สาวโรงงานร้อง "เพจสายไหมต้องรอด" ถูกสามีเมาอาละวาด ใช้มีดกระหน่ำแทงบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจตั้งเพียงข้อหาบุกรุก-ทำร้ายร่างกาย หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม พบประวัติเคยต้องโทษคดียาเสพติด และ ฆ่าผู้อื่น
23 ธ.ค. 2566 น.ส.เอ (นามสมมุติ) สาวโรงงาน อายุ 43 ปี เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับทีมงาน เพจสายไหมต้องรอด หลังถูกสามีวัย 46 ปี ใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส บริเวณห้องพักแห่งหนึ่งย่านสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา
น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเคยแต่งงานและมีลูก 2 และเลิกรากันไป จนมามีสามีคนที่ 2 ระหว่างนั้น นาย บี (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนกับตนตั้งแต่สมัยเด็กที่อยู่ จ.เชียงราย โดยนาย บี (นามสมมุติ) ได้ติดต่อมาพูดคุยกับตนเอง และมีการชักชวนให้ไปใช้ชีวิตด้วยกัน และตกลงว่าจะร่วมลงทุนซื้อรถยนต์กระบะ เพื่อมาทำมาค้าขายสร้างครอบครัว โดยที่ไม่รังเกียจว่าตนเองจะผ่านการมีบุตรมาแล้ว ทำให้ตนเองหลงเชื่อ นำเงินที่เก็บสะสมจำนวน 35,000 บาท เดินทางจากจังหวัดเชียงราย มาใช้ชีวิตร่วมกันที่ห้องเช่าย่านหนองแขม
แต่ปรากฏว่า เมื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ฝ่ายชายกับไม่ทำงาน เอาแต่ดื่มสุราตลอดทั้งวัน และทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งมีการไปซื้ออาวุธปืนเถื่อนจากโซเชียลมีเดียมาด้วยจำนวนเงิน 12,000 บาท ทำให้ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงได้ทำการบอกเลิก และย้ายหนีไปอยู่ห้องเช่าแห่งหนึ่งย่านรังสิต แต่ฝ่ายชายก็ได้ตามไปง้อจนใจอ่อนและยอมกลับมาอยู่ด้วยกันที่สมุทรสาครอีก
กระทั่งวันที่ 4 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายบี (นามสมมุติ) ที่อยู่ในอาการคล้ายคนมึนเมา ได้ทุบทำลายข้าวของ ทุบกระจกห้อง พร้อมกับขู่ฆ่าตน อ้างว่าตนหนีไปมีชู้ ซึ่งตนก็ได้แจ้งเจ้าของหอพักมาระงับเหตุ พร้อมกับไปลงแจ้งความลงบันทึกประจำไว้แล้ว
หลังจากนั้นนายบี ก็ออกไปดื่มสุราต่อ จนมาถึงช่วงเช้าวันที่ 5 ธ.ค. 2566 นายบี กลับมายังห้องพัก ในขณะนั้นมีช่างกำลังซ่อมแซมประตูห้องเช่าที่พังมานาน นายบี อาศัยจังหวะนั้น เข้าไปภายในห้องเช่า ก่อนจะใช้อาวุธมีดที่เตรียมมา เข้ามากระหน่ำแทงตนตามร่างกาย หน้าอกฝั่งขวา ลิ้นปี่ ท้อง บริเวณข้อมือและแขนทั้งสองข้าง และขาซ้าย รวมแล้วต้องเย็บกว่า 41 เข็ม
หลังเกิดเหตุ ตนก็ได้มีการแจ้งความ ไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งตำรวจก็ได้มีการติดตามจับกุมตัว และนำตัวผู้ต้องหาฝากขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดสมุทรสาครแล้ว แต่ตนยังติดใจว่า ผู้ต้องหาเคยขู่อาฆาต ว่าจะเอาชีวิต เกรงว่าถ้าผู้ต้องหาพ้นโทษออกมา ตนจะไม่ได้รับความปลอดภัย เนื่องจากการดำเนินคดีอัตราโทษที่น้อย
นอกจากนี้ ญาติของฝั่งผู้ต้องหามีการโพสต์ในโซเชียลมีเดีย ในเชิงลักษณะกล่าวหาตนแบบเสียหาย อ้างว่าตนไปมีชู้ และตั้งแต่เกิดเหตุมาตนยังไม่ได้รับเงินเยียวยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ผู้ต้องหาเคยต้องโทษในคดีค้ายาเสพติด , คดีฆ่าผู้อื่น แต่ทั้ง 2 คดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว
ทางด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายใหม่ต้องรอด เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อเพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เพราะตอนนี้ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งการกระทำดังกล่าว ควรจะเป็นข้อหาพยายามฆ่า รวมทั้งจะพาผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานของกระทรวงยุติธรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง