ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร เตรียมฝากขัง 4 ผู้ต้องหาคดียาเสพติด "เคนมผง" ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ขณะที่ รอง ผบช.น.ร่วมประชุมคดี 2 นักพี้เสียชีวิต ภายในซอยลาดพร้าว-วังหิน7
วันนี้ (14 ม.ค.) พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ได้เตรียมควบคุมตัว 1.นายวิรัฐ หรือ ป๋อง (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี , 2.นายวัชระ หรือ โบ้ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี , 3.นายนพเก้า หรือ ตูมตาม (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี และ 4. นายชาตรี หรือโจ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี
ผู้ต้องหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน , เฮโรอีน และ 3,4 -เมทิลลีนไดออกซี่เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขาย และขายโดยผิดกฎหมาย ไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยท้ายคำร้องตำรวจคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ทั้งนี้ ก่อนการนำตัวไปฝากขัง แม่และยายของนายโจ ได้เดินทางมาเยี่ยมลูกชาย พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จะต่อสู้เพื่อลูกชาย เพราะเชื่อว่าลูกไม่ได้ครอบครองยา และไม่ได้เป็นคนรับยาจากนายตูมตาม ก่อนนำมาขายให้กับนายโบ้ และนายป๋อง ตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
ส่วนหลักฐานที่ตำรวจพบว่า มีภาพวงจรปิดขณะนายโจ ซ้อนรถจักรยานยนต์นายตูมตามไปนั้น อ้างว่าลูกชายเพียงแค่นั่งรถไปซื้อข้าวเท่านั้น ทั้งนี้ ลูกชายยอมรับว่าเสพเพียงกัญชา ส่วนยาเสพติดอื่นไม่ได้ยุ่งเกี่ยว นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับผู้ต้องหาอีก 3 คน ก็ยืนยันว่า ลูกของตนเองไม่เกี่ยวข้อง และจะยืนยันกับตำรวจในเรื่องดังกล่าว
ขณะที่ สน.โชคชัย โดยมี พล.ต.ต.พีระพงษ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 และชุดสืบสวนคลี่คลายคดีผู้เสพยาเสพติดเสียชีวิต ย่านลาดพร้าว-วังหิน เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสพยาเกินขนาด เสียชีวิต 2 ราย อาการสาหัส 1 ราย บริเวณอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยลาดพร้าววังหิน ซอย 7 แยก 5
หลังมีการแบ่งชุดกันทำงานแล้ว โดยจากการการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบของกลางเป็นถุงซิปยาที่ใช้ไปแล้ว อยู่ในถังขยะ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับยาเคนมผงที่กำลังระบาดในขณะนี้ แต่ยังไม่ได้เชื่อมโยงกับพื้นที่อื่นที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาความเชื่อมโยง
ส่วนกลุ่มที่เสพยาเมื่อวานนี้ มีทั้งหมด 5 คน ซึ่งนางสาวดรีม 1 ใน 5 คนที่อยู่ในกลุ่มเมื่อวานนี้ ได้เรียกมาสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นพบว่าให้การรู้เรื่อง และให้การเป็นประโยชน์ ไม่ได้มีอาการมึนเมา พร้อมให้ข้อมูลว่าไม่ได้เป็นคนที่เสพยาเพียงคนเดียวในกลุ่ม แต่เป็นคนนำเบียร์เข้ามาร่วมวงปาร์ตี้ด้วย
นอกจากนี้จากการสอบสวน พบว่าในกลุ่มที่ปาร์ตี้มี 4 คน คือ นายพารวย หรือ "ไอซ์" อายุ 27 ปี (เสียชีวิต) / นางสาวปรีดาภรณ์ หรือ "กุ้ง" อายุ 30 ปี (เสียชีวิต) / นางสาวสุวรรณี หรือ "ฝ้าย" อายุ 27 ปี (สาหัส) และนายเต๋า (ยังไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุล) คาดว่ามีการนำยาเข้ามาร่วมวงปาร์ตี้เองทั้งหมด จึงไม่สามารถระบุได้เป็นของใคร ขอเวลาตรวจสอบ แต่ในทางสืบสวนไปได้มากพอสมควรแล้ว / ส่วนแหล่งที่มาของยา เบื้องต้นอยู่ในพื้นที่โชคชัย แต่ยังไม่ขอระบุพื้นที่
ขณะที่อาการของนางสาวสุวรรณี หรือ "ฝ้าย" อายุ 27 ปี ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น ตอนนี้อาการยังไม่ดีขึ้น เพราะจากการสอบถามข้อมูลจากแพทย์ที่รักษา ก็บอกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเสพเคเพียงตัวเดียว หรือส่วนผสมอื่นๆด้วย แต่เป็นการโอเวอร์โดสก็ถึงตายได้ โดยจากหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกอย่างหนึ่ง สิ่งที่น่าตกใจ คือ พบข่าวและคลิปเกี่ยวกับยาเคนมผงในโทรศัพท์ของ 1 ผู้เสียชีวิตที่ส่งหากัน แต่ไม่คิดว่าแม้จะมีการดูข่าวมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังมีการเสพกันถึงตาย
สำหรับนางสาวปรีดาภรณ์ หรือ "กุ้ง" อายุ 30 ปี ทำงานเด็กเอน ก่อนเข้ามาในห้องนายพารวย หรือ "ไอซ์" อายุ 27 ปี , นางสาวสุวรรณี หรือ "ฝ้าย" อายุ 27 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งทั้งคู่ขายของอยู่ที่ตลาดอินดี้ ผู้ชายขายขนมครก ผู้หญิงขายกุ้ยช่าย แต่ดันเจอโควิดเลยต้องหยุดไป ส่วนนายเต๋า เมื่อเสพยาไปสักพักแล้ว ได้ขอตัวออกมาก่อน และได้ให้แม่พาไปที่โรงพยาบาลราชวิถี เพราะอาการหนัก ต้องเข้าห้องไอซียู ซึ่งตำรวจได้เข้าตรวจสอบและค้นบ้านของนายเต๋าแล้วว่าเกี่ยวกับเครือข่ายยาเสพติดหรือไม่ โดยอยู่ระหว่างรอผลตรวจเลือด และสารยาเสพติด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง