ข่าว

ขู่ร่วม4ชาติฟ้องศาลโลกจีนทำน้ำโขงแห้ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ขู่ร่วม 4 ชาติฟ้องศาลโลกจีนทำน้ำโขงแห้ง โต้ทส . มั่วข้อมูลน้ำโขงเสนอครม . ชี้ไทยรับน้ำโขงจากจีนโดยตรง 95 % ท้า รมต . ลงพื้นที่ให้เห็นกับตา “ เอ็นจีโอ ” จี้ปลด “ สุวิทย์ - อธิบกรมน้ำ ” เมินแก้ปัญหาชาวบ้าน

นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ประธานชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า   จากการลงพื้นที่ไปสำรวจแม่น้ำโขงบริเวณ อ . เชียงแสน อ . เชียงของ ไปจนถึงสุดชายแดนไทย ลาว พม่า ที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ จ . เชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำโขงลดปริมาณลงอย่างเห็นได้ชัด และไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เนื่องจากมีบางสิ่งบางอย่างเป็นตัวกำหนดการขึ้นลงของน้ำ สำคัญที่สุดคือสิ่งที่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยเฉพาะกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องยอมรับความจริง คือ แม่น้ำโขงที่ไหล ผ่านอ . เชียงของ และเชียงแสน   เป็นน้ำโขงที่มาจากประเทศจีนโดยตรงถึง 95 % ไม่ใช่แค่ 16 % ตามที่ทางทส. รายงานให้นายกรัฐมนตรีและครม . ทราบ  

 นายวันชัย กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในช่วง 5-6 ปี ที่ผ่านมา ระดับน้ำในพื้นที่ อ . เชียงแสนและเชียงของ ไม่เคยขึ้นลงตามธรรมชาติเลย นับตั้งแต่จีนมีการสร้างเขื่อน ทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับด้วยว่าประเทศจีนต้องการให้มณฑลยูนนานเป็นพื้นที่สำหรับสร้างพลังงานที่ใหญ่ที่สุด และแผนพัฒนาประเทศแบบก้าวกระโดดของประเทศจีน จำเป็นจะต้องผลิตพลังงานไฟฟ้าให้ได้จำนวนมาก หากไม่มีการผลิตพลังงานไฟฟ้าให้ได้จำนวนมาก แผนการพัฒนาแบบก้าวกระโดดก็จะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ช่วงเวลานี้จีนจึงต้องกักเก็บน้ำให้ได้ระดับที่เพียงพอต่อการผลิตพลังงานไฟฟ้า จึงไม่สามารถปล่อยน้ำออกมาจากเขื่อนได้ ทำให้ประเทศที่อยู่ท้ายน้ำ โดยเฉพาะประเทศไทย ที่ อ . เชียงของ และเชียงแสน ได้รับความเดือดร้อนโดยตรง จึงอยากท้าให้ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำและ รมว . ทส. ลงพื้นที่ไปดูด้วยตาตัวเองว่าแม่น้ำโขงเกิดวิกฤตอย่างไรบ้าง ไม่ใช่รับฟังข้อมูลอยู่เฉพาะในพื้นที่ส่วนกลาง และอยากให้รัฐบาลไทยรวมตัวกับประเทศอื่นๆ ที่ต้องใช้แม่น้ำโขง เพื่อเรียกร้องให้ประเทศจีนเปิดเผยข้อมูล และไม่กักเก็บน้ำเอาไว้ใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเองฝ่ายเดียว

  ประธานชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การที่รัฐบาลจีนได้เชิญชวนให้ประเทศที่ต้องใช้น้ำในแม่น้ำโขงไปดูงาน   และดูเขื่อนจิงหง ในมณฑลยูนนาน   เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ ตนคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปก็ได้ เพราะเมื่อมีคณะเข้าไปเยี่ยมชมจีนจะทำให้ภาพออกมาดูดีอย่างไรก็ได้ แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่จีนแสดงให้ดูในเวลานั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงและเป็นเช่นนั้นตลอดไป และในที่สุดแล้ว หากเรียกร้องไปยังจีนแล้วจีนยังไม่ยอมเปิดประตูเขื่อน กลุ่มประเทศที่เดือดร้อนจากการกระทำของประเทศจีนที่ปิดประตูเขื่อน อาจจะต้องรวมตัวกันเพื่อฟ้องศาลโลก ซึ่งกรณีของการใช้น้ำโดยประเทศต้นน้ำเอารัดเอาเปรียบประเทศที่อยู่ท้ายน้ำเคยเกิดขึ้นมาแล้วในยุโรป ซึ่งในที่สุดประเทศท้ายน้ำได้รับชัยชนะในการต่อสู้คดี

  ด้านนาย หาญณรงค์ เยาวเลิศ อนุกรรมาธิการน้ำ วุฒิสภา กล่าวว่า    การที่ทส. รายงานต่อ ครม . ว่าสัดส่วนน้ำแม่น้ำโขงจากจีนมีแค่ 16 % นั้นถือเป็นการพูดไม่หมด และไม่เอาความจริงมาพูด ข้อมูลที่นำเสนอต่อ ครม . นั้นเป็นการวัดตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำที่กัมพูชาจึงทำให้สัดส่วนน้ำจากจีนมีเพียงน้อยนิด ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (เอ็มอาร์ซี)ใช้ตลอดมา ถือเป็นการใช้ไสยศาสตร์ทางวิศวกรรม   ซึ่งตลอดความยาวของแม่น้ำโขงกว่า 4,000 กม . นั้น   เฉพาะครึ่งหนึ่งคือ 2,000 กม . ก็อยู่ในประเทศจีนแล้ว ผ่านพม่าเพียงแค่บางส่วนจึงถือได้ว่าประเทศไทยรับน้ำโขงจากจีนเต็มๆ ถ้ารัฐบาลเชื่อข้อมูลดังกล่าวโดยที่ไม่แสวงหาความจริงทั้งหมด และมองถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านก็ถือว่าใช้ไม่ได้ และเป็นการออกหน้ายอมรับแทนจีน

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ