ข่าว

แฉ 4 ขั้นตอนกลโกง "เงินกู้ออนไลน์" หลอกฉกข้อมูล-เชิดเงินหนี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด กองปราบฯชำแหละขบวนการ "เงินกู้ออนไลน์" พร้อมแฉ 4 ขั้นตอนง่ายๆที่มิจฉาชีพหัวใสใช้หลอกเหยื่อ

 

                  นอกจากการหลอกลวงซื้อ-ขายของออนไลน์แล้ว ยังมีรูปแบบการหลอกลวงผ่านโลกออนไลน์อีกวิธีหนึ่งที่มิจฉาชีพนิยมใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะใน Facebook คือ การเปิดเพจให้ "กู้เงินนอกระบบด่วน" ซึ่งจะมีรูปแบบการหลอกลวงว่า สามารถกู้ได้โดยง่าย เช่น คนที่ติดแบล็คลิสต์ก็กู้ได้โดยไม่ต้องมีหลักประกัน หรือสามารถพิจารณาอนุมัติเงินกู้ให้เสร็จได้ภายใน 1 ชั่วโมง จากนั้นเมื่อมีประชาชนสนใจ ก็จะให้เหยื่อติดต่อผ่านโปรแกรม Facebook , Messenger และส่งหลักฐานต่างๆไปประกอบการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ ซึ่งแท้จริงแล้วมิจฉาชีพเหล่านี้มีเจตนาเพียงแค่ต้องการหลอกให้เหยื่อโอนเงินมัดจำหรือเงินดอกเบี้ยก่อนเท่านั้น

                  อ่านข่าว นักวิทย์โนเบล เผยผู้ป่วยหายดีจากโควิด ยากจะกลับมาติดเชื้อซ้ำ

 

 

 

                  4 ขั้นตอน กลโกงแก๊งปล่อยเงินกู้ออนไลน์

 

                  1. เปิดเพจปลอม

                  - อาจมีการใช้ชื่อเพจให้เหมือนกับบริษัทเงินกู้ใหญ่ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
                  - มีการโฆษณาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมาย และใส่ข้อความชวนเชื่อ เช่น ดอกเบี้ยต่ำ ติดแบล็คลิสต์ก็กู้ได้ เพื่อให้เหยื่อรู้สึกสนใจ

 

                  2. ขอข้อมูลส่วนตัว - ขอเงิน

                  - มิจฉาชีพจะขอเอกสารจากเหยื่อ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
                  - และขอให้เหยื่อ "จ่ายเงิน" ให้โดยอ้างว่าเป็นค่าธรรมเนียมดำเนินการ อาจคิดเป็นร้อยละ ** ของเงินกู้ จึงจะได้เงินกู้ตามจำนวนที่ต้องการ

 

 

เงินกู้นอกระบบ

 

 

 

 

                  3. ปลอมเอกสาร

                  - มิจฉาชีพจะทำเอกสารปลอม และมักใส่ QR Code หรือ Barcode เพื่อทำให้ดูน่าเชื่อถือ กว่าเหยื่อจะรู้ตัว ก็ถูกโกงไปเรียบร้อยแล้ว

 

                  4. หลบหนีเมื่อได้เงิน

                  - เมื่อมิจฉาชีพได้เงินจากเหยื่อแล้ว จะบล็อกบัญชีและหนีหายทันที
                  - นอกจากนี้ เหยื่อบางรายอาจโดนนำข้อมูลไปแอบอ้าง กระทำการฉ้อฉลอื่นๆ อีกด้วย

                  กองปราบปราม จึงอยากให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกู้ยืมเงินอย่างเด็ดขาด หากเดือดร้อนจริงๆ แนะนำให้ใช้บริการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินที่มีมาตรฐานจะปลอดภัยกว่า แม้ขั้นตอนการกู้ยืมอาจต้องมีการตรวจสอบมากหน่อย แต่มั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกหลอกแบบนี้อย่างแน่นอน

                  ขอบคุณข้อมูลจาก : กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)

 

 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ