กยท.รับนโนบายกระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าใช้การตลาดนำการผลิต เน้นงานวิจัยแปรรูปเพิ่มมูลค่ายางพารา พร้อมสนับสนุนใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการทำสวนยาง วางเป้ายกระดับตลาด สร้างเสถียรภาพด้านราคา มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า การทำงานของ กยท.ในปัจจุบัน และในอนาคตจะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 20 ปี และยุทธศาสตร์ยางพารา 20ปี ตลอดจนนโยบายที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมาย คือ ยกระดับการผลิต การแปรรูป และตลาดยางพาราทั้งระบบให้ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความท้าทายภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา โควิด-19 ที่ กยท.ต้องพุ่งเป้าไปที่การใช้แผนตลาดนำการผลิต โดยจะเน้นใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม หรือการวิจัยให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าให้ยางพารา เฉพาะอย่างยิ่งความได้เปรียบในด้านคุณภาพยางพาราไทยซึ่งจัดว่าดีที่สุดในโลก ที่จะช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางพาราไปสู่ตลาดโลกได้ไม่ยาก คือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการช่วยรักษาเสถียรภาพราคายาง
ทั้งนี้ภายหลังวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นโอกาสดีของธุรกิจตลาดยางพารา เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป มีการใช้ถุงมือยาง หน้ากากอนามัย รถยนต์ส่วนบุคคล รวมทั้งในโรงพยาบาลก็มีแนวโน้มจะใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ยางพาราเป็นวัสดุหลักในการผลิตมากขึ้น ซึ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่จะช่วยส่งเสริมให้ตลาดผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางพาราขยายตัวเพิ่มขึ้น
ดังนั้น กยท.จะเร่งเปิดและหาตลาดใหม่ๆ พร้อมกับความพยายามในการดึงเกษตรกร สถาบันเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ซึ่งมีวัตถุดิบในมือเข้าร่วมธุรกิจในฐานะผู้ประกอบการ (SMEs) หรือ Startups ด้วย โดยมุ่งหวังให้เกิดการขับเคลื่อนการบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบตามเป้าหมายที่กำหนด ส่วนในด้านการร่วมทำตลาดกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน กยท.ยังคงดำเนินการเพื่อส่งเสริมการใช้ยางภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ กยท. ยังได้เตรียมการที่จะยกระดับสินค้าจากยางพารา ภายใต้ Business Unit (BU) เพื่อเปิดตลาดใหม่ให้กับนักลงทุนที่สนใจ โดย กยท.จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการให้ข้อมูล เจรจา ประสานงานด้านตลาด ซึ่งเป็นการขยายตลาดเพื่อเพิ่มปริมาณการส่งออกด้วย
อย่างไรก็ตามเพื่อให้การเกิดความยั่งยืน และความมั่นคงในการทำสวนยางของเกษตรกร กยท.จะสนับสนุนหลักการทำสวนยางโดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ควบคู่กับการควบคุมการผลิตยางให้ได้คุณภาพมาตรฐานระดับโลก ด้วยมุ่งจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพความพร้อมตั้งแต่ระดับต้นยาง การบริหารจัดการ จนถึงระดับการส่งออกยางพารา เพื่อก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพาราในอนาคต ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีการขยายตัว ในขณะที่เกษตรกรจะมีความมั่่นคงในอาชีพชาวสวนยาง
"ยางพาราถือเป็นทองคำขาวและเป็นอุตสาหกรรมที่มีความเข้มแข็ง ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคตอย่างแน่นอน” ผู้ว่าการ กยท.เปิดเผยในตอนท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง