ส่อง 'นโยบายการศึกษา' พรรคเพื่อไทย ฟื้น 'แจกทุนโอดอส' ป.1 เรียน 2 ภาษา

Key Points:

• ไม่ยุบรวม รร.ขนาดเล็ก แต่จะยกระดับเป็น อุทยานการเรียนรู้ ชุมชนเข้ามาใช้ประโยชน์ได้
• หนุนการเรียนรู้แบบ Learn to Earn เรียนรู้มีรายได้ เรียนรู้ง่ายตลอดชีวิต ทุกช่วงทุกวัย สามารถโอนหน่วยกิตที่สะสมไว้
• โรงเรียน 2 ภาษาในทุกท้องถิ่น เด็กได้เรียนกับเจ้าของภาษาตั้งแต่ชั้นป.1
• ฟื้นแจกทุนโอดอส หรือ โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน(ODOS) เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษา เรียนฟรีต้องฟรีจริง

 

"การศึกษา" คือรากฐานของชีวิต และปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘นโยบายการศึกษา’ เป็นปัจจัยสำคัญของประชาชนในการตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคการเมืองไหน ในศึกเลือกตั้ง2566 ​เป็นการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทยครั้งที่ 27 จะจัดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. 2566 หลังจากที่มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรไทยชุดที่ 25 เมื่อ 20 มี.ค. 2566

 

‘คมชัดลึก’ อาสาพาไปส่อง ‘นโยบายการศึกษา’ ของพรรคเพื่อไทย พรรคการเมืองที่มีกระแสนำโด่งเหนือพรรคการเมืองอีก 69 พรรคมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านมุมมองของ ดร.อ้อ ณหทัย ทิวไผ่งาม ประธานคณะทำงานด้านการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันประเทศและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย

 

เธอ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยทำการบ้านเกี่ยวกับ นโยบายการศึกษา มาอย่างต่อเนื่อง และรับฟังปัญหาการศึกษาจากกรรมาธิการพรรคเพื่อไทยในสภา ที่สะท้อนปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก ชาวบ้านและชุมชนบ่นกันมาก ต้องทำผ้าป่าเพื่อการศึกษา หล่อเลี้ยงโรงเรียนขนาดเล็กให้ได้ไปต่อได้ เพื่อไทยจะปลดล็อกปัญหา ลดรายจ่าย สร้างรายได้ ขยายโอกาสให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิต

ยกระดับโรงเรียนขนาดเล็ก

พรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายยุบ-ปิดโรงเรียนขนาดเล็กที่มีอยู่ 14,000 แห่งทั่วประเทศ แต่จะทำโรงเรียนขนาดเล็ก ให้เป็นอุทยานการเรียนรู้ (Small School Plus TK Park)เพิ่มขีดความสามารถในการเรียนรู้ของชุมชนเพื่อต่อยอด OTOP และส่งเสริมสมรรถนะนักเรียนและครอบครัวเพื่อสนับสนุน OFOS หรือ 1 ครอบครัว 1 Soft Power จริงๆ แล้วมันคือ 1 ครอบครัว 1 ศักยภาพ

 

ฟื้นแจกทุนโอดอส-เรียนฟรีจริง

“ฟื้นแจกทุนโอดอส หรือโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน(ODOS) ในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยกลับคืนมา เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาให้กับประชาชน เรียนฟรีต้องฟรีจริงๆ”

 

เด็กไทยทุกคนต้องเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม และเสมอภาค ยกระดับนโยบายเรียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายซ่อนเร้น สนับสนุนให้เด็กได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เพิ่มงบอาหารกลางวัน 20 % และมีรถรับส่งนักเรียน ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปสถานศึกษาของพ่อแม่ผู้ปกครอง

 

ไม่เพียงเท่านั้น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล รัฐจะ ‘แจกเงินดิจิทัล’ ให้ทุกคนใช้จ่ายเฉพาะกับร้านค้าชุมชน ในรัศมี 4 กิโลเมตร นั้น เยาวชนอายุ 16 ปีสามารถนำเงินส่วนนี้มาเพื่อการศึกษา เป็น Digital Wallet เพื่อการศึกษา ตัดปัญหาถกเถียงให้เด็กเรียนฟรีถึงปริญญาตรีหรือไม่ เปิดกรอบปริญญาตรีไม่ต้องเริ่มเรียนเมื่ออายุ 18 ปีเท่านั้น

 

การศึกษามีความยืดหยุ่นมากขึ้น เด็กอาจจะพร้อมเรียนปริญญาตรีเมื่ออายุ 16 ปี หรือ 18 ปี หรืออาจจะกลับมาเรียนเมื่ออายุ 21 ปี ความจริง การจัดการศึกษาแบบยึดหยุ่น เริ่มตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนปลาย(ม.4-6) ส่วนอาชีวะจะทำให้เรียนฟรี ในระดับปวช. -ปวส. หากไม่เรียนฟรี ก็อยากที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นกลับมาได้

 

ยกเลิกกฏหมายที่ล้าหลัง

กฏหมาย หรือ กฏระเบียบข้อบังคับ ที่ทำให้การศึกษาไทยล้าหลังยกเลิกให้หมด ต้องปรับเปลี่ยน ให้เอื้อต่อการทำหน้าที่ของครู สามารถดึงครูดี และครูเก่งมาทำงานการศึกษาให้เพิ่มมากขึ้น 

 

กฏระเบียบ หรือประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ที่บั่นทอนขวัญและกำลังใจในการทำงานของครู ต้องปรับเปลี่ยนทันที เงินค่าตอบแทน เงินวิทยฐานะต้องไม่ลดลงจากเดิมที่ครูเคยได้รับ

 

นโยบายเพื่อไทย คิดใหญ่ทำเป็นเพื่อคนไทยทุกคน เราเชื่อว่าครูทุกคนมีศักภาพ แต่อาจจะถูกปิดกั้น จนไม่มีใครกล้าขยับทำอะไร ภายใต้กฏระเบียบที่เคร่งครัดจนเกินไป เพื่อไทยจะมาเปิดกรอบ เปิดสมอง ยกระดับนวัตกรรมทางการศึกษา "1 แท็บเล็ต 1 คุณครู ฟรีอินเตอร์เน็ต" เพิ่มประสิทธิภาพการสอนผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่

 

โรงเรียน 2 ภาษาทุกท้องถิ่น

“นโยบาย 1 แท็บเล็ต 1 คุณครู ฟรีอินเตอร์เน็ต” จะทำสนับสนุนครูได้พัฒนาตัวเอง ครูต้องสร้างงานวิจัยแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาการสอน นำมาพัฒนาเด็ก และสนับสนุนโรงเรียน 2 ภาษา ให้เกิดทุกท้องถิ่นของประเทศไทย

 

นักเรียนชั้นป.1 ได้เรียนกับครูที่เก่ง และเป็นเจ้าของภาษาอย่างน้อย 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน

 

“เด็กได้เรียนภาษาต่างชาติ แบบเรียลไทม์กับเจ้าของภาษา ครูอาจจะอยู่ในต่างประเทศ หรือมีครูต่างชาติสอนเสริมร่วมกับครูไทย ทั้งในห้องเรียน และเรียนออนไลน์ มีศูนย์การเรียนรู้แบบ TCDC และ TK Park ให้ครบทุกจังหวัด อย่างน้อยเด็กมีความรู้ด้านภาษาสามารถแนะนำชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวได้ เป็นการปลดล็อกเรียนภาษาอังกฤษมา 20 ปี แต่ยังพูดไม่ได้”

 

Learn to Earn

ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านขั้นตอน Learn to Earn เพื่อ “เรียนรู้มีรายได้ เรียนรู้ง่ายตลอดชีวิต” ทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกช่วงทุกวัย สามารถโอนหน่วยกิตที่สะสมไว้ หางานได้ในทุกช่วงของชีวิต เรียนจบปริญญาตรีอายุ 18 ปี ปรับระบบการศึกษาจาก 6-6-4 ไปสู่ระบบการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อสนับสนุนคนเข้าตลาดแรงงานเร็วขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว และรองรับประเทศไทยเป็นสังคมผู้สูงวัย

 

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนโยบายพรรคเพื่อไทย ที่ให้ความสำคัญกับ ‘นโยบายการศึกษา’ Learn to Earn เรียนรู้คู่มีรายได้ ไม่ยุบรวม โรงเรียนขนาดเล็ก แต่ยกระดับเป็น อุทยานการเรียนรู้ ชุมชนเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ เด็กป.1 เรียน 2 ภาษา ฟื้น ‘แจกทุนโอดอส’ ทุกท้องถิ่น ไม่ด้อยค่าครู ่

 

สนใจเลือกพรรคเพื่อไทย เข้าคูหาเลือกตั้งกากบาทหมายเลข 29 อำนาจอยู่ในมือคนไทยทุกคน นะขอบอก!

 

...กมลทิพย์ ใบเงิน..เรียบเรียง