ข่าว

พี่ชายยัน'น้องสาว'ยังอยู่ในเมืองไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พี่ชายยัน"น้องสาว"ยังอยู่ในไทย ไม่ได้หลบหนีไปต่างประเทศตามที่มีข่าวลือ ด้านสาวน้อยวัย16 ผวาถูกขู่ฆ่าขอย้ายห้องรพ. “รองภาณุ”ชี้เหตุรถชนเพราะเก๋งขับจี้รถตู้ เตรียมแจ้งความเอาผิด

(29ธ.ค.) ผู้สื่อข่าว ติดต่อสอบถามนายณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือ"ภูมิ"พระเอกดังค่ายเอ็กแซ็กท์ฯพี่ชายต่างมารดาของ"สาวน้อย"วัย 16 ปี เกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงกระแสสังคมที่กดดันน้องสาวเวลานี้ และข่าวลือที่ว่าสาวน้อยหนีคดีไปต่างประเทศนั้น ได้รับการยืนยันว่าไม่จริง น้องสาวต่างมารดายังอยู่เมืองไทย และยืนยันทุกคนในครอบครัว รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น

"คุณพ่อผมเองก็เสียใจ ทุกคนก็เสียใจ น้องสาวผมก็เสียใจ ส่วนเรื่องข่าวที่ว่าเรานามสกุลใหญ่จะใช้เส้นสายช่วยน้อง ตรงนี้เราไม่เข้าไปแทรกแซงแน่ๆ และจะให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย คุณพ่อผมเป็นทหาร ถึงท่านจะลาออกจากราชการมา 10 ปี รักความยุติธรรมมาก ตั้งแต่ผมโตมา ท่านสอนเรื่องความมีระเบียบวินัย ความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม เรื่องจะไปแทรกแซงอะไรไม่มี ถ้าสังเกตจากเรื่องของผมที่เคยผ่านมา ผมก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฏหมาย ครั้งนี้คุณพ่อบอกกับผม ว่าท่านเสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก และจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางยุติธรรม ถ้าน้องผิดก็ให้น้องได้รับบทเรียนตอนนี้รออย่างเดียว รอให้ตำรวจสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมทางเราถึงยังเงียบอยู่ ด้วยหลักฐานมันยังคลุมเครือ ผมเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่บอกได้คำเดียว่าเสียใจมาก รู้สึกเสียใจกับครอบครัวที่ต้องสูญเสียคนที่เป็นที่รัก และเข้าใจความรู้สึกของการที่ต้องสูญเสีย ซึ่งเราก็จะปล่อยให้ตำรวจได้ทำหน้าที่ ถ้าน้องผิด น้องก็ได้รับบทเรียน เพราะน้องผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง" นักแสดงชื่อดังกล่าว

เจอกระแสสังคมกดดันหนักขนาดนี้ ถามว่าทางครอบครัวรู้สึกเครียดขนาดไหน พระเอกหนุ่มชื่อดัง นิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะย้อนถามกลับมาว่าด้วยน้ำเสียงเครียดและจริงจังว่า

"ถ้าเป็นพี่จะเครียดไหม ครอบครัวผมทุกคนก็เครียด แต่เราก็มีสติ และแก้ไขปัญหาสิ่งที่ทุกคนรู้สึกตอนนี้ คือเสียใจมากๆ เราเสียใจจริงๆกับเรื่องที่เกิดขึ้น และผมคงไม่ขอพูดอะไรไปมากกว่านี้"นายณัฏฐ์กล่าวเสียงเรียบ

เมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกันที่รพ.วิภาวดี พ.ต.ท. พิทักษ์ นิยมพฤกษ์ รองผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต เดินทางมาสอบปากคำผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถตู้จนมีผู้เสียชีวิต 8 ศพ ที่ยังพักรักษาอาการบาดเจ็บ ได้แก่ นายวรัญญู เกตุชู อายุ 20 ปี นักศึกษาปีที่ 3 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และน.ส.กัญจนภัส ปัญญาประเสริฐ อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเดียวกัน

หลังสอบสวน พ.ต.ท.พิทักษ์ กล่าวว่า ตำรวจได้สอบปากคำพยานซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ที่พอให้การได้ และรวบรวมพยานหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ส่วนสาวน้อย วัย 16 ปี คนขับรถฮอนด้าซีวิคคู่กรณี ขณะนี้ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บปวดที่สะโพก ซึ่งการรักษาตัวที่โรงพยาบาลต้องปิดเป็นความลับ เนื่องจากตอนนี้ สาวน้อยมีความหวาดกลัว เพราะถูกข่มขู่เอาชีวิต อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำสาวน้อย และยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา

เนื่องจากยังเป็นเยาวชน ตำรวจต้องรอสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ หลังจากหายดีจะเชิญตัวมาสอบปากคำทันที ทั้งนี้ ตนขอยืนยันตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ด้าน นายวรัญญู กล่าวว่า หลังเลิกเรียนตนขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางกลับบ้านงามวงศ์วาน โดยนั่งแถวด้านใน หลังขึ้นรถจ่ายเงินเสร็จตนก็หลับไป มารู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่รถถูกชนรุนแรง จากนั้นรถหมุนคว้างตนล้มไปทับผู้โดยสารอีกคน ก่อนที่ตนจะรวบรวมสติคลานออกมาจากซากรถตู้ และถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยนำส่งโรงพยาบาล ขณะนี้แพทย์ได้ทำการผ่าตัดกระดูกไหปลาร้าที่หัก และหัวเข่า ซึ่งอาการโดยทั่วไปดีขึ้นมากแล้ว

นางภัคนันท์ เกตุชู อายุ53 ปี อาชีพทำสวน ที่จ.พัทลุง มารดานายวรัญญู กล่าวว่า หลังทราบข่าวรู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าผู้ประสบเหตุจะเป็นลูกตนเอง จึงรีบเดินทางจากขึ้นมากทม.เพื่อมาดูอาการลูกภายหลังแพทย์ทำการผ่าตัด อาการดีขึ้นมาก ทั้งนี้อยากให้ตำรวจดำเนินคดีผู้ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างเฉียบขาด

นางพิจิตรา ปัญญาประเสริฐ อายุ 48 ปี อาชีพนักข่าววิทยุในจ.เชียงใหม่ มารดาน.ส.กัญจนภัส กล่าวว่า ปกติลูกสาวพักอยู่ที่หอพัก ภายในมหาวิทยาลัย แต่วันเกิดเหตุได้นั่งรถตู้เพื่อจะมาขึ้นรถทัวร์ที่หมอชิต เพื่อเดินทางกลับบ้าน ที่ จ.เชียงใหม่ แต่กลับมาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน ซึ่งอาการโดยทั่วไปดีขึ้น แต่ยังน่าเป็นห่วง เรื่องของเส้นเลือด สะโพก และหลังที่เป็นแผลแกรรจ์ ส่วนคดีความยังไม่คิด ต้องรอให้ลูกสาวดีขึ้นก่อน

อย่างไรก็ตามจากการพุดคุยลูกสาวยังคงตื่นตระหนกกับเหตุที่เกิดขึ้น แต่หลังตนปลอบประโลมจนถึงขณะนี้สภาพจิตใจดีขึ้นมากแล้ว ทั้งนี้อยากให้คู่กรณีมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง เพราะตั้งแต่เข้าโรงพยา บาลมาจนถึงวันนี้ยังไม่มีใครมาแสดงความรับผิดชอบ

ด้านนายไตรภพ วิชย์โกวิทเทน หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า นักศึกษาของมหาวิทยาลัยที่บาดเจ็บ ทางมหาวิทยาลัยได้ส่งตัวแทนนักศึกษาแต่ละคณะมาเยี่ยมตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา และตรวจสอบว่ามหาวิทยาลัยจะให้ความช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ทั้งนี้ตอนแรกอยากให้ย้ายไปรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อจะได้ดูแลอย่างเต็มที่ แต่ผู้บาดเจ็บต้องเข้ารับการผ่าตัด และต้องดูแลอย่างต่อเนื่องจึงยังคงรักษาที่รพ.วิภาวดีไปก่อน

ซึ่งก็ต้องรอดูอาการ และความประสงค์ของผู้ปกครองด้วย ส่วนเรื่องการเรียนทางคณะได้สอบไปแล้วส่วนหนึ่ง และจะสอบอีกครั้งในช่วงหลังปีใหม่ ซึ่งทางคณะเข้าใจดี และคิดว่าเรื่องการเรียนการสอนคงไม่มีปัยหาอะไร

พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ กลันทปุระ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายราย เป็นเหตุสะทือนขวัญ โดยเมื่อช่วงเช้าพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้บาดเจ็บที่พอให้การได้ ซึ่งยังพักรักษาตัวที่ รพ.วิภาวดี ซึ่งส่วนใหญ่ให้การไปเท่าที่ตนเองเห็น ส่วนคนขับรถเก๋งคู่กรณียังเป็นเยาวชน หลังเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล พนักงานสอบสวนยังไม่สอบปากคำ อย่างไรก็ตามได้ทำหารสอบปากคำมารดา ซึ่งให้การว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น และขอให้ตำรวจทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคดีนี้ผู้บังคับบัญชากำชับให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งคดีนี้ได้ตั้งชุดสอบสวนไว้หมดแล้ว เบื้องต้นสำหรับคนขับรถเก๋งจะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนข้อหาอื่นจะพิจารณาไปตามพยานหลักฐานที่พบ

ส่วนกรณีเยาวชนมาขับรถ ตำรวจต้องดูพ.ร.บ.จราจรมาประกอบการพิจารณาความผิด ส่วนรถทั้ง 2 คันให้เจ้าหน้าที่พฐ.มาเก็บรายละเอียดเพื่อเติมเพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ทั้งนี้อยากฝากถึงผู้ที่เห็นเหตุ การณ์สามารถเดินทางมาให้ข้อมูลกับตำรวจ สน.วิภาวดีได้ตลอด 24 ชม.

ขณะที่นางรัตติยา คตันธา อายุ 52 ปี มารดานายปรัชญา คันธา อายุ 21 ปี นศ.ปีที่3 คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สมคิด ศรีนาเมือง ร้อยเวร สน.วิภาวดี เพื่อขอเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับกดำเนินการเรื่องประกันชีวิตของนายปรัชญา โดยนางรัตติยา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุยังไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ อย่างไรก็ตามทางตนไม่ได้ต้องการที่จะเรียกร้องอะไร แต่เหตุที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย หากจะมีดำเนินการทางกฎหมายอยากให้ผู้เสียหายทุกคนคุยกัน แต่สำหรับตนยังไม่ได้คิดเรื่องนี้

สำหรับนายปรัชญา บุตรชาย ที่ผ่านมาเป็นเด็กดี ขยันเรียน และเชื่อฟังพ่อแม่ เคยได้ทุนแลกเปลี่ยนของสโมสรโรตารี่ ไปมลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตนมองว่าเป็นเรื่องประมาท อยากให้ผู้ที่ขับรถบนท้องถนนมีความระมัดระวังไม่อยากให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นมาอีก

เมื่อเวลา 12.00น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น.รับผิดชอบงานจราจร เปิดเผยถึงมาตรการล้อมคอกอุบัติเหตุบนทางด่วนหรือโทลย์เวย์หลังเกิดเหตุรถตู้ชนรถเก๋งบนโทลย์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 8 รายว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความประมาท เพราะดูจากกล้องวงจรปิดมีการขับกระชั้นชิดกัน เมื่อเกิดเหตุกะทันหันขึ้นวิสัยในการหยุดรถจึงทำไม่ได้ไม่ได้เกิดจากการปาดหน้า แต่รถที่ชนก็ไม่แรงเพียงแต่มีการสะกิดรถตู้ให้เสียหลักและแรงเหวี่ยงทำให้ประตูด้านหลังของรถตู้เปิดออกประกอบกับผู้โดย สารก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุทำให้ไม่ได้ทันตั้งตัวจึงหลุดลอยออกจากรถตู้ทำให้เสียชีวิตในที่สุด

พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า เหตุที่หลุดออกจากตัวรถตู้โดยสาร เพราะผู้โดยสารไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัยและกระเด็นออกมาตกลงจากทางด่วนที่มีความสูงถึง 20 เมตรซึ่งตกลงมาโอกาสเสียชีวิตมีสูง ส่วนเรื่องมาตรการความปลอดภัยจากที่ผู้ขับขี่รถเก๋งคู่กรณีมีอายุเพียงแค่ 16 ปีซึ่งแน่นอนว่ายังไม่สามารถมีใบขับขี่รถยนต์ได้จึงต้องมาวิเคราะห์ว่าทำไมถึงขับรถยนต์ได้กรณีนี้จะมีคำถามตามมาว่าถ้าเป็นลูกของเราแล้วเอารถออกจากบ้านไปทั้งๆ ที่เรารู้ว่าไม่มีใบขับขี่จะต้องดำเนินการอย่างไร ซึ่งต้องหามูลเหตุอีกครั้ง พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะไม่รู้ก็ได้แต่กรณีนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นรถยนต์ของผู้ปกครองหรือไม่หรือเป็นรถของเพื่อนที่ยืมมาซึ่งหากเป็นรถของผู้ปกครองก็อาจจะเป็นการปล่อยปะละเลยไม่ห้ามปรามซึ่งต้องพิสูจน์กันอีกครั้ง

 “แต่หากถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันได้หรือไม่เพราะคนขับรถยนต์ไม่มีใบขับขี่จุดนี้ยอมรับว่าในยามค่ำคืนค่อนข้างยากในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แต่ผมขอฝากกรณีดังกล่าวให้ผู้ปกครองเข้มงวดหากบุตรหลานยังไม่มีใบขับขี่ต้องไม่อนุญาตให้นำรถออกมาใช้เด็ดขาดไม่ว่าจะขับเก่งแค่ไหนก็ตาม เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามในทางของกฎหมายของเยาวชนนั้นต้องดูที่เจตนาความผิด เช่นกรณีนี้ไม่มีใบขับขี่ก็เข้าข่ายความผิดไม่มีใบอนุญาต  แต่หากมีความประมาทก็ต้องเข้าข่ายความผิดอีกอย่างหนึ่ง แต่กรณีนี้เป็นเยาวชนการแจ้งข้อหาก็ต้องรอให้ออกจากโรงพยาบาลก่อน และต้องให้ทนาย อัยการ นักจิตวิทยาเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกันเพื่อสอบปากคำ ขณะนี้ยังต้องรอไปก่อนส่วนจะประมาทหรือไม่ก็ต้องรอคำให้การจากพยานและหลักฐานอื่นๆประกอบแต่จากภาพในกล้องวงจรปิด ก็พบว่า รถเก๋งคันนี้ขับมาอย่าง กระชั้นชิดซึ่งตามกฎหมายก็ระบุให้เว้นช่องว่างเพื่อให้มีระยะเบรคที่พอเหมาะแต่ที่แน่ๆคือมีความผิดที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่อย่างแน่นอน” พล.ต.ต.ภาณุกล่าว

 ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสังคมกังวลกรณีที่วัยรุ่นขับรถเก๋งชนรถตู้โดยสารจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งอาจไม่สามารถดำเนินคดีได้เพราะมีนามสกุลดังว่า“ไม่หรอกครับ ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไม่มีใครสิทธิพิเศษ” เมื่อถามว่าจะให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าสามารถดำเนินคดีได้ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องมีการติดตามคดีอย่างเต็มที่

เมื่อถามถึงการบังคับใช้กฎหมายเพราะคนก่อเหตุอายุแค่ 16 ปี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นี่แหละคือสิ่งที่เราพยายามอย่างมากขณะนี้ คือ 1.การเคารพกฎหมาย 2.ความไม่ประมาท อันนี้ก็เป็นจุดอ่อนมาโดยตลอด และเราจะต้องเข้มงวดกวดขันมากขึ้น

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ