'น้องพร' กระหน่ำโทรหา 'นนท์' หัวหน้างาน ช่างกิต ขอให้ช่วยเป็นพยานคดี

8 ก.พ.2567  จากคดีการเสียชีวิตของนายธนาสันต์ หรือ ใหม่ สามีของ น.ส.พร หรือ น้องพร ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุม นายกิตติโชติ หรือ ช่างกิต บางบ่อ ผู้ก่อเหตุอุ้มฆ่า นายใหม่ ได้แล้ว แต่ยังมีประเด็นสงสัยในปมเหตุแรงจูงใจ  รวมถึงผู้ร่วมก่อเหตุ ซึ่งหนึ่งในนั้น รวมถึง น้องพร ภรรยา ของนายใหม่ ผู้ตาย ที่ออกมายอมรับว่าตนเองแอบไปมีสัมพันธ์กับ ช่างกิต ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของน้องพร นั่นเอง 

 

ในขณะที่ตัวน้องพร ปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นกับกรณีการเสียชีวิตของนายใหม่ โดยระบุว่าขณะที่เกิดเหตุตนเองนั้นนอนหลับพักผ่อนอยู่ที่บ้าน  

 

 

ล่าสุด นายนนท์  หัวหน้างานของ น้องพร และ ช่างกิต บางบ่อ ผู้ต้องหาคดี อุ้มฆ่า นายธนาสันต์ หรือ ใหม่ สามี น้องพร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากเมื่อวานนี้ น้องพร พยายามโทรหาตนเองหลายสายขณะออกรายการทางสถานีโทรทัศน์รายการหนึ่ง

 

นายนนท์  ระบุว่า น้องพร ได้โทรศัพท์มาหาตนตั้งแต่ช่วงที่ออกรายการหนึ่ง  แต่เป็นเบอร์แปลก ซึ่งเป็นเบอร์ใหม่ของ น้องพรและตนก็ไม่รู้ แต่เมื่อโทรกลับไป พบว่าเป็นน้องพร ซึ่งได้ขอให้ตนช่วยเป็นพยานปากเอกให้  ขอให้ช่วยบอกตำรวจว่าตนไม่รู้จักและไม่เคยเห็นรถคันที่ช่างกิตนำไปใช้ในวันก่อเหตุ แต่ก็ไม่ได้รับปากว่าจะไปเป็นพยานให้หรือไม่ และได้บอกกับน้องพรไปด้วยว่าจะต้องนำข้อมูลตรงนี้ไปบอกกับตำรวจ

 

นายนนท์ ยังบอกอีกว่า  น่าแปลกใจคือหลังจากวางสายจาก น้องพร  เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรกลับเข้ามาหาตนทันที โดยขอให้ตนได้เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจในประเด็นเดียวกันนี้ ซึ่งตนมีคลิปบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับน้องพรแต่ตำรวจขอยังไม่ให้เปิดเผยข้อมูลใดๆ กับสื่อมวลชน ซึ่งตนยืนยันที่จะพูดความจริงและให้ข้อมูลกับตำรวจตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เปิดแชต ‘ช่างกิต’ บอกเมียท้อง หัวหน้างานเผย เป็นคนคลั่งรัก

‘พร’ ให้ปากคำ พ่อเครียดที่ลูกสาวทำแบบนี้ จับเพิ่ม4หลาน-ลูกน้อง ‘ช่างกิต’

 

 

 

 
นอกจากนี้ นายนนท์ ยังเปิดแชทข้อความให้ดูถึงในช่วงวันแรกวันที่ตามหาตัวฆาตกรนายใหม่ วันที่ตำรวจพบภาพจากกล้องวงจรปิด พบรถต้องสงสัยคันสีแดงที่ช่างกิตใช้ก่อเหตุ ซึ่งน้องพรได้ทักแชทมาให้ตนโทรกลับเพื่อจะพูดคุยถึงประเด็นนี้ แต่ตนติดส่งสินค้าให้กับลูกค้าอยู่ เมื่อตนโทรกลับไป น้องพรก็ได้ถามเรื่องรถ เรื่องคดีความ เรื่องหมายจับและยังถามตนอีกด้วยว่ารู้ไหมว่าใครก่อเหตุ และน้องพร ยังบอกด้วยว่าสงสัยว่าจะเป็นหนึ่งในผู้ถูกออกหมายจับ ตนก็ยังแปลกใจอยู่ว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น แต่ก็คิดว่าคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

 

 

 

 

นอกจากนี้ นายนนท์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า น้องพรไปบ้านช่างกิตทุกวันก็ต้องเห็นรถคันก่อเหตุสีแดงคันนี้ และน้องพรเองก็เคยนั่งรถคันนี้ด้วย เหตุใดจึงไม่ยอมให้ข้อมูลหรือบอกตำรวจตั้งแต่วันแรกที่เห็นคลิป หากบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรกบอกตำรวจไปก็จบแล้ว 
      

 

 

 

ส่วนเรื่องกรมธรรม์ที่นายใหม่ทำประกันเอาไว้ ตนไม่เคยทราบมาก่อน ที่ผ่านมาทั้งช่างกิตและน้องพรไม่เคยมาปรึกษาเรื่องผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการทำประกัน ตนเห็นตามข่าวจำนวนเงินก็เยอะอยู่