ข่าว

'ดรุณวรรณ' ชูสร้างคนด้วยการศึกษา คือ 'DNA ประชาธิปัตย์’

'ดรุณวรรณ' ชูสร้างคนด้วยการศึกษา คือ 'DNA ประชาธิปัตย์’

28 เม.ย. 2566

'ดรุณวรรณ' โชว์วิชั่นเวทีแสดงนโยบายการศึกษา คณะวิศวะ จุฬาฯ ชูสร้างคนด้วยการศึกษา คือ 'DNA ประชาธิปัตย์' พร้อมเดินหน้า สู้นโยบายเรียนฟรี-ปริญญษตรี สาขาที่ตลาดต้องการ

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นตัวแทนพรรคขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ด้านนโยบายการศึกษาของพรรค ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ 26 เม.ย. 2566 โดยชูยุทธศาสตร์ สร้างเงิน- สร้างคน- สร้างชาติ ที่ต้องเริ่มต้นจากสร้างคน เพื่อไปสร้างเงิน และสร้างชาติ

 

นางดรุณวรรณ เริ่มต้นด้วยการตอกย้ำว่าการสร้างคนเป็น "DNA ของพรรคประชาธิปัตย์" เป็นการวางรากฐานการศึกษาด้วยการสร้างรากแก้ว ทำให้เป็นไม้ยืนต้น อยู่รอดได้แม้ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง

 

7 เป้าหมายพัฒนาเด็กและเยาวชน

โดยพรรคประชาธิปัตย์มีเป้าหมายพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณลักษณะที่ดี 7 ประการ คือ สุขภาพดีมีคุณธรรม มีวินัยและจิตสาธารณะ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะภาษา ทักษะชีวิต และทักษะการใช้เทคโนโลยี

 

ทั้งนี้ปชป.ได้ให้ความสำคัญด้านการศึกษามาทุกยุคทุกสมัยที่พรรคได้มีโอกาสบริหารงานที่กระทรวงศึกษาธิการ ผลงานด้านการศึกษาของพรรค ฯ มีความโดดเด่นและได้ดำเนินการมาแล้วหลายนโยบาย และนำมาสู่การขยายผลต่อยอดในปัจจุบัน อาทิ ริเริ่มโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา นโยบายนมโรงเรียนฟรี เริ่มแรก ระดับชั้นอนุบาล กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)ขยายการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี เรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ คนพิการเรียนฟรีตั้งแต่อนุบาล จนถึงปริญญาตรี

 

ส่วนผลงานในปัจจุบันที่พรรคได้มีโอกาสบริหารกระทรวงศึกษา โดยมี ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ผลักดันนโยบายที่เป็นรูปธรรมหลายด้าน รองรับการเปลี่ยนแปลงภายใต้การความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของโลก ทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับเป้าหมายการศึกษาของโลกโดยการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กไทยด้วยวิทยาศาสตร์และ CODING ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์การปฏิรูปการศึกษาโดยตรงถึงเยาวชนไทย

ดรุณวรรณ  เปิดนโยบายการศึกษา ปชป. ที่ คณะวิศวะ จุฬาฯ

โดยบูรณาการการขับเคลื่อนสั่งการนโยบายสู่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันการเรียนการสอนในทิศทางที่นำไปสู่การคิดวิเคราะห์และสร้างทักษะ เพื่อไปใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างมีเหตุมีผล คิดเป็นขั้นเป็นตอน เตรียมคนสำหรับศตวรรษที่ 21 อย่างรู้เท่าทันดิจิทัล และได้เริ่มการเรียนการสอน CODING มาตั้งแต่เทอมที่สองของปีการศึกษา 2562 พร้อมทั้งอบรมครูผู้สอนไปมากกว่า 400,000 คน และได้ขยายผลไปยังภาคส่วนต่าง ๆ ภายใต้แนวคิด CODING for All และ All for CODING

\'ดรุณวรรณ\' ชูสร้างคนด้วยการศึกษา คือ \'DNA ประชาธิปัตย์’

 

นอกจากนี้ยังได้ดำเนินโครงการ “คนละเครื่อง พี่แบ่งให้....น้องได้เรียน” เพื่อจัดหาอุปกรณ์ Smart Devices ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เป็นแหล่งเรียนรู้ และสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลให้กับเด็กไทยซึ่งถือเป็นอนาคตของชาติ โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนโครงการรับบริจาคเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเรียนของนักเรียนมีฐานะยากจนและขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน ที่มีกว่า 1.4 ล้านคนทั่วประเทศ

\'ดรุณวรรณ\' ชูสร้างคนด้วยการศึกษา คือ \'DNA ประชาธิปัตย์’

 

รวมถึงโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ ระยะเวลา 10 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564-2573) เพื่อพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพผู้เรียน ขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้เรียนที่มีความสนใจพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีในทุกพื้นที่ วางเป้าหมายพัฒนาครูมากกว่า 10,000 คน/ปี นักเรียน 100,000 คน/ปี/ระดับชั้น

 

ปฏิรูปอาชีวะเกษตร

ที่สำคัญคือได้ดำเนินการปฏิรูปอาชีวะเกษตร โดยได้จัดตั้งโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้สานต่อศาสตร์พระราชา ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ผ่านกลไกของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั้ง 47 แห่งทั่วประเทศเพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้ 

 

เกิดหลักสูตรชลกร ครั้งแรกในประเทศไทยที่เปิดสอนในระดับ ปวส. ทำให้นักเรียน อาจารย์ ได้มีโอกาสที่จะเรียนรู้ และเอาระบบบริหารจัดการน้าตามแนวพระราชดำริไปประยุกต์ใช้ ขยายผลไปยังชุมชน ทำให้คนในชุมชนและคนทั่วไปได้มีระบบบริหารจัดการน้าที่ดี มีความรู้ที่ดีขึ้น และสามารถที่จะเรียนรู้และพึ่งพาอาศัยตัวเองได้มากขึ้น ถือเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับอาชีวะศึกษา (วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี) ให้มีความรู้ในการบริหารจัดการน้ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

 

คนพิการเรียนฟรี อนุบาล-ป.ตรี

นางดรุณวรรณ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนนโยบายการศึกษาที่พรรค ฯ ต้องการผลักดันให้เกิดขึ้นและพร้อมเดินหน้าทำทันที ถ้าได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้แก่ 

 

  • อินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน ทุกห้องเรียน 

 

  • เรียนฟรี ถึงปริญญาตรีสาขาที่ตลาดต้องการ เช่น วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ นวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ฯลฯ ซึ่งสามารถตอบสนองต่อกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในปัจจุบัน ภายใต้แนวคิด “การตลาดนำการผลิต” เพื่อผลิตบัณฑิตให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน

 

 

  • สนับสนุนอาหารเช้า และอาหารกลางวันฟรี ในระหว่างภาคการศึกษา สนับสนุนนมฟรี 365วัน ให้กับนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 ผ่านสถานศึกษา โดยคำนึงถึงปริมาณ และคุณค่าทางโภชนาการที่นักเรียนจะได้รับ เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง

 

 

  • เพิ่มการสนับสนุนการจัดการศึกษาพิเศษอย่างมีคุณภาพ สำหรับบุคคลหรือเด็กพิการในประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมการจัดการศึกษาแบบเรียนร่วม ระหว่างเด็กที่มีความต้องการพิเศษกับเด็กทั่วไป

 

ยกระดับศักยภาพคนไทยสู่เวทีโลก

นางดรุณวรรณ ได้กล่าวในช่วงท้ายว่าพรรคเห็นความสำคัญเรื่อง Long Life Learning คือการศึกษาทุกช่วงชีวิต พรรคยังมีแนวทางในการพัฒนาเด็กไทยและคนไทย ให้ไปสู่ระดับโลกได้ ภายใต้โครงการ T-Wave คลื่นลูกใหม่ ไทยนิยม ที่ต้องให้ความสำคัญไปที่ THAI / TECH / TEEN ด้วยเป้าหมายที่ต้องการสร้างคนไทย ยกระดับคนไทย การศึกษาไทย ให้มีคุณภาพ และแข่งขันได้ในระดับโลก ทั้งหมดนี้จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับการสร้างคนผ่านการศึกษา เพราะตระหนักดีว่า การศึกษาคือความมั่นคงของประเทศ