ข่าว

'กาละแมร์' อ่วมจ่อโดนอีกคดีโฆษณาอาหารเสริมเกินจริง 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'กาละแมร์' พัชรศรี เบญจมาศ ดาราพิธีกรที่ตกเป็นกระแสข่าวโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของตัวเองเกินจริง จนถูกตำรวจปคบ.ออกหมายเรียกให้มาพบในวันที่ 28 ม.ค. นี้ ส่วนกรณีอวดอ้างอื่น ๆ อยู่ในระหว่างการสอบสวนซึ่งเป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ 

     จากกรณีที่ทาง อย. ส่งเรื่องให้ บก.ปคบ. ดำเนินคดีกับ “กาละแมร์" พัชรศรี เบญจมาศ ที่ได้ออกมาโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของตัวเอง อวดอ้างสรรพคุณว่ากินแล้วยกหน้า ตาหายตกเหมือนทำตาสองชั้น ดั้งโด่ง เหนียงหาย จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ และเคยถูกดำเนินมาก่อนหน้านี้แล้ว 7 คดี ในข้อหาโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต, และโฆษณาโอ้อวดเกินจริงมาแล้วนั้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง "ปคบ." ติดต่อ "กาละแมร์" ไม่ได้ เปลี่ยนเป็น "ออกหมายเรียก" รับทราบข้อหาสัปดาห์หน้า

     ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 21 มกราคม พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ. เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 กับทาง คุณ “กาละแมร์" พัชรศรี ตลอดจนทางบริษัทของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

     ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 40 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท และข้อหาโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 41 ซึ่งมีโทษ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

 

     โดยจะให้ทาง “กาละแมร์" พัชรศรี มาเข้าพบทางตำรวจ บก.ปคบ.ในวันที่ 28 มกราคม เวลา 11.30 น.นี้ ซึ่งเป็นคดีที่มีการโพสคลิปโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของตัวเอง อวดอ้างสรรพคุณว่ากินแล้วยกหน้า ตาหายตกเหมือนทำตาสองชั้น ดั้งโด่ง เหนียงหาย ซึ่งหมายเรียกนี้ได้ส่งไปตามที่อยู่ และมีการเซ็นด้วยลายมือรับแล้ว

     ทั้งนี้หากเจ้าตัวประสงค์ที่จะมาเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนวันเวลาดังกล่าว ก็สามารถมาได้ เพราะถือว่าเป็นสิทธิ์จองเจ้าตัว สำหรับที่ทางตำรวจออกหมายเรียกให้เข้ามาพบถึง สัปดาห์หน้านั้น เนื่องจากทางตำรวจให้ทางเจ้าตัวได้เตรียมตัวรวบรวมข้อมูลเพื่อมาชี้แจง โดยในวันนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะเชิญตัวมาทำการสอบปากคำ ว่าจะให้การชี้แจงว่าอย่างไร จากนั้นจะทำการแจ้งข้อกล่าวหา

 

     ส่วนคลิปโฆษณาว่าผลิตภัณฑ์ช่วยรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ตลอดจนรักษาโรคมะเร็ง และโรคซึมเศร้านั้นเป็นคนละส่วนกัน การกระทำเป็นคนละวันและเวลา ถือว่าต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งทาง อย. กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะมีการส่งให้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดี เบื้องต้นต้องแยกการทำสำนวนคดีกันไปก่อน เพื่อความรวดเร็ว แต่หากหลังจากนี้อาจจะมีการรวมคดีกัน ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทางพนักงานสอบสวนอีกครั้ง

    

     สำหรับกรณีที่มีการดำเนินคดีมาแล้ว 7 คดีนั้น เป็นในส่วนของทาง อย. ดำเนินการปรับเองไปแล้ว ไม่ได้ส่งเรื่องมายัง บก.ปคบ.แต่อย่างใด


 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ