สตม. กวาดล้างต่างด้าวผิด ก.ม.

 

               เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 7 มิถุนายน 2562 ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)  พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผบก.ตม.1 พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.6 พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.2บก.สส.สตม. และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันแถลงผลกวาดล้างต่างด้าวผิดกฎหมาย 4 คดี

 

 

 

               คดีแรก จับหนุ่มอังกฤษหนีหมายจับยาเสพติด class A มากบดานในประเทศไทย โดยตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สืบทราบว่านายรีส เบรน (MR. REECE BLAIN) สัญชาติอังกฤษ เป็นบุคคลที่ประเทศอังกฤษต้องการตัวตามหมายจับคดียาเสพติด class A หลังหลบเข้ามาพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย จากการตรวจสอบข้อมูลหมายจับคนต่างด้าวในระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง (PIBICS) และประสานกับเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย เพื่อตรวจสอบแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร จากนั้นได้จัดกำลังเฝ้าติดตามความ เคลื่อนไหว จนทราบแน่ชัดว่าคนต่างด้าวดังกล่าว จะเดินทางมาสถานทูตอังกฤษ เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงได้วางกำลังไว้ ที่บริเวณสถานทูต เมื่อพบตัวจับกุมและเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร

               คดีที่ 2 จับหนุ่มเกาหลีหนีหมายจับเว็บพนันออนไลน์และฟอกเงิน มาทำงานในประเทศไทย โดยจับกุมนายเจฮี โช (MR. JAEHEE CHO) สัญชาติเกาหลีใต้ ได้ทำความผิดที่ประเทศเกาหลีใต้ แล้วเดินทางเข้ามาอยู่และทำงานในประเทศไทย โดยเดินทางเข้ามาในประเทศเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 มีวีซ่าประเภท NON-B ได้รับอนุญาต ให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 และเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 ได้มายื่นเรื่องขออยู่ต่อฯ ประเภทธุรกิจ ที่ กก.2 บก.ตม.1 ต่อมาได้รับการประสานจากสถานทูตเกาหลีใต้ว่าคนต่างด้าวดังกล่าวเป็นบุคคลที่ทางการเกาหลีใต้ต้องการตัวตามหมายจับเว็บพนันออนไลน์และฟอกเงิน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบข้อมูลและจัดกำลังไปติดตามควบคุมตัวมาได้ในที่สุด โดยทั้งนี้ได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและจะดำเนินการส่งกลับออกนอกราชอาณาจักรต่อไป

 

 

 

               คดีที่ 3 รวบดีเจหนุ่มอิหร่าน คาผับดังย่าน RCA เรื่องโอเวอร์สเตย์และทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้รับการร้องเรียนว่ามีชาวต่างชาติมาทางานเป็น ดี เจ เปิดเพลงในสถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้จัดกำลังแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวและเข้าตรวจสอบ ตามที่ได้รับการร้องเรียนดังกล่าวพบ นายแคชยา คาราชมี่ (MR. KASHAYAR KHARAZMI) สัญชาติอิหร่าน อายุ 26 ปี ทำงานเป็น ดีเจ เปิดเพลงในร้าน จากการตรวจสอบนายแคชยา มีการลงข้อความเชิญชวนในเฟซบุ๊กว่าจะมาเปิดเพลงที่สถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ ช่วงกลางคืน นายแคชยา ไม่สามารถแสดงหนังสือเดินทาง และใบอนุญาตทำงานให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ และรับว่าตนเองเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งมาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง

               คดีที่ 4 เจ้าหน้าที่ได้จับสาวจีนนั่งดริ้งค์ร้านคาราโอเกะ จากการสืบสวน ทราบว่าจะมีผู้หญิงชาวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ด้วยวีซ่าประเภทท่องเที่ยวและเข้ามาลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาพักอาศัยจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ตม.1 ได้จัดกำลังไปเฝ้าสังเกตหาข่าวบริเวณห้วยขวาง สุทธิสาร รัชดาภิเษก พบว่าจะมีผู้หญิงจีนจำนวนหนึ่งมักจะเดินทางออกจากที่พัก ในช่วงเวลากลางคืน โดยแต่งกายในลักษณะสวยงามสะดุดตาและกลับเข้าที่พักในช่วงดึกหรือเช้ามืด หลังจากหาข่าว จนแน่ใจก็ทราบว่าสาวจีนเหล่านั้นจะออกไปทางานช่วงกลางคืนตามร้านคาราโอเกะและสถานบริการที่มีแขกชาวจีน มาใช้บริการ จนเมื่อคืนวันที่ 5 มิ.ย. 2562 เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบร้าน GOLDEN CLUB ซอยรัชดาภิเษก 18 ห้วยขวาง พบสาวชาวจีน จำนวน 7 คน กำลังให้บริการนั่งดริ้งค์กับลูกค้า ซึ่งลูกค้าทั้งหมด เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จากการตรวจสอบเอกสารประจำตัว และจากระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง พบว่าสาวชาวจีนทุกคนเข้าเมืองถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนใหญ่มีวีซ่าประเภท ท่องเที่ยว ทุกคนไม่มีใบอนุญาตทางาน แต่มาทำงานให้บริการกับลูกค้าชาวจีนด้วยกัน โดยมี น.ส.หงส์ม่าน หวัง อายุ 51 ปี สัญชาติไทย เป็นเจ้าของและผู้ดูแล โดยการนั่งดริ้งค์จะได้ค่าบริการครั้งละ 5,000 บาท เด็กนั่งดริ้งค์ได้ 3,000 บาท เจ้าของได้ 2,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการจับกุม และนำส่ง พงส.บก.สส.สตม. เพื่อ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

               ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดของคนต่างด้าว หรือคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิด กฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th