูชาร์ราฟรอดประหาร พลิกคำตัดสินคดีกบฏ

องค์คณะผู้พิพากษา 3 คนแห่งศาลสูงเมืองละฮอร์  ทางตะวันออกของปากีสถาน มีคำพิพากษาเป็นเอกฉันท์ วานนี้ ( 13 ม.ค.) ว่าการจัดตั้งศาลพิเศษเพื่อพิจารณาคดีนายพลเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ อดีตผู้นำเผด็จการ ข้อหากบฏนั้น ขัดรัฐธรรมนูญ 

อ่านข่าว-จับตาปากีสถานหลังคำตัดสินประวัติศาสตร์ ประหารมูชาร์ราฟ

ศาลยังวินิจฉัยว่า กระบวนการดำเนินคดีตั้งแต่ยื่นคำร้อง  ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของศาล และการคัดเลือกทีมอัยการ ผิดกฎหมาย  ส่งผลให้คำพิพากษาประหารชีวิต เป็นโมฆะด้วย 

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2562 นายพลมูชาร์ราฟ ซึ่งลี้ภัยอยู่ในดูไบ ถูกศาลพิเศษในกรุงอิสลามาบัด ตัดสินให้มีความผิดข้อหากบฏและลงโทษประหารชีวิตแบบลับหลัง ฐานระงับรัฐธรรมนูญเมื่อ 3 พ.ย.2550 และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน  คำตัดสินมีขึ้น ราว 6 ปีหลังเริ่มพิจารณาคดี แต่จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ 

นับเป็นครั้งแรกที่อดีตผู้นำกองทัพเผชิญกับโทษสถานหนักสุดในปากีสถาน ประเทศที่กองทัพยังมีอิทธิพลอยู่มาก กองทัพได้ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนเคียงข้างอดีตผู้บัญชาการวัย 76 ปีทันที ว่าคำพิพากษาก่อความเจ็บปวดให้กับทุกระดับชั้น พร้อมวิจารณ์ว่ากระบวนการพิจารณาคดีไม่เป็นธรรม

อัยการยังสามารถยื่นสำนวนใหม่เพื่อเอาผิดมูชาร์ราฟได้โดยความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี  

มูชาร์ราฟยึดอำนาจแบบไม่เสียเลือดเนื้อในปี 2542 ล้มรัฐบาลพลเรือนภายใต้นายกรัฐมนตรีนาวาซ ชาริฟ  และปกครองปากีสถานแบบปราศจากการท้าทาย กระทั่งเขาพยายามลิดรอนอำนาจตุลาการ  กลายเป็นชนวนประท้วงทั่วประเทศ และนำไปสู่การตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉิน  นอกจากนี้เขายังพัวพันข้อหาฆาตกรรมอดีตนายกรัฐมนตรีหญิง เบนาซีร์ บุตโต จากการโจมตีแบบฆ่าตัวตายในปี 2550

ในปี 2560 ศาลปากีสถานประกาศให้เขาเป็นผู้ร้ายหนีคดี ให้จับกุมทันทีหากกลับประเทศ