หลั่งเลือด(ร้าย)สาระ

จะใช้สีของเลือดแทนสัญลักษณ์การต่อสู้ของคนเสื้อแดง ใช้คุณสมบัติของการหลั่งเลือดชโลมแผ่นดิน เป็นคำประกาศถึงความวีระ กล้าหาญของคนเสื้อแดง แต่ในความเป็นจริงนี่คือยุทธวิธีการต่อสู้ที่สิ้นไร้ไม้ตอก ไม่อาจก่อผลสะเทือนใดๆ นอกจากความสงสารเวทนา และแรงกดดันที่ทำให้คนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งหนีกลับบ้าน

 ดูเหมือนจะเป็นขนบไปแล้ว ที่กลุ่มเคลื่อนไหวภาคประชาชน จะต้องยื่นเงื่อนไข คำขาดต่างๆ นานา เช่น จะชนะ จะเผด็จศึกให้เสร็จภายในหนึ่งวัน จากนั้นก็จะขยายออกไปเรื่อยๆ และคิดค้นวิธีการใหม่ๆ ออกมาต่อสู้ เพื่อไม่ให้มวลชนเสียขวัญว่าเอาชนะไม่ได้ คนเสื้อแดงก็ตกอยู่ในหล่มโคลนนี้เช่นกัน การเพิ่มแรงกดดันจากนี้ อาจเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครแน่ใจว่า คนเสื้อแดงจะดำเนินยุทธวิธีอย่างใดต่อไป เพราะเพียงความคิดจะเจาะเลือด ในขณะที่ความเชื่อถือศรัทธาในกลุ่ม ไม่ได้ถึงขนาดที่ใครจะยอมเสียสละถึงเพียงนั้น  ก็เป็นเรื่องน่าห่วงใยแล้วว่าคนเสื้อแดงจะเดินต่ออย่างไร โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามยั่วยุให้เกิดการใช้กำลัง อันเป็นสุดยอดปรารถนาของพวกเขา

 ทักษิณ ชินวัตร เคยพูดไว้ คราวให้สัมภาษณ์ไทม์ส ออนไลน์ แล้วถูกวิพากษ์ วิจารณ์อย่างหนัก “เขาตั้งคำถามแล้ว ผมฟังไม่ชัดเจน แล้วไปตอบเร็วเกินไป ยังไม่ได้ไตร่ตรอง คิดเร็วไป เป็นความผิดพลาดที่ผมจะต้องเอาหัวโขกพื้นเลย ขอบอกเลยครับว่า  ผมคือคนเดิม ไม่เคยคิดเลว ทรยศต่อชาติ ประชาชน  และไม่จงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัว ผมพร้อมจะกรีดเลือดให้ดูได้เลยว่า ผมไม่ได้เป็นคนแบบนั้น” ความคิดเรื่องกรีดเลือด เจาะเลือด มาจากทักษิณ ชินวัตร นี่เอง ทักษิณ บอกว่าพร้อมจะกรีดเลือด แต่ไม่เคยกรีด มวลชนเสื้อแดงไม่พร้อมจะเจาะเลือด ตามมุกผู้นำที่ไม่ได้บอกกล่าวกันมาก่อน 

 แกนนำเสื้อแดงอาจฮึกเหิม สำคัญผิดว่า กำลังจะก่อวีรกรรมครั้งยิ่งใหญ่ มวลชนเสื้อแดงบางส่วนก็อาจยอมให้เจาะเลือดด้วยความเต็มใจ เพราะเชื่อว่าจะเป็นหนทางแห่งชัยชนะได้ ด้วยความคิดในเชิงอุดมการณ์ คนเหล่านี้จะได้รับการเชิดชู ยกย่อง ในความกล้าหาญและเสียสละ แม้เลือดในกายแน่นอนหากเจตนาแฝงเร้นไม่ปรากฏชัดเจนว่าทุกสิ่งนั้น ทำเพื่อถวายทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว ไม่ได้ทำเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย หรือขับไล่อำมาตย์ ซึ่งจนถึงวันนี้ คนเสื้อแดงเกือบทั้งหมด ก็ไม่เข้าใจว่าเสียงที่เปล่งออกมา ไล่อำมาตย์ในทุกครั้งที่มีการชุมนุมนั้น คำว่าอำมาตย์มีความหมายแท้จริงอย่างไร เรื่องเจาะเลือดสู้รัฐบาลนี้ จึงนอกจากเป็นความร้ายที่กระทำต่อคนซึ่งเขาไม่ยินดีแล้ว ยังไม่มีสาระอันใดให้จดจำด้วย